Welcome Guest: เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ ก.ค. 05, 2025 6:28 pm

หน้าเว็บบอร์ด Summoner Master Card, Deck, and Combo Corner ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

ให้วิเคราะห์การ์ดเป็นใบ ๆ หรือเสนอแนะ หรือถามเรื่องการจัดเด็ค หรือโชว์คอมโบการ์ดที่นี่ (การเล่นการ์ดมันสนุกตรงที่ได้จัดเด็คของตัวเองนี่หล่ะ)

Moderator: P_gik, Deck Master


ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย MarTiYea เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 9:50 am

จัดไปไอ้น้อง
Rate 15+ คำเตือน ที่สำคัญ deck นี้ไม่เหมาะสำหรับคนอายุต่ำกว่า 15 ปีเพราะต้องใช้ความสามารถในการวิเคราะห์พอสมควร

ต้อไปนี้เป็นบุคคลที่คุณต้องชวนมาร่วมงานให้ได้ หากต้องการประสบความสำเร็จในวงการพ่อค้า

Sweet Peddler
รูปภาพ (ตัว support merchant,playmaker ,key to victory)

"มนุษย์สัมพันธ์และการวางแผนที่ดีนำมาซึ่งความสำเร็จ"

ประวัติความเป็นมา
sweet peddler หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนาม "หวาน 10 บาท" เป็นบุคคลสำคัญตามประวัติศาสตร์ในฐานะของผู้ก่อตั้งตลาด Annedisonge เป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยม และเป็นผู้บุกเบิกการค้าขายบริเวณตลาด Annedisonge ในปัจจุบัน ว่ากันว่า "หวาน 10 บาท" ผู้นี้เป็นคนที่เข้ามาขายของเป็นเจ้าแรก ทั้ง ๆ ที่ในบริเวณนั้นก่อนหน้านี้โจรขโมยชุกชุมและมีปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ มากมาย จากจดหมายเหตุกรุง Annedisonge เดิม กล่าวว่าตอนนั้น พี่ชายของ "หวาน 10 บาท" ซึ่งได้รับการสนับสนุนเต็มที่จาก "หวาน 10 บาท" เป็นคนเข้ามาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อย จนปัญหาด้านอาชญากรรมต่าง ๆ ลดลงไปมาก จนพ่อค้าแม่ค้าหลายคนเดินทางจากต่างแดนเพื่อเข้ามาค้าขายจนมีการก่อตั้งตลาด Annedisonge ขึ้นมาในที่สุด แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า หลังจากน้ำท่วมหอจดหมายเหตุกรุง Annedisonge ในปีก่อน ทำให้บันทึกเกี่ยวกับชื่อจริง และเพศของท่าน "หวาน 10 บาท" หายไปตามกาลเวลา ปัจจุบันแม้บริษัทค้าขนมหวานของท่าน "หวาน 10 บาท" เป็นได้เติบโตเป็นบริษัทใหญ่ แต่ยังคงมีนโยบายเพื่อรำลึกถึงท่าน "หวาน 10 บาท" อยู่เสมอ โดยการให้พนักงานขายทุกคนคอสเพลย์ เป็นประธานรุ่นแรกมาจนทุกวันนี้

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
เนื่องจากท่านหวานมีมนุษย์สัมพันธ์และวิสัยทัศน์ดีเยี่ยม ไม่ว่าไปไหนมาไหน ก็ย่อมมีคนคอยตามไปเพื่อทำธรุกิจร่วมกันอยู่เสมอ ๆ (เข้ามา แสดง search merchant ขึ้นมือได้) และจากวิสัยทัศน์ที่ดีเยี่ยม ทำให้ชักชวนเพื่อนที่รู้จักเพื่อมาร่วมทำธุรกิจกันได้ (จ่ายสาม เปิด เป็น Merchant นำเข้ามา) แม้ว่าบางครั้งจะพาเพื่อนมาตาย (โดน tale of the abyss) แต่ก็มีไม่บ่อยนัก
จากช่วงแรกที่โจรขโมยชุกชุม ทำให้ท่านต้อง จ้างวานพี่ชายของท่านเองเพื่อมารักษาความปลอดภัย ทำให้ท่านมีความสามารถในการสนับสนุน พี่ชายและเพื่อนร่วมอาชีพของพี่ขายไปโดยปริยาย (เมื่อ Kinght Merchant ใช้สกิล ซิลนั้น at+2 invfinity turn) แม้ในปัจจุบันจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่ามากขึ้นก้ตาม แต่ท่านก็ยังคงความสามารถนี้ไว้อยู่ และแน่นอน เนื่องจาก เป็นผู้ก่อตั้งตลาด Annedisonge จึงสามารถก่อตั้งตลาดได้ (จ่ายสาม กางตลาด) ซึ่งหลังจากก่อตั้งตลาดแล้ว คงไม่ต้องบอกกระมัง ว่าต้องทำอะไรต่อ (สำหรับคนที่ไม่รู้จริง ๆ รออ่านละกัน)

วิเคราะห์จำนวนที่ควรไส่
"ต้องให้บอกอีกหรอ"
"ใครจะไส่เท่าไหร่ ไม่รู้ แต่ GU ไส่ 4"

Custodian Mercenary
รูปภาพ (ตัวแท้งค์ Merchant ยุคก่อนประวัติศาสตร์)

"ใครยุ่งกับน้องข้า ศพไม่สวยแน่"

ประวัติความเป็นมา
อย่างที่ทราบกันดี บุคคลผู้นี้คือ พี่ชายของท่าน "หวาน 10 บาท" อาชีพของพี่ชายของท่าน "หวาน 10 บาท" นี้คือ Knight Merchant หรือ อีกนามหนึ่งคือ นักรบรับจ้างนั่นเอง วีรกรรมหนึ่งของบุคคลนี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ในหอจดหมายเหตุคือ ช่วยปกป้อง พ่อค้าทั้งตลาด ไว้ได้ด้วยตัวคนเดียวเมื่อครั้ง มังกรทะเล จอร์มันการ์ดตกมันพ่น All ไส่ตลาดเมื่อปี อ.ศ.(แอนดิซอง ศักราช)ที่ 152 ซึ่งทำให้ในสมัยนั้น อาชีพนักรบรับจ้าง ค่อนข้างได้รับความนับถือจากพ่อค้าทั้งตลาดเลยทีเดียว ทั้งหลังเหตุการ์ณนี้เคยมีบันทึกว่า พี่ชายของท่าน "หวาน 10 บาท" เคยเป็นที่ถูกใจของราชา Marinus แห่ง annedisonge และเคยทำงานร่วมกันอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่บันทึกที่ยืนยันเหตุการ์ณนี้ได้สาบสูญไประหว่างน้ำท่วมหอจดหมายเหตุ จึงไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของเหตุการ์ณนี้ได้เราจึงไม่ขอกล่าวถึงยุคเสื่่อมของ บุคคลนี้คือ ช่วงปี อ.ศ ที่ 154 สองปีหลังเหตุการ์จอร์มันการ์ดตกมัน เนื่องจากการที่พี่ชายของ "หวาน 10 บาท" คนนี้ เดิมที่ก็ไม่ใช่พ่อค้าที่เก่งกาจ จนต้องหันไปยึดอาชีพนักรบเพื่อประทั้งชีวิตแทน เพราะเป็นผู้มีปัญหาอย่างหนักในเรื่องของการบริหารเงินและหลังเหตุการ์ณจอร์มันการ์ดตกมันในปี อ.ศ. 152 บุคคลผู้นี้ก็ได้ใช้เงินจำนวนมากเพื่อเชิดชูหน้าตาของตนเอง และใช้เรื่อยมา จนปี อ.ศ. 154 แม้ว่าท่าน "หวาน 10 บาท" จะให้การสนับสนุนพี่ชายแล้วในระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากการใช้เงินจำนวนมากกว่าที่หาได้เพื่อรักษาหน้าตาตนเองทำให้เกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง และบุคคลท่านนี้ก็ได้ถูกฟ้องลมละลายในปี อ.ศ. 155 มีคำบอกกล่าวว่าหลังจากนี้ท่านได้ไปเป็นครูฝึกในสถาบันแห่งหนึ่งแต่ ข้อมูลในส่วนนั้นไม่ได้รับการยืนยันจึงไม่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
แม้ว่า Custodian Mercenary ผู้นี้จะมีความสามารถในการปกป้องพ่อค้าทั้งตลาด (Merchant ทุกใบใน Def กัน all)และเป็นที่นับถือทำให้ไม่มีใครมาหาเรื่องกับตลาด (ทำให้ annedisonge marketplace ยกเลิกสกิล และ ability ของซีล)แต่เนื่องจากข้อเสียที่ใช้เงินเปลือง (จ่าย MP เท่าไหร่ ได้ at เท่านั้น แถมต้องจ่ายสองยกเลิกซีล)ทำงานคนเดียวได้ แต่ไม่ดีเท่าที่ควร (ต้องคอมถึงจะใช้สกิลบางอันได้) ตัวหนัก (ค่าร่าย "3" ทำได้แค่เนี้ย - -') จึงไม่เหมาะที่จะหามาร่วมธุรกิจด้วยซักเท่าไหร่แม้จะได้รับการสนับสนุนจากท่าน "หวาน 10 บาท" ก็ตามที (ถึงจะจ่าย 0 ใช้สกิล at+2 infinity turn ก็เหอะ)

วิเคราะห์จำนวนที่ควรไส่
ตำแหน่งก็บอกอยู่แล้วว่า ตัวแท้งค์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เอาอะไรมากมายปล่อยมันสูญพันธุ์ไปได้แล้ว
สรุป ใครจะไส่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่ GU ไม่ไส่ ที่เอามาเขียนก็แค่อยากเขียนแค่นั้นเอง ว่ะฮ่ะฮ่า

Mirabilis Mercenary
รูปภาพ (ตัวแท้งค์ Merchant ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม)

"ผู้ที่ทำงานเป็นทีมได้เท่านั้น ถึงจะประสบชัยชนะ"

ประวัติความเป็นมา
หลังจาก อ.ศ. 152 ซึ่งเกิดเหตุการ์ณจอร์มันการ์ดตกมัน เหล่าพ่อค้าในตลาดเริ่มมีความความเห็นในเรื่องของการมองหาผู้รักษาความปลอดถัยเพิ่มเติม เพราะต่างมีความเห้นว่าไม่ควรพึ่งคนเพียงคนเดียวในการคุ้มครองทั้งตลาด แต่ยังไม่มีข้อสรุปในการหาผู้รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมเนื่องจากพ่อค้าบางคนในตลาดมีความเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองที่เกินกว่าเหตุ แต่ในปี อ.ศ. 155 ที่ Custodian Mercenary ถูกบังคับให้ออกจากธุรกิจรักษาความปลอดภัย เหล่าพ่อค้าในตลาดก็มีความเห็นตรงกันว่า เราควรสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของตนเองขึ้นมาได้แล้ว ก่อนที่จะถูก คู่แข่งทางการค้า และเหล่า ม้าโจร ไม่ว่าจะเป็นม้าแดง ม้าขาวบุกเข้าทำลายตลาดเสียทั้งหมด ดังนั้นในปี อ.ศ ที่ 156 เหล่าพ่อค้าจึงได้สถาปณา Mercenary Academy ขึ้นที่ เมือง Mirabilis เพื่อผึกอบรมผู้รักษาความปลอดภัยของตนเองขึ้นมา สาเหตุที่เหล่าพ่อค้าเลือกเมือง Mirabilis นั้นไม่ปรากฎหลักฐานที่ชัดเจน อนึ่งมีบันทึกว่าหลักสูตรของสถาบันแห่งนี้ เขียนขึ้นโดยวีรบุรุษผู้ปกป้องตลาด Annedisonge จากจอร์มันการ์ดได้ด้วยตัวคนเดียว แต่บันทึกประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ได้หายสาบสูญไปจนไม่อาจยืนยันความถูกต้องได้ อย่างไรก็ดีสถาบันนี้ได้ฝึกอบรม Mercenary ที่มีคุณภาพออกไปเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Qurak de Rudist ที่ป้องกันตลาดซาโลมจากกลุ่มโจร Lazal ได้สำเร็จ หรือชายผู้มีนามแฝงว่า Martiyea ที่ล่าสุดพึ่งปกป้องตลาดใหญ่ที่ annedisonge จากการจู่โจมของเหล่าโจรม้าแดงได้สำเร็จ จากวีรกรรมของผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากที่นึ่ สถาบันแห่งนี้จึงเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ Mirabilis Academy และผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากที่นี่ จะถูกเรียกอย่างยกย่องว่า Mirabilis Mercenary

Mirabilis Mercenary เหล่านี้จะได้รับการฝึกฝนอย่างหนักในเรื่องของการทำงานเป็นทีม โดยมีการจัดหลักสูตร buddy นักรบเหล่านี้จะต้องไปไหนมาไหน กับ buddy ของตนเสมอ และฝึกการสนับสนุนกันและกันให้เหมาะสมตามแต่สถานการ์ณ ซึ่งมักจะได้ผลลัพธ์ดีขึ้นเป็นทวีคูณ จากหลักสูตร buddy นี่เองทำให้ Mirabilis Mercenary เหล่านี้สามารถทำงานเป็นทีมร่วมกับใครก็ได้ ตามความเหมาะสมตามสถานการ์ณต่าง ๆ จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้ Mercenary ที่จบจากสถาบันแห่งนี้ไม่เหมือนที่อื่นคือ พวกเขาสามารถสอนให้เหล่าพ่อค้า ในความคุ้มครองป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่งหากเกิดสภานการ์ณที่ มีกลุ่มโจรลอบฝ่าแนวป้องกันของพวกเขา เข้าไปถึงเหล่าพ่อค้าในความคุ้มครอง ทำให้เหล่าพ่อค้านั้นยังอาจมีทางรอดจาการโดนปล้นฆ่าได้ Mirabilis Mercenary มักจะปรากฎตัวพร้อม นายจ้างหรือ buddy เสมอ ๆ

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
เนื่องจาก Mirabilis Mercenary เหล่านี้ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี และมักปรากฎตัวพร้อม นายจ้างหรือ buddy ของตนเสมอตามสถานการ์ณทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างมาก (เข้ามา ลาก 1 จั่ว 1 และลากได้ตามสถานการ์ณ) สอนให้เหล่าพ่อค้าในความดูแลป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง (Merchant ใบอื่น AT +1 def +2) อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในการทำงานเป็นทีม จึงสามารถทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นจนพอที่จะชนกับเหล่าสัตว์ประหลาดและกองโจรได้ในระดับหนึ่ง (+at ตามจำนวน Merchant ธาตุดินและ ไฟในสนาม) จึงเป็นบุคคลากรที่ควรจะเหมาะสมที่จะหามาจนครบจำนวนเป็นอย่างยิ่ง

วิเคราะห์จำนวนที่ควรใส่
"ถ้ามีไม่ครบ 4 อย่าเล่นเลยไอ้น้อง"

Rare item trader
(ตัวแท้ง Merchant ยุคปัจจุบัน)
เนื่องจากปัญหาบางประการ เราจึงไม่สามารถลงรูปได้ และเราจะไม่ขออภัยเพราะเราไม่ผิด ชะละล่า

"ชิ้นนั้นหรอแพงไปรึเปล่า ลดอีกหน่อยซี่ ชิ้นนั้นหรอ ถูกไปรึเปล่า จ่ายเพิ่มอีกหน่อยซี่ "

ประวัติความเป็นมา
ในสมัยก่อนนั้น มีนักผจญภัยหลายต่อหลายคน เสี่ยงชีวิตไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อสมบัติลับ สิ่งของล้ำค้าอีกมากมาย บางคนก็ออกล่า Hydra เพื่อพิษและหนังของมัน (จากอนุสัญญา Lazal อ.ศ. 261 ที่ระบุให้ Hydra และสัตว์อีกหลายชนิดเป็นสัตว์สงวน ส่งผลให้สินค้าจากสัตว์เหล่านั้นที่ยังขึ้นทะเบียนอยู่ในตลาดกลายเป็นของหายากโดยปริยาย) บางคนก็ออกผจญภัยไปยัง กรุสมบัติเก่า ๆ เพื่อตามหาลูกแก้วในตำนาน แต่เดิมสินค้าหายากเหล่านั้น มักจะถูกซื้อขายแลกเปลี่ยนกันในวงเล็ก ๆ ของเศรษฐี และของชนชั้นสูงของสี่อณาจักร (ในยุคนั้น) เท่านั้น แต่หลังยุคการค้าตลาดเสรีและการปฏิวัติการศึกษา (อ.ศ.188 - 201) ทำให้ประชากรส่วนใหญ่ของทวีบเมอริเซีย มีรายได้สุทธิต่อหัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าหายากจากตลาดระดับกลางเพิ่มสูงขึ้นประกอบ กับการเสื่อมโทรมของ ชนชั้นสูงของสี่อณาจักร (ในยุคนั้น) ทำให้ตลาดสินค้าหายากกระจายตัวกว้างขึ้นอย่างมาก ในสมัยแรกที่สินค้าหายากเข้าสู่ตลาดใหญ่นั้นมีการปลอมแปลงสินค้า เพื่อหลอกขายเป็นจำนวนมากทั้งยังมีการทำกันเป็นขบวนการทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง เป็นเหตุให้เกิดความล้มเหลวในระบบการค้าขายสินค้าหายากทั้งยังก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก อณาจักรและแคว้นทั้งหมดในต้อนนั้นจึงได้รวมประชุมกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดความเสียหายลุกลามไปถึงตลาดสินค้าอย่างอื่น ในที่สุดหลังการประชุมที่เป็นที่รู้จักกันดีในนามการประชุม สามเดือน ครั้งที่ 1จึงได้มีการจัดตั้งองค์กรอิสระ RIATA (ริอาต้า หรือ
Rare item Approver & Trader Association) ขึ้น ในปี อ.ศ.211 เพื่อตรวจสอบความเป็นของแท้ของสินค้าหายาก และควบคุมราคาสินค้าหายากให้อยู่ในระดับคงตัวแปรผันตรงตามระดับเศษฐกิจภาคพื้นทวีป ซึ่งองค์กรดังกล่าวนี้ยังคงมีอยู่มาถึงปัจจุบัน และบุคคลากรที่ขึ้นทะเบียนกับ RIATA ก็จะถูกเรียกว่า Rare item Trader หรือรู้จักเป็นที่ติดปากในภาษาชาวบ้านว่า "ริท" (Rit)

คุณสมบัติของผู้ที่จะเป็น "ริท" ได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการต่อรองราคาสูงมาก ถึงมากที่สุด เรียกว่าจะต้องมีการต่อราคาจนเหลือราคาทุนได้ และต้องรู้ราคาทุนของสินค้าเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้มีการซื้อขายที่ถูกกว่าท้องตลาด "ริท" ทั้งหมดจึงเป็นเพศหญิง (สงสัยเพราะเพศหญิงต่อราคาเก่ง) ทั้งยังต้องเป็นที่รู้จักกันในชุมชน เพื่อให้การประเมินราคาได้รับการยอมรับในระดับชุมชน จะเรียกว่าเป็นที่นับถือระดับที่ใครไปใครมาต้องเอาของฝากมาให้ก็ว่าได้ และยังต้องเป็นคนที่ หากมีหลักฐานสนับสนุน สามารถ ล้างบางผู้ปลอมแปลงสินค้าหายากได้อีกด้วย
เป็นที่แปลกใจกันมานาน ว่า ริอาต้า คัดเลือกคนที่จะจดทะเบียนเป็น "ริท" อย่างไร จึงได้คนที่อินดี้เหมือนกันหมดทุกคน อินดี้ในที่นี้คือ ไม่ชอบอยู่ในตลาด เมื่อไหร่ ที่มีการตั้งตลาดได้ "ริท" จะหายหน้าหายตาไปจากวงการในทันที ทั้ง ๆ ที่ยังมีความต้องการสินค้าหายากอยู่ในตลาดในขณะนั้น และแม้ว่าจะโพล่มาภายหลัง พวกหล่อน ก็จะดำเนินการต่อต้านตลาดอย่างรวดเร็ว
*หมายเหตุ มีเจ้าของทฤษฏีสมคบคิดสองสามเจ้า ให้เหตุผลไปในทางเดียวกันว่า เป็นเพราะ ริอาต้าในช่วงหลัง ๆ มองว่าการตั้งตลาดจะทำให้ราคาสินค้าหายาก ตกลงมาก จึงเป็นนโยบายลับให้ "ริท" ทุกคนต้อต้านการตั้งตลาดใหม่ แต่เจ้าของทฤษฏีเหล่านั้นก็ไม่มีหลักฐานแน่นอน ความเห็นเหล่านี้จึงไม่ได้รับการยอมรับนัก

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
เนื่องจาก "ริท" เป็นผู้มีความสามารถในการต่อรองราคาสูงสามารถต่อรองสินค้าจนเหลือราคาทุนได้ หากคู่ค้าไม่มีความหนักแน่นพอ (Weak touch ซีลที่ def น้อยกว่า) และเป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับต้นทุนของสินค้าดี จนไม่มีใครสามารถเลี่ยงภาษีโดยการขายสินค้าต่ำกว่าราคาทุนได้ (ตราบเท่าที่มี ริอาต้า เอ้ย Merchant ธาตุดิน หรือไฟ ใบอื่น ซีลทุกใบในทุกโซนของฝ่ายตรงข้าม ห้าม -MP สรุป จ่ายเต็ม) ทั้งเป็นผู้ที่มีคนรู้จักมีคนนับถือมากมายใครไปใครมาก็ต้องเอาของมาฟาก (Merchant lv2 ขึ้นไปฝ่ายเราเข้ามาในสนาม เราจัว mytic 1 ใบ) ยังไม่นับว่าหากมีหลักฐานเพียงพอสามารถล้างบางผู้ปลอมสินค้ามาขายได้อีกด้วย (tripple com ตี 11 all ได้ แถม MP 4 อีกต่างหาก) แม้ว่าจะมีอารมย์อินดี้เล็กน้อย (MP max ของผู้เล่นทุกคนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คือห้ามเกิน 8 เล่นกับตลาดยาก) แต่ก็เป็นข้อเสียที่พอรับได้ จึงเป็นบุคคลากรที่ควรหาให้ครบตามจำนวนเป็นอย่างยิ่ง

วิเคราะห์จำนวนที่ควรไส่
สองก็ได้ สามก็ดี (มันเลเวล 3) แต่ถ้าหาได้ ควรไส่สามมากกว่า เพราะจากการลองเล่นแล้ว เก่งจริง ๆ อย่างน้อย ๆ ก็แท้งพวก base เยอะ ๆ ได้ในระดับหนึ่งเพราะตัวมันเองก็ base ไม่น้อยหน้าใคร แถมยังแอบ all ได้อีกต่างหาก


Toy retailer
รูปภาพรูปภาพ(ตัว support merchat)

"มาเล่นกันเถอะ"

ประวัติความเป็นมา
จากการศึกษาบันทึกในหอจดหมายเหตุ Annedisonge พบว่าอาชีพนี้มีมานานมากแล้ว จากหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด จากหอจดหมายเหตุ Annedisonge อ้างอิงถึงการเข้ามาของพ่อค้าของเล่นนี้จาก ฟูดินัน ตั้งแต่ยุคการเขียนแผนที่ทวีปเมอริเซียครั้งที่สอง (ปัจจุบันมีการอัพเดทแผนที่ทวีปเมอริเซียมาแล้วสามครั้ง ดูภาคผนวก) ว่ากันว่าอาชีพพ่อค้าของเล่นนี้ อยู่เบื้องหลังวิกฤตการ์ณมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เหตุการ์ณกบฏ มังกร หมอดู เด็กเสริฟ ขนมปัง หรือที่รู้จักกันดีในนามของ วิกฤติเล่านิทาน ครั้งที่ 2 (ช่วงระหว่าง อ.ศ.98 - 100 เทียบศักราชอื่นได้ที่ viewtopic.php?f=12&t=16209 ) มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ในช่วงนั้น พ่อค้าของเล่นเหล่านี้หาได้มีความต้องการในการก่อกบฏไม่ แต่เนื่องจาก กบฏมังกร หมอดู เด็กเสริฟ ขนมปัง รุกรานไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เป็นเหตุให้ระบบเศษฐกิจล้มเหลว เหล่าพ่อค้าของเล่นไม่สามารถประกอบการค้าได้ จึงต้องให้การสนับสนุนไปโดยปริยาย และหลักฐานชิ้นเดียวกันนี้นี่เองทำให้หลังการปราบกบฏมังกรหมอดูเด็กเสริฟขนมปัง ศาลสงครามกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้องพ่อค้าของเล่นที่ให้การสนับสนุนเหล่ากบฏทั้งหมด (ทั้งนี้จากการพิพากษาครั้งนั้นมีผู้ถูกลงโทษดังต่อไปนี้ แม่หมอถูกพิพากษาให้ตัดแขนทั้งสองข้างเสีย เด็กเสริฟที่เป็นตัวตั้งตัวตี ถูกตัดสินประหารชีวิต ส่วนแม่ค้าขนมปังที่เป็นผู้สนับสนุนเสบียงต้องโทษเดียวกับแม่หมอ ส่วนมังกรแม้จะไม่ถูกพิพากษาแต่เสียประชากรไปเยอะจากการปราบปราม จึงยังคงหายากอยู่จนทุกวันนี้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ viewtopic.php?f=12&t=16209 ) แต่อย่างไรก็ตามหลักฐานหลายอย่างระบุชัดเจนว่า พ่อค้าของเล่นเหล่านี้แหละ ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอีกมากมายในโลกเมอริเซีย
กิจการของพ่อค้าของเล่นนี้โดยทั่วไปจะเป็นการให้เช่าของเล่นกับคนอื่นเพื่อเก็บค่าเช่า ทำให้คนที่เช่าของเล่นไปจากพ่อค้าของเล่นนี้จะต้องรีบเล่นให้เสร็จก่อนหมดระยะเวลา จากการศึกษาพบว่าอาชีพพ่อค้าของเล่นนี้ เป็นผู้มีความสามารถในการโนมน้าวใจสูงมากไม่ว่าเป็นนักรบ หรือนักเวทย์ ก็ยังยอมเช่าของเล่นไปจากพ่อค้ามีบันทึกบางอย่างพบว่า แม้แต่ปีศาจ ทวยเทพหรือสัตว์ประหลาด ก็ไม่อาจต้านทานคารมของผู้ประกอบอาชีพนี้ได้ ยังคงเป็นความลับเสมอมาว่าพวกเขาทำอย่างไร จึงสามารถปิดการขายได้อย่างแน่นอน (ริอาต้า เชื่อว่าความสามารถนี้มาจากเครื่องรางพิเศษจากต้นตระกูลสืบทอดกันมาถึงเชื้อสายของผู้ประกอบการและพยายามขึ้นทะเบียนเครื่องรางนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถหาหลักฐานยืนยันความมีอยู่ของ เครื่องรางนี้ได้ ดูภาคผนวก)
อาชีพนี้ไม่จำกัดเพศจึงสามารถทำได้ทั้งหญิงและชาย แต่เป็นที่หน้าประหลาดใจว่า พ่อค้าที่เป็นเพศชายมักจะเป็นชายสูงอายุ ในขณะที่ถ้าเป็นเพศหญิงจะเป็นหญิงสาวอายุน้อย หรือเด็กหญิง ทั้งพอค้าที่เป็นเพศชายมักจะบูชาเทพเจ้าแห่งเมอริเซีย ในขณะที่เพศหญิงมักจะไม่สนใจบูชาเทพเจ้าองค์ใด
ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักเป็นพวกหัวเก่า ความคิดไม่ทันสมัยสู้ใครไม่ค่อยได้ ซึ่งในส่วนนี้เพศชายที่บูชาเทพเจ้าเมอริเซียจะค่อนข้างได้เปรียบเพราะได้รับความคุ้มครองจากเทพเจ้าแห่งเมอริเซียทำได้พอสู้ใครได้ และได้รับการประทานพรจากเทพเจ้าเมอริเซียว่าถ้าอยู่กันสองคนขึ้นไปจะไม่มีทางถูกหลอกขายสินค้าราคาถูกอย่างแน่นอน

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
กำไรจากการให้เช่าของเล่นของอาชีพนี้นั้นสูงมาก (จ่ายหนึ่ง ซีล 1 ใบ inact ได้ MP 2 สรุปได้กำไรมา 1) จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะให้เป็นผู้สนับสนุนด้านเงินทุนหากคุณต้องการจะประสบความสำเร็จ แม้ข้อเสียที่ว่าหัวคิดเก่า (ค่าพลังสู้ใครไม่ค่อยได้) คุณสามารถอุดขอเสียนี้ได้หากคุณเป็นผู้บูชาเทพเมอริเซียเช่นกัน โดยการเลือกจ้างเพศชาย (ใช้ตัว M2 จะได้ at def +5 ถ้าไส่ บ้านเมอนะ) และหากคุณเป็นผู้บูชาเทพเมอริเซียอยู่แล้ว อาจจะให้พวกเขาคอยช่วย "ริท" ในการควบคุมราคาสินค้าได้อีกกรณีหนึ่งด้วย

วิเคราะห์จำนวนที่ควรไส่
สามตัวพอล่ะพี่น้องแส่ เอ้ย ใส่มากกว่านี้ อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงแล้วแต่คนอยู่ดี เพราะในสายตาผมมันมีประโยชน์เฉพาะเกมส์บุก ในเกมส์รับ บางครั้งต้องใช้ MP หมด ก็ทำอะไรไม่ค่อยได้ อีกอย่างขึ้นเยอะ ๆ จะแท้งค์ไม่ไหวเอา

Bakery girl
รูปภาพ (ตัวสร้างทรัพยากร)

"กองทัพเดินด้วยท้อง ถ้าท้องหิว ก็แพ้ไปแล้วล่ะ"

ประวัติความเป็นมา
มนุษย์ทุกคนต้องกิน ดังนั้นอาชีพนี้จึงเป็นอาชีพคนทำขนมปังจึงเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดอาชีพหนึ่งบนโลกใบนี้ อย่างไรก็ดี แต่เดิมนั้น อารยธรรมมนุษย์ยังไม่ได้ก้าวไกลมาเช่นปัจจุบัน ใคร ๆ จึงเป็นคนทำขนมปังได้ แต่ครั้นเข้ายุคการเดินทางของ Ishan (ตั้งแต่ อ.ศ.91) ได้มีการกำหนดประเพณีปฏิบัติขึ้น เพราะยุคนั้นเป็นยุคของการบูชานักบุญ เหล่านักบุญกล่าวว่า ขนมปังเป็นของกำนัลจากเหล่าทวยเทพจึงควรให้หญิงสาวบริสุทธิเท่านั้นเป็นผู้ตระเตรียม หลังจากนั้นจึงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเป็นต้นมาว่าแม่ค้าขนมปังจะต้องเป็นเด็กหญิง (Girl) เท่านั้น ปัจจุบันแม้จะไม่มีกฎหมายห้ามแต่ธรรมเนียมปฏิบัตินี้ได้หยั่งรากฝังลึกเข้าไปในวัฒนธรรมของชาวเมอริเซียไปเสียแล้วดังนั้นแม้ค้าขนมปังในปัจุจบันจึงยังคงเป็นหญิงสาวอยู่นั่นเอง
ก่อนนี้ในช่วงระหว่างยุคการเดินทางของ Ishan สี่มหาอำนาจในตอนนั้นกำลังอยู่ในระหว่างทำสงครามยึดครองดินแดนประชาชนในประเทศต่าง ๆ เกิดความไม่สบายใจ อาชีพหมอดูจึงได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชน ในตอนนั้นเรียกได้ว่าสำคัญพอ ๆ กับอาหารการกินเลยทีเดียว จึงไม่เป็นทีน่าแปลกใจว่าในสมัยนั้น ทุกตลาด หรือทุกกองทัพก็ตามที มักจะมี หมอดูและแม่ค้าขนมปังเดินทางไปด้วยกันเสมอ ๆ เรียกได้ว่า มีหมอดูมีขนมปัง มีขนมปังมีหมอดูกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี หลังจากวิกฤตการ์ณ เล่านิทานครั้งที่หนึ่ง (อ่านรายละเอียดด้านบน) หรือกบฏ มังกร หมอดู เด็กเสริฟ ขนมปัง ศาลสงครามกลางได้ตัดสิน ตัดขาของ หมอดูและแม่ค้าขนมปัง จึงทำให้ ผู้คนเข็ดขยาดและ หลีกเลี่ยงการนำหมอดูและแม่ค้าขนมปังไปไหนมาไหนด้วยกันอีก ประกอบกับมีการทำอาหารที่หลากหลายเพิ่มขึ้นเนื่องจากการแพร่หลายของวัฒนธรรม จากการทำสงครามของสี่มหาอำนาจในขณะนั้น ทำให้อาชีพแม่ค้าขนมปังซบเซามาจนทุกวันนี้ (ในปัจจุบันไม่ทราบว่า เพราะแม่หมอเส้นใหญ่หรือว่าอย่างไร ล่าสุดมีการประกาศยกเว้นโทษให้แม่หมอแล้วเป็นที่เรียบร้อย แต่แม่ค้าขนมปังยังคงต้องรับโทษอยู่จนทุกวันนี้)

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
บุคคลากรในอาชีพนี้ เนื่องจากโดนลงโทษมาก่อนหรือไรไม่ทราบได้ แต่เมื่อเข้าทำงานใหม่ ๆ มักจะไฟแรง หรือย่างน้อย ๆ ก็ทำให้คนอื่นไฟแรงได้ในระยะเวลาหนึ่ง (เข้ามา : ซีลหนึ่งใบ mp -1 / 2 turn) และแม้ว่าซุ่มซ่ามชอบทำของตกแตก แต่ของที่ตกแตกเหล่านั้นสามารถเป็นทรัพยากรให้พ่อค้าที่เก่งกาจต่อยอด ไปสู่ความสำเร็จได้อย่างงดงาม จึงเป็นที่รักของพ่อค้าที่เก่งกาจเป็นอย่างมาก (จ่าย 1 ทายใบบนถ้าไม่ใช่ลงไชน์ แล้วให้ พี่หมี หรือป้าร้าน Johny ต่อยอดได้) จึงเป็นบุคคลที่ควรหามาไว้ในองค์กรเป็นอย่างยิ่ง

วิเคราะห์จำนวนที่ควรไส่
บางคนจะเห็นว่า ใส่ร่างจุติใหม่ของเด็กเสริฟดีกว่า แต่สำหรับผม ผมไส่ตัวนี้ดีกว่า เพราะใจความสำคัญ deck นี้ไม่ใช่การตี แต่เป็นการค่อย ๆ ตั้งตัว แล้วปิดเกมส์แบบชนะชัวร์ ๆ เสียมากกว่า ใบนี้เลยสร้างทรัพยากรให้ได้มากกว่า ถ้าใจตรงกับผม ใส่สองไปเลยครับ ถ้าไม่ตรงก็ตามใจครับต่างคนต่างความเห็นแชร์กันได้ แต่ถ้าจะมาสอนผมว่าทำไมไม่ใส่ ร่างจุติใหม่ของเด็กเสริฟกับพี่มันก็ต้องขอบอกว่า "XXXXXXX"

The Cook of Johny Restaurant
รูปภาพ(play maker, supporter)

"อาหารคือยา ไม่ว่าจะยาพิษหรือยาอายุวัฒนะก็ตามที"

ประวัติความเป็นมา
Johny Restaurant ก่อตั้งโดย John de la Frongsurl ในปี อ.ศ.150 ในตลาด Annedisonge ใหญ่ที่ท่าน "หวาน 10 บาท" เป็นผู้ก่อตั้ง แรกเริมเดิมทีนั้นเป็นเพียงแค่ร้านเล็ก ๆ ร้านหนึ่งเท่านั้น จนกระทั้ง Michel de la Frongsurl บุตรสาวของ John ได้ขยับขยายกิจการจนเป็นเฟรนไชน์ และขยายสาขาสองไปยังดินแดน ซาโลม ในสมัยนั้น เนื่องเพราะเมนูของร้าน Johnny นี้ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามวัตถุดิบที่มีอยู่ ทำให้ลูกค้าไม่เบื่อง่าย ส่งผลให้ร้านนี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน Johny Restaurant มีสาขาไปทั่วทวีปเมอริเซีย เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู็จักร้าน Johny อย่างแน่นอน ด้วยความที่มีอาหารที่หลากหลายกว่าขนมปัง ประกอบกับเด็กหญิงหลาย ๆ คนในยุคปัจจุบันไม่สนใจทำอาชีพขายขนมปังอีกต่อไป จึงสามารถกล่าวได้ว่า Johny Restaurant ได้รับความนิยมกว่าร้านขนมปังแบบเทียบกันไม่ติดเลยทีเดียว
เนื่องจากกิจการของนางสาว Michel de la Frongsurl ขยับขยายเป็นกิจการแฟรนไชน์ จึงต้องมีการรักษาคุณภาพให้คงเดิมอยู่เสมอ เคล็ดลับในการรักษาคุณภาพนั้น อยู่ที่การรับและฝึกฝน แม่ครัวประจำร้านอาหาร แม่ครัวประจำร้าน Johny Restaurant นั้นจะต้องผ่านการฝึกฝนการเป็นแม่ครัว จากร้านหลักที่ตลาดใหญ่เมือง Annedisonge เสียก่อน ระยะเวลาในการฝึกนั้นแต่ต่างกันไปตามตัวบุคคล เฉลี่ยแล้วส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราว ๆ สองถึงห้าปี เหตุที่แตกต่างนั้นเนื่องจากก่อนสำเร็จการฝึกไปประจำยังร้านอาหารต่าง ๆ นั้น จะต้องมีการสอบวัดระดับความสามารถจากครัวหลักเสียก่อนเพื่อไม่ให้เฟรนไชน์เสียชื่อ ผู้ที่สอบไม่ผ่านจะต้องอยู่ฝึกต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าระดับฝีมือจะสอบผ่าน คนทั่วไปจึงล้อเลียนครัวหลักของร้านอาหารนี้ว่า Johny Cooking academy บุคคล?เดียวที่เป็นตำนานการฝึกของครัวหลักของร้าน Johny นั้นกล่าวกันว่าเป็นคนครัวอัจฉริยะหนึ่งในรอบหลายร้อยปีและเป็นบุคคล?เดียวที่สามารถฝ่านการฝึกอบรมจากครัวหลักในเวลาเพียงแค่แปดเดือน แต่บุคคล?นั้นมีนิสัยเสียไม่ยอมสวมชุดเครื่องแบบของร้าน Johny ชอบคอสเพลยเป็นหมีตัวใหญ่ จึงไม่ยอมเข้าทำงานในสาขาที่ถูกส่งไปประจำการ และไปเปิดร้านอาหารขึ้นมาแข่งขันด้วยอีกต่างหาก จนในปัจจุบันผู้ที่สมัครเข้าเป็นแม่ครัวของร้าน Johny นั้นจึงถูกจำกัดเพศให้เป็นแต่หญิงสาวและต้องเซ็นสัญญาก่อนเข้ารับการฝึกว่าจะต้องไส่ชุดเครื่องแบบของทางร้านทำงาน และจะไม่ไปเปิดร้านอาหารแข่งขันโดยใช้สูตรที่เรียนไปจากครัวใหญ่ (เคยมีการฟ้องร้องกันอยู่ช่วงหนึ่งระหว่างร้าน Johny และ ร้านที่คนครัวอัฉริยะไปเปิดกิจการ แต่ศาลสูง Annedisonge เห็นว่าสูตรที่ใช้เปิดร้านใหม่นั้นเป็นสูตรที่คิดค้นดัดแปลงขึ้นมาเองจนยกฟ้อง เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักกฎหมายทั่วทวีปเมอริเซียว่า Restaurant incident)
แม่ครัวทั้งหมดที่สอบผ่านนั้นจะได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีในเรื่องของคุณสมบัติของอาหาร ดังนั้นอาหารทุกจานที่แม่ครัวของครัว Johny ปรุงออกมานั้นทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นเสมอ แม้บางครั้งแม่ครัวจะปรุงยาพิษออกมาให้ลูกค้าที่ทำตัวเลวทรามก็ตาม แต่เศษที่เหลือจากยาพิษนั้น ก็สามารถนำมาปรุงเป็นยาให้ลูกค้าคนอื่นแข็งแรงสุขภาพดีได้อยู่ดีซึ่งเป็นคุณลักษณะพิเศษของแม่ครัวประจำร้านของร้าน Johny ที่ร้านอื่นไม่มี และเนื่องจากมีความรู้ด้านคุณสมบัติของอาหารดีนี่เอง ทำให้แม่ครัวของร้าน Johny สามารถใช้คติ "อาหารคือยา" ปรุงอาหารขึ้นมารักษาคนป่วยให้สบายดีขึ้นมาได้ทันตาเห็น โดยไม่ต้องพึ่งหมอ หรือนักบวชกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี อาหารก็คืออาหาร แม้จะเป็นยาได้ แต่ก็สู้ยาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ดี จึงไม่สามารถรักษาผู้ที่ป่วยหนักได้ อย่างไรก็ดีผู้ที่เป็นหวัดตัวเย็นไม่สบายมักจะหลบมาแอบกินอาหารร้าน Johny เพื่อให้หายดีแทนการไปหาหมออยู่เสมอ ๆ
ความสามารถพิเศษอีกอย่างของแม่ครัวประจำร้าน Johny คือสามารถปรุงอาหารจากวัตถุดิบที่เคยใช้ปรุงไปแล้วรอบหนึ่งได้แบบไม่ผิดเพี้ยนส่วนหนึ่งคือความสามารถที่มาจากการฝึกฝนล้วน ๆ อีกส่วนหนึ่งมาจากตะหลิวไม้ Yggdrasil (ขึ้นทะเบียนโดย ริอาต้าแล้ว สนนราคาด้ามละ 100,000 G สนใจติดต่อ "ริท" ไกล้บ้านท่าน) ซึ่งส่งผลให้อาหารทุกจานได้รับการเติมเต็มพลังชีวิตจากต้น Yggdrasil รถชาติจึงไม่ผิดเพี้ยนและเสริมพลังให้กับผู้กินได้ อย่างไรก็ดี ราคาก็ไม่ผิดเพี้ยนตามไปด้วยซึ่งเป็นข้อดีมากเวลาสรรพากรมาคอยเฟ้าเก็บภาษี
ผู้ที่สนใจอยากเปิดเฟรนไชน์ร้าน Johny restaurant ติดต่อได้ที่สำนักงานใหญ่ Johny Restaurant สาขา Annedisonge หรือ Email ไปที่ Johny_res_coltd@ADSSmail.com

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
เนื่องจากเป็นผู้มีความสามารถพิเศษปรุงอาหารจากวัตถุดิบที่เคยใช้ปรุงไปแล้วได้แบบไม่ผิดเพี้ยน (จ่าย 0 มูฟมิส 1 ใบในไชน์ ร่ายที่ชื่อเหมือนกันในกอง เฟียร์แต่จ่ายค่าร่ายด้วยนะ) โดยตะหลิวไม้ Yggrasilทำให้หลังปรุงเสร็จ ผู้กินหรือลูกค้าท่านมีอื่นสุขภาพดีแข็งแรง (ใช้สกิลเสร็จ Merchant 1 ใบ at def+1 infinity turn) ยังไม่นับความรู้ด้านยาที่ช่วยทำอาหารที่รักษาโรคได้ (จ่าย 1 รักษาเคิร์ส 1 ชนิดให้ Merchant 1 ใบ) แม้จะช่วยโรคหนัก ๆ ไม่ได้ (รักษาได้ชนิดเดียว) แต่ก็ช่วยรักษาโรคไข้หวัด (Freeze curse) ได้เป็นอย่างดี ทั้งอาหารที่ทำก็เป็นที่นิยม จึงเป็นบุคคลากรที่ควรหาตัวให้ครบเป็นอย่างยิ่ง

วิเคราะห์จำนวนที่ควรไส่
เป็นตัว def ที่ยอดเยี่ยมรักษาเคิร์สได้ บวกพลังฉุกเฉินได้ และที่สำคัญ ใช้มิสซ้ำได้ แบบไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีกด้วย (จ่ายเพิ่มอะไรยังไง รอดูไม้ตาย deck นี้) เป็นตัวที่ขึ้นมาพร้อมตัว tank แล้วทำให้ def อยู่ เพราะฉะนั้น 4 เลยครับพี่น้อง


Bear Chief
รูปภาพ (playmaker,Supporter)

ประวัติความเป็นมา
ร้านอาหารบางร้านก็ตั้งชื่อร้านตามจุดเด่นของตน ซึ่งร้าน Bear chief (ก่อตั้งปี อ.ศ.175) ก็เป็นหนึ่งในร้านแบบนั้นที่ตั้งชื่อตามจุดเด่นของตนว่า พ่อครัว(หรือแม่ครัว ?)ทุกคนในร้านต้องคอสเพลย์ชุดหมี (หมีจริง ๆ ดูในรูป) ในระหว่างการทำงานตลอดเวลา โดยมีคำกล่าวอ้างว่าผู้ก่อตั้งร่านนี้คอสเพลย์ชุดหมีอยู่ตลอดเวลาไม่และไม่เคยถอดชุดหมีออกเลยจนกระทั่งเสียชีวิต และร่างของเขาก็ได้รับการประกอบพิธีทางศาสนาทั้งในชุดหมีนั่นเอง ทำให้ผู้บริหารรุ่นต่อ ๆ มาเล็งเห็นว่าควรเอาจุดเด่นนี้มาเป็นจุดขายของร้าน จึงตั้งกฎให้พ่อครัวหรือแม่ครัวของร้านในเครือทุกคนจะต้องคอสเพลย์เป็นหมีตลอดเวลาที่ทำงานอยู่ในครัว ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ได้รับความนิยมจากเด็ก ๆ อยู่พอสมควร
เชฟหมี หรือ Bear chief ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งร้านตามชื่อของเขานั้น เป็นคนครัวอัฉริยะที่ในรอบร้อยปีจะมีซักคน ว่ากันว่าเขาเคยผ่านการฝึกจาก ร้านอาหารชื่อดัง Johny restaurant ในระยะเวลาเพียงแค่แปดเดือน ทั้งที่โดยทั่วไปต้องใช้เวลาอย่างต่ำถึงสองปี แต่หลังจากมีการทะเลาะกันเรื่องชุดทำงานและแนวคิดของร้านอาหาร (John de la Frongsurl คิดว่าอาหารควรต้องหลากหลายไม่ซ้ำกันทำให้คนไม่เบื่อ แต่เชฟหมีเห็นว่าควรทำอาหารอย่างที่ลูกค้าต้องการทานมากกว่าการทำอาหารหลากหลายตามวัตถุดิบแต่สั่งไม่ได้) ดังนั้นหลังสำเร็จการฝึกจากร้าน Johny เชฟหมีได้เดินทางไปทั่วทวีปเมอริเซียเพื่อฝึกวิชาการทำอาหาร เพื่อให้ทำอาหารที่ลูกค้าสั่งจากวัตถุดิบที่มีอยู่ได้ หลังการเดินทางทั่วทวีปเมอริเซียราว 5 ปี เขาก็ได้คนพบหลักการทำอาหารที่ต้องการได้จากวัตถุดิบทุกชนิด แม้หลักการนั้นจะต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมากเพื่อให้ได้อาหารจานเดียวก็ตาม แต่เขาเชื่อมั่นว่าแนวคิดของเขาถูกต้อง อย่างไรก็ดีแม้ว่าวัตถุดิบจะมีหลากหลาย แต่หลักการนี้จะใช้ได้เฉพาะกับอาหารแค่บางชนิดเท่านั้น ในสมัยก่อน ร้านอาหาร Bear chief ยังไม่ดังเท่าที่ควรเพราะอาหารที่สามารถประกอบได้มีไม่หลากหลายเท่าที่ควรนั่นเอง แม้จะมีบางจานอร่อยเลิศถึงขั้นกลูเม่ แต่ต้องใช้เวลาปรุงอย่างละเมียดละไม ไม่สามารถปรุงแบบเร่งด่วนได้เพราะจะทำให้รสชาติเสียไป แต่ในปัจจุบัน ผู้บริหารของเฟรนไชน์ Bear chief ได้ดำเนินรอยตามผู้ก่อตั้งด้วยการรวบรวมคนครัวผู้มีความสามารถจากทั่วทั้งทวีปเมอริเซีย เพื่อคิดค้นอาหารต่าง ๆ ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันร้านนี้มีเมนูต่าง ๆ มากมาย ทั้งเมนูที่สามารถปรุงแบบเร่งด่วนได้ และเมนูที่ต้องค่อย ๆ ปรุง ทำให้ร้านนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการที่ลูกค้าสามารถสั่งอาหารที่ตนต้องการกินได้ จนสามารถเรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของร้าน Johny เลยก็ว่าได้
ปัจจุบันได้มีการค้นพบการทำเมนูละเมียดละไมแบบเร่งด่วนได้แล้ว โดยการปรุงอาหารนั้นแช่เย็นรอไว้ก่อนเมื่อมีลูกค้าสั่ง ก็ให้ละลายน้ำแข็งโดยคำภีร์ไฟ (เป็นสินค้าหายาก เพราะต้องใช้ขนนกลูก ธันเดอร์ริก และเอ็นหัวใจซาลามันเดอร์เต็มวัย ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าหายากประเภท ง โดย ริอาต้า รายละเอียดติดต่อ "ริท" ไกล้บ้านท่าน) แล้วนำไปเสริฟทันที แต่เนื่องจากราคาของคำภีร์ไฟติดไปทางแพงถึงแพงมาก จึงทำให้ทางร้านสามารถทำอาหารชนิดละเมียดละไมแบบเร่งด่วนได้จำกัดครั้ง และในราคาที่ค่อนข้างสูง จึงไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร กลุ่มลูกค้าที่สั่งอาหารแบบนี้มักจะสั่งเพื่อฉลองเหตุการสำคัญ ๆ เท่านั้น
*หมายเหตุ มีนักทฤษฏีสมคบคิดสองสามคนมีความเห็นว่า ผู้ก่อตั้งนั้นแท้ที่จริงแล้วไม่ใช่คนคอสเพลย์เป็นหมี แต่เป็นหมีคอสเพลย์เป็นคนมากกว่า โดยพวกเขากล่าวอ้างถึงหลักฐานจากบันทึกสัมพาทย์เชฟหมี โดยในครั้งนั้นนักข่าวถามเชฟหมีว่าสามารถถอดชุดคอสเพลย์มาคุยกันได้หรือไม่ และเชฟหมีตอบด้วยท่าทางอาย ๆ ว่า "ไม่มีหมวกผมก็ไม่ใช่พ่อครัวสิ" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเชฟหมีคิดว่าชุดคอสเพลย์ที่นักข่าวถามนันคือชุดพ่อครัวที่เขาไส่มากกว่าเป็นชุดหมีที่คนทั่วไปควรจะนึกถึงเป็นอันดับแรก นักทฤษฏีสมคบคิดเหล่านี้กล่าวว่า หากเชฟหมีเป็นคนคอสเพลย์เป็นหมีควรจะตอบว่า "ถ้าไม่มีหัวหมีผมก็ไม่ใช่เชฟหมีสิ" มากกว่า อย่างไรก็ดี ข้ออ้างอื่นของพวกเขาที่บอกว่าชุดคอสเพลย์ของเชฟหมีเป็นขนสัตว์แท้ หรือลูกตาของชุดกลอกไปมาได้นั้น ไม่มีหลักฐานยืนยันที่แน่นอน ทฤษฏีของพวกเขาจึงไม่มีน้ำหนักเท่าที่ควร

พ่อครัวจากร้าน Bear chief ที่ผ่านการฝึกนั้นจะมีศิลปะในการใช้ไฟที่ยอดเยี่ยมมากถ้าเขาออกมายืนหน้าครัว จะทำให้พ่อค้าคนอื่นที่เห็นเทคนิการใช้ไฟของพวกเขานำเอาเทคนิกการใช้ไฟของพวกเขาไปเป็นจุดแข็งและประยุกต์ใช้กับตนเองได้ มีบันทึกว่า Mirabilis Mercenary บางคนนำเอาเทคนิกการใช้ไฟที่เห็นจากครั้งที่พ่อครัวจากร้าน Bear chief มาแสดงทักษะการใช้ไฟบริเวณหน้าร้านไปใช้ในการต่อสู้โดยการเอาไฟเคลือบโล่ของตนจนสามารถเอาโล่ฟาดหน้ากองโจรม้าแดงตายไปหลายศพได้ก่อนที่เขาคนนั้นจะถูกกองโจรม้าแดงแทงจุดอ่อนตาย แต่บันทึกนั้นแสดงให้เห็นว่าศิลปะการใช้ไฟของ เชฟหมีนั้นสามารถช่วยให้พ่อค้าคนอื่นที่ไม่กลัวไฟ นำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ถ้าคุณอยากรู้ว่าเทคนิกการใช้ไฟนี้เป็นอย่างไร คุณคงต้องไปที่ร้าน Bear chief แล้วลองดูเองแล้วล่ะ
ความสามารถอีกอย่างของพ่อครัวร้าน Bear chief ที่โด่งดังคือ วิธีการจับอุปกรณ์ เนื่องจากพ่อครัวของร้าน Bear chief นั้นต้องใส่คอสเพลย์เป็นหมีตลอดเวลา ทำให้พวกเขาต้องฝึกเทคนิกในการจับอุปกรณ์ทำครัวให้มั่นคงไม่ลื่นหลุดจากมือ จากความสามารถนี้เองทำให้พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการถืออุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงอาวุธด้วย พวกเขาสามารถสอนนักรบให้เรียนรู้วิธีการจับอาวุธที่ถูกต้องได้ แต่อาจจะต้องให้สินน้ำใจพวกเขาซักเล็กน้อยเพื่อที่พวกเขาจะได้เต็มใจทำ
แน่นอนว่า Bear chief เป็นร้านอาหารชื่อดังในเรื่องของการทำอาหารตามสั่งตามใจลูกค้าได้ทำให้พ่อครัวของร้าน Bear chief สามารถประกอบอาหารที่อยู่ในเมนูของร้านได้ทุกรายการไม่ว่าจะมีวัตถุดิบอะไรอยู่ก็ตามที ซึ่งเป็นจุดเด่นของร้าน Bear chief เลยทีเดียวแม้ว่าการใช้วัตถุดิบในการประกอบอาหารมากกว่าปริมาณอาหารที่ได้ แต่ราคาอาหารก็ไม่ได้มีการชาร์ตเพิ่มแต่อย่างใด ทำให้กำไรของร้าน Bear chief น้อยกว่าร้าน Johny อยู่มากอย่างไรก็ดี จำนวนลูกค้าที่มากขึ้นทุกวันทำให้พวกเขาสามารถต่อกรกับร้าน Johny ได้อย่างสูสี
*หมายเหตุ แม้ว่าร้านทั้งสองร้านจะเป็นคู่แข่งกันอยู่ในที แต่ร้านทั้งสองก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีทีติ วัตถุดิบใดที่ร้าน Johny ไม่สามารถปรุงได้ด้วยเหตุผลทางเทคนิก ร้าน Bear chief สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารรสเลิศและเป็นตัวอย่างให้ ร้าน Johny ปรุงซ้ำได้อีก ดังเห็นได้จากเมื่อครั้งวิกฤตอาหารปี อ.ศ.215 ร้านทั้งสองร่วมกันทำธุรกิจจนสามารถฝ่าฟันมาได้จนทุกวันนี้

อนึ่งพ่อครัวจากร้าน Bear chief นั้นหากต้องการตัวมาร่วมงานด้วยไม่จำเป็นจะต้องไปติดต่อสำนักงานใหญ่ร้าน Bear chief แต่อย่างใด แค่เดินไปที่ร้านแล้วลองทาบทามดูก็ได้ อย่างไรก็ดี พ่อครัวที่เข้าผึกงานกับร้าน Bear chief นั้นจะต้องเซ็นสัญญากับทางร้านว่า หากประกอบอาชีพพ่อครัวจะต้องคอสเพลย์เป็นหมีอยู่ตลอดเวลา ทำให้แม้คุณจะทาบทามพวกเขามาทำงานด้วยได้ แต่ก็ต้องทนกับชุดคอสเพลย์เป็นหมีของพวกเขาอยู่ดี

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
พ่อครัวจากร้าน Bear chief นั้นเป็นบุคคลากรที่ควรหามาร่วมทีมให้ครบจำนวนเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความที่พวกเขามีทักษะการใช้ไฟที่ยอดเยี่ยมและทำให้บุคคลอื่นนำไปประยุกต์ใช้ได้ (merchant ธาตุไฟใบอื่น at+1 def +2 และเอา def ตีได้แต่ต้องยืน atline นะ)
สามารถสอนการจับอุปกรณ์ต่าง ๆ หรืออาวุธให้คนอื่นได้แลกกับสินน้ำใจเล็กน้อย (จ่าย 1 นำ ps ไปติดที่ซีล) และที่สำคัญที่สุดเมื่อมีลูกค้า (มีไฟ หรือ merchant ใบอื่นในสนาม)พวกเขาสามารถปรุงอาหารอะไรก็ได้ตามสั่งแลกกับวัตถุดิบในการทำอาหาร แม้จะต้องใช้เยอะไปหน่อยก็ตามที แต่ราคายังคงเดิมเสมอ (จ่าย 0 เฟียร์ remove mytic สองใบในไชน์ ร่าย relic อะไรก็ได้หนึ่งใบในกอง แต่จ่ายค่าร่ายด้วย ข้อดีคือสามารถเรียกได้ตามสถานการ์ณ ข้อเสียคือใช้ตั้งสองใบ T_T)จึงควรกะเกณท์ให้ครบจำนวนเป็นอย่างยิ่ง

วิเคราะห์จำนวนที่ควรไส่
หน้าที่จริง ๆ ของการ์ดใบนี้คือ wisdom relic ในกอง ไม่ไส่สี่ จะเอาเท่าไหร่ ? อีกอย่างเป็นตัวที่ทำให้คอมโบไม้ตายติดง่ายขึ้นอีกด้วย จึงเหมาะสมกับการไส่ สี่ใบเป็นอย่างยิ่ง (คอมโบไม้ตายคืออะไร ? อยากรู้ก็ทนอ่านไปทนไม่ได้ก็เลิกอ่านไป ไม่ได้บังคับนิ)


Panna Forest Oracle
รูปภาพรูปภาพ (be sacrificed unit)

"No sacrifices no victory"

ประวัติความเป็นมา
ป่าพันนา ป่าลึกลับ แดนลับแล ทุกคนในโลกเมอริเซียต่างก็รู้จักป่าผืนนี้ดี แม้จะมีการระบุตำแหน่งโดยคร่าว ๆ ได้ว่าอยู่บริเวณฟูดินันเดิม แต่ก็ไม่มีนักเดินทางผู้ใดเลยที่เคยเดินทางเข้าไปถึงหมู่บ้าน?พันนา แต่อย่างไรก็ดี ทุกคนก็รู้ดีว่าป่าพันนาผืนนี้นี่แหละที่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านผู้กำหนดประวัติศาสตร์บนดินแดนแห่งดินแห่งนี้ เพราะเหตุใด ? สำหรับท่านที่ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหนมาจนไม่รู้จักความสำคัญของป่าพันนา ทุกครั้งที่เกิดวิกฤตการ์ณหรือสงคราม ไม่ว่าครั้งใดก็ตามบนดินแดนแห่งดินแห่งนี้ หมู่บ้าน?ที่อยู่ในป่าแห่งนี้จะส่งที่ปรึกษา ออกเดินทางไปยังกองทัพที่กำลังสู้อยู่เพื่อให้ความช่วยเหลือกองทัพแห่งนั้น และเมื่อเกิดเหตุการ์ณไม่คาดฝัน หรือวิกฤตการ์ณเกิดขึ้น ที่ปรึกษาผู้นี้จะเสี่ยงชีวิตออกไปยังแนวหน้าเพื่อหาทางแก้ไข หลาย ๆ ครั้งที่การแก้ไขนั้น สามารถยุติเหตตการ์ณ หรือวิกฤตการ์ณนั้น ๆ ได้ทันที บ่อยครั้งที่การเสี่ยงชีวิตของที่ปรึกษาเหล่านี้สามารถพลิกสถานการ์ณของฝ่ายที่พวกเขาเข้าร่วมได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว กล่าวได้ว่าที่อนาจักรแห่งดินแห่งนี้ดำรงอยู่มาได้เป็นเวลานานเพราะป่าพันนาผืนนี้ได้ส่งที่ปรึกษาออกมาช่วยเหลือพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกกองทัพที่ชนะ ย่อมมีที่ปรึกษาจากป่าผืนนี้อยู่ด้วยเสมอ จนกล่าวได้ว่าป่าผืนนี้นี่แหละที่เป็นจุดกำหนดประวัติศาสตร์ของดินแดนแห่งดินแห่งนี้
*หมายเหตุ มีนักประวัติศาสตร์บางท่านเชื่อว่าสิ่งที่อยู๋ในป่าแห่งนี้ไม่ใช่หมู่บ้าน แต่เป็นอณาจักร เพราะเห็นว่าจำนวนที่ปรึกษาที่ออกมาจากป่าแห่งนี้ มากเกินกว่าที่จะมาจากหมู่บ้านเดียว
ที่ปรึกษาจากป่าพันนาผืนนี้ อยู่เบื้องหลังความสำเร็จมากมายเบื้องหลังกองทัพที่พวกเขาต้องการให้ได้รับชัยชนะ เป็นต้นว่ากองกำลังมาวินนากา ซึ่งสามารถพลิกกลับมาชนะในสถานการ์ณที่ล่อแหลมได้หลายครั้ง หรือกองกำลังแห่งป่าทมิฬที่หวิดถูกกองทัพซาโลมเข้าตีแตกได้หลายครั้ง แต่การสละชีวิตเข้าช่วยเหลือของที่ปรึกษาเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้กองทัพป่าทมิฬเหล่านี้พลิกกลับมาชนะจนสามารถเป็นกันชนทัพซาโลมให้กับฟูดินันในครั้งกระโน้นได้
เหตุใดป่าพันนาแห่งนี้ถึงได้ตัดสินใจที่จะแทรกแซงประวัติศาสตร์ของอณาจักรแห่งดินแห่งนี้ ? เพราะแต่โบราณกาลมาป่าแห่งนี้คงได้ชื่อว่าเป็นเพียงผืนป่าลับแลเป็นดินแดนในตำนานเท่านั้น นักประวัติศาสตร์หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น Marty Shepard หรือ พระนักโบราณคดีท่านมาซิลิโอ้ที่ 15 ต่างก็กล่าวเป็นทำนองเดียวกันว่า จุดเริ่มต้นน่าจะเกิดในช่วงปลายของยุคการเดินทางของ Ishan (ราว ๆ อ.ศ.96) เพราะในช่วงนั้นมีนักเดินทางที่อ้างว่าตนมาจากป่าพันนา ถึงสองคน เป็นคู่หูแม่มดกับนักธนู พวกเขาทั้งสองคนเดินทางไปทั่วทวีปเมอริเซียก่อวีรกรรมไว้มากมาย ก่อนที่ร่องรอยของพวกเขาทั้งสองจะหายไปจากบันทึกประวัติศาสตร์ ท่านมาซิลิโอ้ที่สิบห้าเชื่อว่าพวกเขาทั้งสองเดินทางกลับไปยังป่าพันนาเพื่อนำเอาเรื่องราวต่าง ๆ จากโลกภายนอกเข้าไป แต่ ดร.Marty เห็นต่างออกไป ดร.Marty เห็นว่าพวกเขาทั้งสองออกเดินทางเพื่อเก็บเอาลักษณะภูมิประเทศและทำแผนที่ดินแดนเมอริเซียแล้วนำกลับไปส่งให้ป่าลับแลแห่งนี้เพื่อการฝึกฝนที่ปรึกษามากกว่า แต่ทั้งสองท่านก็เห็นตรงกันว่าเหตุการ์ณนี้แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ป่าพันนาตัดสินใจแทรกแซงประวัติศาสตร์ เพราะหลังจากสิ้นสุดยุคการเดินทางของ Ishan (ราวปี อ.ศ.ที่ 97 หลังจากที่องค์หญิงอลาน่าเสียสละตนเพื่อหยุดสงคราม และได้รับการขนานนามให้เป็น saint) ในปีเดียวกับการเขียนแผนที่เมอริเซียครั้งที่สาม (ดูภาคผนวก) ป่าแห่งนี้ก็เริ่มส่งที่ปรึกษาออกช่วยเหลือทุกกองทัพในดินแดนแห่งนี้ทันที เหตุผลที่แท้จริงแม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดแต่ต้องเกี่ยวข้องกับการเดินทางของคู่หูแม่มดนักธนูจากป่าแห่งนั้นแน่นอน และยังคงเป็นปริศนาต่อไปจนกว่าพวกเขาจะยอมเปิดเผยตัวตนอย่างแน่นอน
ที่ปรึกษาที่มาจากป่าแห่งนั้นเป็นหญิงสาวทั้งหมด เมื่อประชากรจากดินแดนแห่งดินที่พวกเขาให้การสนับสนุนเกิดเพลี่ยงพล้ำหรือเจอกับวิกฤตการ์ณพวกเธอจะเข้าไปยังแนวหน้าเพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาทันที จากนิสัยที่ชอบเข้าไปยังแนวหน้าเพื่อหาวิธีการแก้ปัญหานี้เอง ทำให้ส่วนใหญ่หลังจากแก้ไขปัญหาได้แล้วพวกหล่อนมักจะเสียชีวิตในหน้าที่ แม้จะมีความพยายามที่จะกันไม่ให้พวกหล่อนเข้าไปยังแนวหน้ามากเท่าใดพวกหล่อนก็จะพยายามเข้าไปมากขั้นเท่านั้น กล่าวกันว่าโอกาศเสียชีวิตในหน้าที่ของที่ปรึกษาเหล่านี้อยู่ที่ 98% เลยทีเดียว ที่ปรึกษาที่สามารถรอดมาได้นั้นส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าไปแนวหน้าเพราะใช้วิชาส่องเหตุการ์ณระยะไกล จากแม่มดโซลิต้า จากเดินแดนลีฟแลน พวกหล่อนจึงสามารถหาทางออกให้เหตุการ์ณนั้น ๆ ได้โดยที่ไม่เสียชีวิต อย่างไรก็ดี จากรายงานของกองทัพที่มีแม่มดจากแดนลีฟแลน ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าที่ปรึกษาที่รอดเพราะมีแม่มดอยู่นั้น มักจะไม่สามารถแก้ไขสถานการ์ณอย่างมีประสิทธิภาพได้อีกต่อไป เป็นได้แค่เพียงผู้สนับสนุนเท่านั้น จึงไม่แตกต่างจากการเสียชีวิตในหน้าที่ซักเท่าใดนัก ส่วนสาเหตุที่ทำให้พวกหล่อนไม่สามารถหาทางออกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไปนั้น ยังเป็นปริศนามาอยู่จนทุกวันนี้
ปัจจุบันไม่ทราบว่ามีการติดต่อเป็นการลับจาก Mirabilis Academy กับป่าพันนาหรืออย่างไร จึงมีที่ปรึกษาจากป่าพันนาเหล่านี้ออกเดินทางเพื่อป้องกันตลาดต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กันเสมอ ดังนั้นตลาดที่มี Mirabilis mercenary คุ้มกัน จึงไม่ต้องมีปัญหามากมายเท่าใดนัก

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
เนื่องจากพวกหล่อนสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือแก้ไขสถานการ์ณที่กำลังเสียเปรียบกองโจรได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะต้องเสียสละตัวพวกหล่อนไปก็ตาม (จ่าย 0เฟียร์ ดิสพันนา search tarot ขึ้นมือ คงไม่ต้องสาธยายคุณสมบัติมากมาย รู้ ๆ กันอยู่) แต่หากคุณสามารถหาพวกหล่อนมาประจำอยู่ในกิจการคุณได้เต็มจำนวนก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียใจซักเท่าใดนัก (เสียไชน์สอง จิ้บ ๆ มาก)

วิเคราะห์จำนวนที่ควรไส่
อ่อ ...... ถ้ามีตังนะ 4 ไปเหอะ ถ้าไม่มี ยัดเวอร์แฟร์แก้ขัดได้ หรือไม่งั้นก็ไส่ร่างจุติพี่น้องไปละกัน แต่เชื่อพี่เหอะน้อง พันนานี่แหละ เหนียวกว่าเยอะ

Pyrus Calleryna Fairy
รูปภาพ(key to victory, ไม้ตายดาบสองคม)

"ทุกคนต้องจ่ายภาษี แน่นอน คุณก็ด้วย"

ประวัติความเป็นมา
Pyrus Calleryna ดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์ของกรมสรรพากร อันเนื่องมาจากการที่ดอก Pyrus Calleryna ชอบร่วงโรยไปก่อนหนึ่งดอกเพื่อเป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้ทั้งต้นในระยะยาว อันเป็นลักษณะของการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกรรมสรรพากรจึงเลือกเอาดอกไม้ชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยงานของตน
แรกเริ่มเดิมทีสัญญลักษณ์ของกรรมสรรพากรของประเทศต่าง ๆ ในมหาทวีปเมอริเซียนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศเช่น Annedisonge นั้นเป็นรูปแก้วน้ำสี่แก้ว ส่วนของซาโลมนั้นเป็นรูปคทาไข้วกัน เป็นต้น แต่หลังยุคการเปิดเสรีการค้าและการปฏิวัติการศึกษาเป็นต้นมา นานาประเทศต่างก็มีความคิดที่จะให้หน่วยงานในสังกัดของตนใช้สัญลักษณ์แบบเดียวกันเพื่อความสะดวกในการติดต่อค้าขายกันระหว่างประเทศ ประชาชนที่เดินทางค้าขายไปมาจะได้แยกออกว่าอาคารไหนเป็นของหน่วยงานใด เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการจัดการธุระกรรมต่าง ๆ จนเกิดสนธิสัญญาวาลเนียขึ้น โดยตามสนธิสัญญาดังกล่าวกำหนดให้ดอก Pyrus Calleryna เป็นสัญลักษณ์ของกรมสรรพากร เพราะลักษณะเฉพาะของมันนี่เอง
ในส่วนของอัตราภาษีนั้น ตามสนธิสัญญาฟิเลเซีย อันเป็นสนธิสัญญาว่าด้วยการเก็บภาษีนานาประเทศ (การประชุมฟิเลเซียเกิดหลังการประชุมวาลเนีย สองเดือน) ทุกประเทศมีความเห็นตรงกันว่า ควรให้มีการเก็บภาษีหนึ่งหน่วยเงินตราต่อการขายสินค้าหนึ่งชิ้น แต่หากวันนั้น ผู้ประกอบการได้หักภาษี ณ ที่จ่ายส่งรัฐก่อนแล้ว รัฐก็จะยกเว้นภาษีของวันนั้นให้้คุณวันเลยทีเดียว (เพื่อเป็นการกระตุ้นเศษรฐกิจ) และเนื่องจากอาหารเป็น ปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต ผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร จึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายภาษีแต่อย่างใดแต่หากไม่จ่าย จะต้องเจอค่าปรับ + เงินเพิ่ม จนแทบจะเรียกได้ว่าเจ้งกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว
ในยุคเริ่มแรก จะมีรภม้าวนไปทั่วเมืองเพื่อเก็บภาษ๊จากผู้ประกอบการที่อยากหักจ่ายแต่ต้นวันเพราะอยากได้รับยกเว้นภาษีตลอดทั้งวัน แต่รถม้าของกรมมีเพียงแค่สามคัน บางครั้งการจะวนไปรอบเมือง ก็ใช้เวลาถึงเที่ยงวัน บางครั้งก็ถึงเย็น ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบขึ้น ในปัจจุบันจึงมีการว่าจ้างแฟรี่ จำนวนมาก บินไปบินมาระหว่างร้าน เพื่อเก็บภาษีต้นวันส่งกรม ซึ่งปัจจุบันการเก็บภาษีตันวันมักจะเสร็จสิ้นไม่เกินตอนเช้าของทุกวันทำให้การได้เปรียบเสียเปรียบนั้นไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เพื่อให้แยกแฟรี่ที่รับหน้าที่นี้จากแฟรี่อื่นออกจึงให้แฟรี่นี้ ถือดอก Pyrus Calleryna ไปไหนมาไหนด้วย จึงเป็นที่มาของพนักงานเก็บภาษี Pyrus Calleryna fairy นี่เอง
อนึ่ง แฟรี่นี้มีหน้าที่นั่งเฟ้าร้านของคุณหากคุณไม่ยอมจ่ายภาษีต้นวัน เพื่อคอยเก็บภาษี + ค่าปรับ + เงินเพิ่ม จากการขายสินค้าทุกชินของคุณอีกด้วย
*หมายเหตุ มีนักทฤษฏีสมคบคิดบางคนเห็นว่าปัญหาข้าวของแพงทุกวันนี้มีผลมาจาก Fairy ตัวนี้นี่เอง

หน้าที่และความสำคัญใน Deck
ภาษี ๆ ๆ ไม่มีใครชอบจายภาษีแน่นอนอยู่แล้ว รวมทั้งเราด้วย ดังนั้นเราจึงควรจำกัดจำนวนผู้ร่วมงานไว้ที่ครึ่งเดียว จริงอยู่แม้ว่าเราจะเลี่ยงภาษีได้ แต่ต้องใช้เวลาในการตั้งกิจการพอสมควร หากโดนเก็บภาษีตั้งแต่แรก ๆ ก็เหนื่อยไม่ใช่น้อย และอาจถูกเก็บภาษีถึงขั้นล้มละลายได้ หามาร่วมงานเยอะเกินไปจริงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย

วิเคราะห์จำนวนที่ควรไส่
เป็น key การ์ดไม้ตายของ Deck พ่อค้าไฟเลยก็ว่าได้ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า โดนทั้งคู่มันดีตรงไหน ? เราจะมาวิเคราะห์ให้ฟังทีละอย่าง
---- เล่นMP7 แฟรี่ MP 7 เป็นชื่อเรียกอีกชื่อที่ผมใช้เรียก เพราะการจ่าย 1 ก่อนถึงจะร่าย mystic ในมือได้นั้น สำหรับโลกที่มาตรฐานการตีอยู่ที่จ่ายสองตีอย่างทุกวันนี้ เท่ากับว่่าไม่ต่างอะไรกับการเล่น MP 7 เลยทีเดียว (เพราะต้องจ่ายอีก 1 เพื่อร่ายมิสแก้เท่ากับใช้ 3 ตีละ เหลือแก้ได้สองใบ MP เหลืออีก 1 ทำอะไรไม่ค่อยได้) แล้วมันดีตรงไหนล่ะ ? มันดีตรงที่ใช้ปริมาณใบแก้น้อยลงไงล่ะ จาก ต้องแก้ได้ 4 ใบถึงจะรอด เหลือแค่มีแก้ได้สามใบก็รอดล่ะ โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องตั้งรับรัว ๆ (ซึ่งก็เป็นธรรมดาของ deck contra เอ้ย control อยู่แล้ว) จะช่วยได้มาก เพราะเราได้จั่ว turn ละสองใบ ใช้แก้สามใบ โอกาศรอดก็สูงขึ้นมาก ดีกว่าต้องใช้ 4 ใบแก้ แล้วจั่ว turn ละสองใบ ซึ่งกรณีหลังย่อมหมดมือเร็วกว่า หลายคนอาจจะมองว่า ฝ่ายตรงข้ามก็ใช้สองใบแก้แทนสามใบเหมือนกันนี่ ใช่ครับผมไม่เถียงว่าฝ่ายตรงข้ามก็ใช้แค่สองใบแก้เหมือนกัน แต่อย่าลืมครับ เรามี เชฟหมี และ จอนนี่ เราใช้แล้วใช้อีกได้ แต่เค้าใช้ซ้ำไม่ได้ซักวันเค้าก็หมดครับขอแค่เรา def ให้อยู่ก็พอล่ะการลดใบแก้ ย่อมทำให้เรา def ง่ายขึ้นเป็นธรรมดา (สำหรับคนที่เล่น deck contra ตีแหลกอาจจะไม่เข้าใจ แต่สำหรับคนที่เล่น deck control ตั้งรับเป็นประจำผมเชื่อว่าเข้าใจแน่นอนครับว่าปริมาณน้อยลงโอกาศรอดสูงขึ้นมากขนาดใหน)
----ร่าย 3 ไม่สำคัญ รู้อยู่ว่าชื่อเล่นของมันคือ MP 7 ดังนั้นเวลาตั้งรับ การร่ายการ์ดร่ายสามก็ไม่ใช่ปัญหาคอขาดบาดตายแต่อย่างใด เพราะ 3 + 1 = 4 เหลือ MP อีก 4 แก้ได้สองใบเหมือนกันโดยเฉพาะ mystic บางใบที่ร่ายสามและเวลาดวลปกติไม่ค่อยอยากจะร่ายกัน (คัมภีร์ไฟ lost soul captivity เป็นต้น) แต่พอเหลือเล่น MP 7 ทำให้การร่ายสามเป็นใบเปิดก็ไม่ได้ทำให้โอกาศแพ้การดวล mystic เพิ่มขึ้นแต่อย่างซึ่งถ้าเป็นตามธรรมดา MP 8 เราร่ายสามขึ้นมาก็หยิบซีลเราลงไชน์ได้เลยไม่รอดชัวร์ หลายคนอาจจะเถียงว่า อ่าวฝ่ายตรงข้ามก็ร่ายสามใด้ใบนึงเหมือนกันนี่นา ถามจริง ๆ เหอะครับ มีใครไส่ร่ายสามกันเยอะมากมั้ยเดี๋ยวนี้ ? โซปราโนงี้ บาสเต็ดงี้ กระสืองี้ เมื่อก่อนบินกันว่อน เดี๋ยวนี้เห็นกันบ้างมั้ยครับ ? ผมไม่เถียงว่า lost soul กับ captivity ยังมีคนไส่กันอยู่ แต่สองใบเนี้ยอ่ะ คุณภาพไม่แตกต่างจากใบร่ายสองเลย ไม่กดดัน ไม่เหมือน โซปราโน บาสเต็ด หรือกระสือ ที่ถ้าร่ายสำเร็จ "ถึงตาย"
----เหลือ MP 1 เอาไปทำอะไรดี ? ถ้าเราไม่ร่าย mysitc ร่าย 3 เราก็จะมี MP เหลืออยู่ 1 ถ้าเป็นฝ่ายตรงข้ามก็ทำได้แค่ร่ายซีลเด็ก ๆ ลงมาแต่ถ้าเป็นเรา เราสามารถเอาไปให้ toy retailer ทำทุนได้เท่ากับว่าเราเหลือ MP มาร่ายซีล เพิ่ม 2 แน่นอน (ซีลมาตรฐานส่วนใหญ่ร่ายสองอยู่แล้ว) หรือถ้าเรามี toy retailer สองคนเราก็ทำ MP ได้ 3 ป่วนกลับได้อีกถ้าจังหวะดี ๆ
----บุกด้วย toy retailer การบุกด้วย toy retailer ไม่ได้หมายความว่าให้มันไปตบตีกับชาวบ้านที่ไหน แต่ถ้า MP เราเต็ม 8 แล้วต้องการบุกกลับ แน่นอน เอา Toy retailer เกน MP ซะ ใช้แฟรี่ Mp7 นั่นแหละเป็นสารตั้งต้น เท่ากับว่า MP 1 ที่เราจ่ายเพิ่ม เราก็ไม่ต้องจ่ายล่ะ แต่ฝ่ายตรงข้ามยังต้องจ่ายอยู่ เท่ากับเค้าแก้ได้ 3 ใบ อ่าว เราจ่ายสองตี แก้ได้สามใบเท่ากันเลยอย่างนี้ก็สวยสิ
----เลี่ยงภาษี แน่นอน สาเหตุที่แฟรี่ตัวนี้ทำให้เราชนะย่อมมีอยู่ ถ้าอ่าน text มันให้ดี ๆ เราก็จะเห็นว่ามัน +mp ค่าร่ายเฉพาะในมือเท่านั้น แต่ พี่หมี และป้าจอนนี่ของเราร่ายจากใน "กอง" control มิสให้ดี ๆ จะเท่ากับว่าเราไม่ต้องจ่าย MP1 เพิ่มเติมแต่อย่างใดนี่แหละข้อได้เปรียบมหาศาลเลยสำหรับการเล่นซัมมอนเนอร์ ซึ่งเป็นที่รู็จักกันดีในนาม MP adventage
----จริง ๆ วิธีใช้งานมันมีเยอะกว่านี้แต่เอาไว้แค่นี้ก่อน ถ้าว่าง ๆ จะมาเพิ่มไว้ให้ในภาคผนวกละกัน
สรุปตอนนี้ไส่สองใบก่อน เพราะมันเป็นหนึ่งในตัวที่ทำให้เราชนะได้แม้จะไม่ต้องกางตลาดหรือ เล่นพลาดตลาดโดนพัง

คอมโบไม้ตายที่ควรรู้ (จริง ๆ อยากจะพิมพ์ไว้ตรงวิธีเล่นมากกว่าแต่วิธีเล่นยังไม่เสร็จเดี๋ยวจะโดนคนเค้าเช่งเอา เลยเอามาไส่ ๆ ไว้ก่อนสองสามอัน)

-นับ at เรา นับ at เค้า ห้ามร่าย เสร็จแล้วกางตลาด
-บุกด้วย toy retailer (บอกไปแล้ว)
-แฟรี่ซ่อนแอบ (เดี๋ยวค่อยมาขยายความ แต่ pro player น่าจะรู้แล้วว่าหมายความว่าไง)

======================================================================
EDIT by Admin: ลบข้อความที่ไม่สุภาพ
ที่นี่มีกฎการใช้บอร์ดอยู่นะครับ ถ้ายังไม่ได้อ่านก็ลองไปอ่านซะหน่อย viewtopic.php?f=9&t=34
เพราะฉะนั้นอย่าเอามาตรฐานการใช้ภาษาของบอร์ดอื่นมาใช้ที่นี่ครับ
======================================================================
ภาพประจำตัวสมาชิก
MarTiYea
0
 
โพสต์: 78
Cash on hand: 550.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย MarTiYea เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 9:51 am

จองไว้ลงวิเคราะห์ คอนโดมีเนี่ยม และ ลงวิธีเล่น
วิเคาราะห์ คอนโดมีเนียมที่ควรมี
(coming soon)
วิธีเล่น
(coming not soon)
ภาพประจำตัวสมาชิก
MarTiYea
0
 
โพสต์: 78
Cash on hand: 550.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย MarTiYea เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 9:53 am

โพสนี้เอาไว้ไส่ ป.ล.ไม่มีความสำคัญใด ๆ ทั้งสิ้นใครขี้เกียจอ่านข้าม ๆ ไปก็ได้ไม่ว่ากัน

V.1.00
ป.ล.อย่างที่รู้กัน จขกท "เกรียน"
ป.ล.2 และคนที่อ่านมาก็คงจะรู้ว่า จขกท เป็นคนที่คิดเองเออเอง ตอบเอง พูดกับตัวเอง เหมือนคนบ้า
ป.ล.3 สงวนสิทธิไม่ตอบโต้กับโพสที่ใช้ข้อความรุนแรง หรือใช้เหตุผลแบบสีข้างเป็นรอย(แถ)
ป.ล.4 เนื่องจากกระทู้ยังไม่สมบูรณ์จึงขอปลอมตัวเป็นกระทู้ขอ deck ไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกรียนที่ชอบขอ deck ไม่เคยคิดจะคิด deck เข้ามาดูก่อนเวลาอันควร
ภาพประจำตัวสมาชิก
MarTiYea
0
 
โพสต์: 78
Cash on hand: 550.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย kendejiz เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 11:46 am

อ่านแล้วเหมือนจะดี อยากจะชมครับ แต่รบกวนเปลี่ยนภาษาให้ถูกต้องและสุภาพด้วยจะดีมากครับ

บอร์ดนี้ควรใช้ความสุภาพในการพูดคุยนะครับ ไม่ใช่บอร์ดเกรียน ๆ

ลองอ่านกรุทู้หลาย ๆ กระทู้ของบอร์ดดูครับว่าบอร์ดนี้ขาวสะอาดไม่มีการใช้ภาษาไม่เหมาะสมเหรือเกรียนใส่กันครับ (หาไม่ได้เป็นการพูดคุยกับเพื่อนสนิด)

จริง ๆ แม้คุยกันเองกับเพื่อก็เป้นการไม่สมควรนะครับ อย่าทำให้บอร์ดดี ๆ ต้องเสื่อมเสียเลยครับ - -"
ภาพประจำตัวสมาชิก
kendejiz
0
 
โพสต์: 9446
Cash on hand: 27,500.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย DearGodZ เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 11:51 am

kendejiz เขียน:อ่านแล้วเหมือนจะดี อยากจะชมครับ แต่รบกวนเปลี่ยนภาษาให้ถูกต้องและสุภาพด้วยจะดีมากครับ

บอร์ดนี้ควรใช้ความสุภาพในการพูดคุยนะครับ ไม่ใช่บอร์ดเกรียน ๆ

ลองอ่านกรุทู้หลาย ๆ กระทู้ของบอร์ดดูครับว่าบอร์ดนี้ขาวสะอาดไม่มีการใช้ภาษาไม่เหมาะสมเหรือเกรียนใส่กันครับ (หาไม่ได้เป็นการพูดคุยกับเพื่อนสนิด)

จริง ๆ แม้คุยกันเองกับเพื่อก็เป้นการไม่สมควรนะครับ อย่าทำให้บอร์ดดี ๆ ต้องเสื่อมเสียเลยครับ - -"

+2555!
ภาพประจำตัวสมาชิก
DearGodZ
0
 
โพสต์: 1589
Cash on hand: 450.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย sed เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 12:49 pm

เดคน่าสนใจมากครับ เห็นว่าจะมีภาคผนวกด้วยรอติดตามอยู่นะครับ
sed
0
 
โพสต์: 153
Cash on hand: 50.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย kengo เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 1:29 pm

ขอติดตามด้วยคนครับ กระทู้นี้สุดยอดจิงๆครับ
kengo
0
 
โพสต์: 1
Cash on hand: 50.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย kendejiz เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 1:44 pm

kengo เขียน:ขอติดตามด้วยคนครับ กระทู้นี้สุดยอดจิงๆครับ


เพิ่งโพสแรกก็มาอ่านหนัก ๆ ก่อนเลยหรอครับ (ฮา ฮา)

ไม่เถียงนะครับว่าเขียนได้ดีมาก แต่ว่าติดเรื่องภาษาที่ใช้นี่แหละครับ - -" (ร้อนแรงซะจริง ๆ) ::004::
ภาพประจำตัวสมาชิก
kendejiz
0
 
โพสต์: 9446
Cash on hand: 27,500.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย sw3ie เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 2:33 pm

ตอนแรกเปิดเข้ามาอ่าน จะยาวสักแค่ไหน.. ::001::

พอเลื่อนลงมา... . . . ::004:: ::019::
ภาพประจำตัวสมาชิก
sw3ie
0
 
โพสต์: 230
Cash on hand: 250.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย hillzaza เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2012 10:06 pm

ใครอยากรู้ตัวเด็คทั้งหมดพร้อมวิธีเล่นถามผมได้คับ



ฺัBy เด็กที่เล่นซาจิแพ้ Merchant ไฟ มาแล้วหลายครั้ง(เจ้าของกระทู้คงรู้ว่าผมเป็นใคร 555)
ภาพประจำตัวสมาชิก
hillzaza
0
 
โพสต์: 119
Cash on hand: 50.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย ~MerChanDise~ เมื่อ พุธ พ.ค. 23, 2012 2:51 am

Pyrus น่าสนแฮะ
~MerChanDise~
0
 
โพสต์: 4842
Cash on hand: 1,655.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย hillzaza เมื่อ พุธ พ.ค. 23, 2012 10:12 pm

~MerChanDise~ เขียน:Pyrus น่าสนแฮะ

ไม่ใช่แค่น่าสนเป็นไม้ตายเด็คนี้เลยละตั่ง Pyrus แล้วใช้ Johny กับ Bear Chef ร่ายมิส โดนแล้วจะบ้าตาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
hillzaza
0
 
โพสต์: 119
Cash on hand: 50.00

Re: ขอลิส DECK Merchant ไฟ + วิธีเล่นหน่อยครับ

โพสต์โดย kendejiz เมื่อ พุธ พ.ค. 23, 2012 10:47 pm

hillzaza เขียน:
~MerChanDise~ เขียน:Pyrus น่าสนแฮะ

ไม่ใช่แค่น่าสนเป็นไม้ตายเด็คนี้เลยละตั่ง Pyrus แล้วใช้ Johny กับ Bear Chef ร่ายมิส โดนแล้วจะบ้าตาย


ถ้าจะโกง MP โดยการใช้ Johny กับ Bear Chef ร่าย Mystic ในขณะที่มี Pyrus อยู่ หมายความว่าเราเองก็ต้องห้ามร่าย Mystic สดจากมือเองเลยด้วยนะครับ

เพราะไม่อย่างนั้นจะเท่ากับว่าสุดท้ายเราก็เสีย MP เพิ่มอีก 1 อยู่ดีครับ

เช่นว่าเรามี Johny ในสนาม 2 ใบ และมี Pyrus 1 อีกใบ ถ้าเราจ่าย 2 ตีเข้าไป แล้วสั่ง Johny 2 ใบใช้ Skill เราจะเหลือ Mp อีกแค่ 2 เท่ากับว่าเรามี MP ไม่พอที่จะร่าย Mystic ค่าร่าย 2(+1) จากมือได้ครับ

จริง ๆ แล้ว Pyrus คือไม้ตายที่เล่นคู่กับ Toy Retailer มากกว่านะครับ

เพราะเดิมทีการใช้ Toy Retailer Gain Mp มา 1 แล้วจ่าย 2 ตีเข้าไป มันแทบจะไม่ช่วยอะไร แต่พอมี Pyrus อยู่นในามปุ๊บ การ Gain 1 Mp นั้นจะกลับมีประโยชน์เป็นอย่างมากครับ

ยิ่งไปกว่านั้นคือ Pyrus ในสนามก็คือเหยือให้ Toy Retailer ชี้ inactive อยู่แล้วด้วยครับ

ส่วนอีกประโยชน์ก็คือตามที่ จขกท.กล่าวไว้แล้วอีกเช่นกัน คือการลดจำนวนการ์ด Mystic ที่ต้องสูญเสียไประหว่างตั้งรับครับ แต่จริง ๆ เดคนี้ก็จั่วไวอยู่แล้วแหละนะครับ ถ้ามี MP เหลือซัก 2 ก็ได้ร่าย Seal จั่ว 1 ใบอยู่แล้วหละ ^^

ประโยชน์อีกหนึ่งคือการใช้ Twinkling ในจังหวะคับขันครับ

จริง ๆ แล้ว Pyrus เองผมเอาไว้คอมโบกับ นวญ. ครับ แต่หาจังหวะใช้ยาก (เดคไหนที่ผมใช้ Pyrus ผมจะใส่ 3-4 ใบไปเลย) ::022::
ภาพประจำตัวสมาชิก
kendejiz
0
 
โพสต์: 9446
Cash on hand: 27,500.00


ย้อนกลับไปยัง Card, Deck, and Combo Corner

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน