[lordhunya]

ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ เคยเล่นทีมกันรึเปล่า ส่วนผมเคยเล่นกันตั้งแต่ ผมอยู่ม.3 ตอนนี้ก็ปาไป อยู่ปี 4 ซะแล้ว ก็ยังเล่นกันอยู่ และกฏที่ผมใช้เล่นเป็นประจำจะเป็นแบบนี้เกมส์นึงตกแล้วถ้าสูสีกันมากจะใช้เวลาในการเล่นถึง 3ชั่วโมงเชียว และเล่นได้ไม่มีเบื่อ

ที่แตกต่างจากการเล่นคนเดียวมีดังนี้

Shrine รวม 30 1เทิร์น = 4 ซับเทิร์น MP สูงสุดคือ 8 จำนวนการ์ดในมือสูงสุด 7

TEAM A ผู้เริ่มเล่นก่อน จะได้เล่นใน MP5
TEAM B คนที่ 2 ได้เล่น MP6
TEAM A คนที่3 ได้เล่น MP7 จ่าย MP นอกเหนือจาก การร่ายได้ แต่ไม่สามารถโจมตีได้
TEAM B และคนที่ 4 ได้เล่น MP8 จ่าย MP นอกเหนือจากการร่ายได้ สามารถสั่ง ซีลโจมตีได้

-Mp ใช้แยก ผู้เล่นละ 8

-Shrine นับรวม ไม่นับแยก เช่น ฝ่าย A1 มีShrineอยู่ 20 แล้ว แต่ A2 ยังไม่มีสักตัว ก็ยังไม่ถือว่าแพ้ เป็นต้น

-Line ใคร Line มัน เช่น ผู้เล่น A1 และ A2 จะใช้ สนามกันคนละสนามถ้าผู้เล่น A1 ไม่มี Seal ใน AT Line ในขณะที่ผู้เล่น A2 มี Seal ใน At Line ฝ่าย B1 หรือ B2 ก็สามารถตีตัวที่ Df Line ของ A1 ได้ โดยที่ไม่ติด Seal ของ A2 แต่อย่างใด นอกเสียจาก A2 จะมี It's No Joke แล้วย้ายเป้าหมายการโจมตีมาที่ A2 ได้

-การนับรวมAtจะนับรวมแค่ ผู้สั่งโจมตี และผู้ถูกโจมตีเท่านั้น อาทิเช่น A1มี Charles Clarence และสั่งโจมตี B1 Charles Clarence +AT ตาม SP ของ A1 และ B1 เท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความมหาศาลของ AT เกิดขึ้น

-เข้าเทิร์นแยกกัน โดยจะเรียงลำดับดังนี้ A1 B1 A2 B2

-ไม่สามารถสั่ง ใช้สกิล ของ Seal คู่หูได้แต่สามารถสั่งให้คู่หูใช้สกิลของSealนั้นช่วยเราได้

-ไม่สามารถใช้ มิสติกของคู่หูได้ นอกเสียจากจะบอกให้คู่หูของเราใช้มิสติกใบนั้นช่วยเราได้

-Subturn โจมตีและป้องกันจะแบ่งดังนี้ เข้าสู่ Subturn โจมตีของ A1 คือ A1 เป็นผู้เล่นแต่ก็หมายถึงเข้าสู่ Subturn โจมตีของ A2 เช่นเดียวกัน แต่ A2 จะไม่สามารถใช้ Skill ขยับ Seal อะไรก็ตามที่ไม่ใช่ Interfere ได้

-สามารถตีขึ้นมือ ได้เทรินละ 1ครั้ง ต่อ 1 ผู้เล่น สมมุติ A1 สั่งตีขึ้นมือ B1 ไปแล้ว จะไม่สามารถสั่งตีขึ้นมือ B2 ได้

-เวลาโจมตี ให้เลือกโจมตีฝั่งเดียว

-เวลา โจมตี All หรือใช้สกิล All ให้เลือกฝั่งเดียว

-ในกรณี ฝ่าย A1 โจมตี ฝ่าย B1 เข้าไปในขณะที่ฝ่าย B1 มี Seal ข้างหน้าใบเดียว และฝ่าย B1 ใช้ความสามารถป้องกันการโจมตี การโจมตีจะถูก ปัดไปที่ B2 อัติโนมัติ และเลือกเป้าหมายใหม่

-ในกรณี ตีหลายครั้ง หาก Seal ฝ่าย A1 มีความสามารถตีได้ 2ครั้ง แล้วสั่งโจมตีไปที่ B1 แล้ว B1 มี Seal 1ใบการโจมตีครั้งที่ 2 ของ A1 จะไม่เกิดขึ้น เพราะ Seal ของฝั่ง B1 ได้หมดไปแล้ว และจะไม่ทำการหาเป้าหมายไปที่ B2

-Abillity ของ Seal และมิสติกการ์ดที่ส่งผลที่ Sealแบบไม่เลือกเป้าหมาย จะไม่ส่งผลถึงกันในทีม แต่ยังสามารถใช้ Skill ช่วยเหลือกันได้

-Abillity ของ Seal และมิสติกการ์ด ที่ส่งผลถึงผู้เล่นแบบไม่เลือกเป้าหมาย จะส่งผลถึงกันภายในทีมได้

-Abillity ของ Seal และมิสติกการ์ด ที่มีการเลือกเป้าหมาย จะส่งผลถึงกันในทีมได้

-Abillity ของ Seal และมิสติกการ์ด จะส่งผลถึงผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเสมอ อาทิเช่น Poseidon ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นน้ำ ก็จะได้ + เช่นเดียวกัน แต่ถ้าฝ่ายเราเป็นน้ำ จะไม่ได้ + เพื่อป้องกัน Poseidon รวม Neptune เป็น 8 ใบที่อาจจะเกิดขึ้นได้


ป.ล. มีอะไรสงสัยถามได้นะครับ ใครมีวิธีเล่นทีมในแบบที่ท่านเล่นกัน มาโพสคุยกันได้นะครับ
ป.ล. Board นี้พิมยาวแล้วมันเด้งตลอดเลยอะ รำคาญฉิบ

[Andre Honore']

-ไม่สามารถสั่ง ใช้สกิล ของ Seal คู่หูได้แต่สามารถสั่งให้คู่หูใช้สกิลของSealนั้นช่วยเราได้

-น่าจะเป็นบอกมากกว่าสั่งนะ และฝ่ายเดียวกันไม่ควรเห็นการ์ดบนมือของฝ่ายเดียวกันน่าจะทำให้การเล่นไม่ดูวุ่นวายไม่งั้นเดี๋ยวคงมี "เอ้ย..มือมีไรบ้างแล้วก็บอก ๆ ๆ ให้ทำโน่นทำนี่" เดี๋ยวจะกลายเป็นเล่น 1:2 มากกว่าเล่น 2:2 นะครับปล่อยให้แต่ล่ะคนมีความคิดเป็นของตัวเองว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยน่าจะดีกว่าดูเป็นมืออาชีพมากกว่า

-เวลา โจมตี All หรือใช้สกิล All ให้เลือกฝั่งเดียว

-ควรจะโดนทั้ง B1 และ B2

-ในกรณี ตีหลายครั้ง หาก Seal ฝ่าย A1 มีความสามารถตีได้ 2ครั้ง แล้วสั่งโจมตีไปที่ B1 แล้ว B1 มี Seal 1ใบการโจมตีครั้งที่ 2 ของ A1 จะไม่เกิดขึ้น เพราะ Seal ของฝั่ง B1 ได้หมดไปแล้ว และจะไม่ทำการหาเป้าหมายไปที่ B2

-ควรจะไปตีที่ B2 ได้

-Abillity ของ Seal และมิสติกการ์ด จะส่งผลถึงผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเสมอ อาทิเช่น Poseidon ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นน้ำ ก็จะได้ + เช่นเดียวกัน แต่ถ้าฝ่ายเราเป็นน้ำ จะไม่ได้ + เพื่อป้องกัน Poseidon รวม Neptune เป็น 8 ใบที่อาจจะเกิดขึ้นได้

-ควรจะได้ฝ่ายเราทั้งหมดแต่ถ้ากลัวแบบนั้นน่าจะเพิ่มเป็นห้ามใส่ Mystic ประเภทส่งผลให้ฝ่ายเราซ้ำกันน่าจะดีกว่าหรือซ้ำกันได้แต่ไม่สามารถร่ายได้หากเกินจำนวนสูงสุด เช่น Posidon ทีม A สามารถใส่ได้คนล่ะ 2 แต่ไม่สามารถร่ายในสนามฝ่าย A ได้เกิน 2 ใบ

-การนับรวมAtจะนับรวมแค่ ผู้สั่งโจมตี และผู้ถูกโจมตีเท่านั้น อาทิเช่น A1มี Charles Clarence และสั่งโจมตี B1 Charles Clarence +AT ตาม SP ของ A1 และ B1 เท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความมหาศาลของ AT เกิดขึ้น

-อันนี้เห็นด้วย

TEAM A ผู้เริ่มเล่นก่อน จะได้เล่นใน MP5
TEAM B คนที่ 2 ได้เล่น MP6
TEAM A คนที่3 ได้เล่น MP7 จ่าย MP นอกเหนือจาก การร่ายได้ แต่ไม่สามารถโจมตีได้
TEAM B และคนที่ 4 ได้เล่น MP8 จ่าย MP นอกเหนือจากการร่ายได้ สามารถสั่ง ซีลโจมตีได้

-แล้วถ้าเป็นแบบนี้ล่ะ
เริ่มคนที่ 1 A1 เหมือนเริ่มแรกทุกประการมี Mp 5
เริ่มคนที่ 2 B1 เหมือนเริ่มแรกทุกประการมี Mp 5
เริ่มคนที่ 3 A2 เหมือนเริ่มหลังทุกประการมี Mp 8
เริ่มคนที่ 4 B2 เหมือนเริ่มหลังทุกประการมี Mp 8
ระหว่างนั้นจะ Interfere แทรกอะไรก็ตาม Mp เริ่มแรกทุกประการ

อย่างอื่นก็โอฯ อยู่นะ

[1000]

ลำบากเน้อ

[sniz]

ปัญหาคือมันนานมากๆ 55555

[lordhunya]

-ไม่สามารถสั่ง ใช้สกิล ของ Seal คู่หูได้แต่สามารถสั่งให้คู่หูใช้สกิลของSealนั้นช่วยเราได้

-น่าจะเป็นบอกมากกว่าสั่งนะ และฝ่ายเดียวกันไม่ควรเห็นการ์ดบนมือของฝ่ายเดียวกันน่าจะทำให้การเล่นไม่ดูวุ่นวายไม่งั้นเดี๋ยวคงมี "เอ้ย..มือมีไรบ้างแล้วก็บอก ๆ ๆ ให้ทำโน่นทำนี่" เดี๋ยวจะกลายเป็นเล่น 1:2 มากกว่าเล่น 2:2 นะครับปล่อยให้แต่ล่ะคนมีความคิดเป็นของตัวเองว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยน่าจะดีกว่าดูเป็นมืออาชีพมากกว่า

โทษทีครับใช้คำผิด

-เวลา โจมตี All หรือใช้สกิล All ให้เลือกฝั่งเดียว

-ควรจะโดนทั้ง B1 และ B2

เคยเล่นแบบ ตีได้หมดดูแล้วครับ เด็ค Heaven Knight จะเก่งมากครับ และไม่มีอะไรต้านทานได้ ควรจะเหมือนกับเลือกตีมากกว่า

-ในกรณี ตีหลายครั้ง หาก Seal ฝ่าย A1 มีความสามารถตีได้ 2ครั้ง แล้วสั่งโจมตีไปที่ B1 แล้ว B1 มี Seal 1ใบการโจมตีครั้งที่ 2 ของ A1 จะไม่เกิดขึ้น เพราะ Seal ของฝั่ง B1 ได้หมดไปแล้ว และจะไม่ทำการหาเป้าหมายไปที่ B2

-ควรจะไปตีที่ B2 ได้ ผมก็คิดว่าควรตีได้ แต่คนที่ผมเล่นด้วย เค้าแย้งมาในข้อนี้ ว่าไม่ควรตีไปๆมาๆได้ ไม่งั้น จะตี

ข้ามไป ข้ามมา จน AT ครั้ง ที่ 3 มหาศาล อาทิเช่น Minotaur

-Abillity ของ Seal และมิสติกการ์ด จะส่งผลถึงผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเสมอ อาทิเช่น Poseidon ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นน้ำ ก็จะได้ + เช่นเดียวกัน แต่ถ้าฝ่ายเราเป็นน้ำ จะไม่ได้ + เพื่อป้องกัน Poseidon รวม Neptune เป็น 8 ใบที่อาจจะเกิดขึ้นได้

-ควรจะได้ฝ่ายเราทั้งหมดแต่ถ้ากลัวแบบนั้นน่าจะเพิ่มเป็นห้ามใส่ Mystic ประเภทส่งผลให้ฝ่ายเราซ้ำกันน่าจะดีกว่าหรือซ้ำกันได้แต่ไม่สามารถร่ายได้หากเกินจำนวนสูงสุด เช่น Posidon ทีม A สามารถใส่ได้คนล่ะ 2 แต่ไม่สามารถร่ายในสนามฝ่าย A ได้เกิน 2 ใบ

ไม่ไหวอะครับ โหดเกิน แต่ผมก็เห็นด้วยนะ ให้ทีมมีระบบทีมมากขึ้น แต่โอย ลองเล่นดูจะรู้ครับลำบ๊ากลำบาก จะมีเด็คที่โหดโครตๆ กับอ่อนสุดๆ เด็คที่เก่งที่สุดในกรณีนี้คือมีการ์ดสนามที่สามารถลบ Mp ได้อะครับ

-การนับรวมAtจะนับรวมแค่ ผู้สั่งโจมตี และผู้ถูกโจมตีเท่านั้น อาทิเช่น A1มี Charles Clarence และสั่งโจมตี B1 Charles Clarence +AT ตาม SP ของ A1 และ B1 เท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความมหาศาลของ AT เกิดขึ้น

-อันนี้เห็นด้วย

TEAM A ผู้เริ่มเล่นก่อน จะได้เล่นใน MP5
TEAM B คนที่ 2 ได้เล่น MP6
TEAM A คนที่3 ได้เล่น MP7 จ่าย MP นอกเหนือจาก การร่ายได้ แต่ไม่สามารถโจมตีได้
TEAM B และคนที่ 4 ได้เล่น MP8 จ่าย MP นอกเหนือจากการร่ายได้ สามารถสั่ง ซีลโจมตีได้

-แล้วถ้าเป็นแบบนี้ล่ะ
เริ่มคนที่ 1 A1 เหมือนเริ่มแรกทุกประการมี Mp 5
เริ่มคนที่ 2 B1 เหมือนเริ่มแรกทุกประการมี Mp 5
เริ่มคนที่ 3 A2 เหมือนเริ่มหลังทุกประการมี Mp 8
เริ่มคนที่ 4 B2 เหมือนเริ่มหลังทุกประการมี Mp 8
ระหว่างนั้นจะ Interfere แทรกอะไรก็ตาม Mp เริ่มแรกทุกประการ

ก็ดีนะครับ แต่คนที่ได้เล่นคนที่ 3 ไม่ควรโจมตีได้อะครับ เพราะอาจจะเกิดสาเหตที่ทำให้ผู้เล่นคนที่ 4 ไม่สามารถลง Seal และแพ้ได้ในทันที

อย่างอื่นก็โอฯ อยู่นะ

[Heeroearth]

เคยอ่าน yu-gi-oh ตอนที่ไคบะ tag กับยูกิ สู้กับคู่หู dark & light mask ไหมครับ ?

ผมเคย tag กับเพื่อนเล่นกับเด็กๆ ด้วยวิธีแบบนั้นแหละ
ก็คือจะต่างตรงที่ว่า shrine ใคร shrine มัน แต่ไม่นับรวม
ถ้าคนนึงครบ 15 ก่อน อีกคนที่เหลือก็แทบแพ้เลย เพราะจะโดน 2-1
ส่วนการ์ดในมือ จะไม่ดูและไม่เห็นว่าเพื่อนมีอะไรครับ (ยกเว้นเสิจมา ก็รู้กัน)
การร่าย mystic ช่วยกับใช้ skill และ ability ช่วยก็ไม่สั่งกันเด็ดขาด
พวกนี้มันต้องรู้ใจกันเอง (จะได้ดูเท่ห์ดี) เป็นการวัดกันที่ teamwork
ส่วน line ก็ไม่ใช้รวมครับ เหมือนของในการ์ตูนยูกิเลย

แต่เรื่องมือแรกเนี่ย ถ้าสมมติว่า draw engine ของผู้เล่นทุกคนเท่ากัน
ผมจะไม่ให้ B2 ตีได้นะครับ เพราะถ้าตัวที่ B2 ร่ายมามันพร้อมตี (เช่น 2 ลง 1 ตี)
ก็เท่ากับว่าทั้ง 2 ฝ่ายมี mp และ mystic ใช้แก้ได้ฝั่งละ 4 ใบ
ซึ่ง A1 กับ A2 จะเสียเปรียบมาก
เป็นผม ผมจะเปลี่ยนให้ B2 ตีไม่ได้ แต่ได้จั่วเพิ่ม 2 ใบแทน
และให้ A2 ที่ีมี mp 7 ตีไม่ได้และจั่วเพิ่ม 1 ใบแทน
มิฉะนั้นพอวนมา subturn ที่ 5 แล้ว มิสติค A1 จะเหลื่อมล้ำกับ B2 มากเกินไป

EDIT : สมัยเรียนมัธยม ได้ข่าวว่าเพื่อนผมไป tag กับเพื่อนอีกคน
เล่น MTG ใช้เด๊คฟ้าเคาน์เตอร์ทั้งคู่ ผลคือไม่มีใครต้านทานไหว -*-

[♪The Nothing♪]

เคยมีปัญหาเรื่อง Mp Clean up and Fill up Step ครับ~

[Wing Freedom]

พี่พิษณุโลกจัดแข่งทีมทุกปีครับปรากฏว่าต้องมีเด็คที่โดนแบนทุกปี...รวมถึงแข่งเมื่อเดือนสิงหาที่ผ่านมาก็ด้วย

[Watcharapol Luekaya]

สคูล ของGO แข่งเป็นทีมปะครับ

[lordhunya]

เคยอ่าน yu-gi-oh ตอนที่ไคบะ tag กับยูกิ สู้กับคู่หู dark & light mask ไหมครับ ?

ผมเคย tag กับเพื่อนเล่นกับเด็กๆ ด้วยวิธีแบบนั้นแหละ
ก็คือจะต่างตรงที่ว่า shrine ใคร shrine มัน แต่ไม่นับรวม
ถ้าคนนึงครบ 15 ก่อน อีกคนที่เหลือก็แทบแพ้เลย เพราะจะโดน 2-1
ส่วนการ์ดในมือ จะไม่ดูและไม่เห็นว่าเพื่อนมีอะไรครับ (ยกเว้นเสิจมา ก็รู้กัน)
การร่าย mystic ช่วยกับใช้ skill และ ability ช่วยก็ไม่สั่งกันเด็ดขาด
พวกนี้มันต้องรู้ใจกันเอง (จะได้ดูเท่ห์ดี) เป็นการวัดกันที่ teamwork
ส่วน line ก็ไม่ใช้รวมครับ เหมือนของในการ์ตูนยูกิเลย

แต่เรื่องมือแรกเนี่ย ถ้าสมมติว่า draw engine ของผู้เล่นทุกคนเท่ากัน
ผมจะไม่ให้ B2 ตีได้นะครับ เพราะถ้าตัวที่ B2 ร่ายมามันพร้อมตี (เช่น 2 ลง 1 ตี)
ก็เท่ากับว่าทั้ง 2 ฝ่ายมี mp และ mystic ใช้แก้ได้ฝั่งละ 4 ใบ
ซึ่ง A1 กับ A2 จะเสียเปรียบมาก
เป็นผม ผมจะเปลี่ยนให้ B2 ตีไม่ได้ แต่ได้จั่วเพิ่ม 2 ใบแทน
และให้ A2 ที่ีมี mp 7 ตีไม่ได้และจั่วเพิ่ม 1 ใบแทน
มิฉะนั้นพอวนมา subturn ที่ 5 แล้ว มิสติค A1 จะเหลื่อมล้ำกับ B2 มากเกินไป

EDIT : สมัยเรียนมัธยม ได้ข่าวว่าเพื่อนผมไป tag กับเพื่อนอีกคน
เล่น MTG ใช้เด๊คฟ้าเคาน์เตอร์ทั้งคู่ ผลคือไม่มีใครต้านทานไหว -*-

แต่ถ้าอย่างนั้น A1 ก็ได้เปรียบสิครับ ได้ MPเต็มพร้อมตี และมิสติก 4 ใบ ใช้ได้ 2 ขั้นต่ำหรือ 3 ถ้าให้ B2 ตีได้ มันเหมือน มี 2 ทางเลือก คือตั้งได้ โดยฆ่าได้ตัวนึง กับตายโดยไม่เหลืออะไรเลย


เคยมีปัญหาเรื่อง Mp Clean up and Fill up Step ครับ~ไม่น่าจะมีปัญหานี่ครับ เหมือนๆเล่นคนเดียวอะ ผมใช้เล่นประจำ ตั้งแต่นู่นแหนะ ม.2-ม.3 เล่นกับใครก็จับเค้าเล่นแบบนี้หมด 555+ ผมว่ามันยุติธรรมดี

[RaJiNaJa]

ผมเล่น

ไชน์ แยก คนละ 15

ไลน์รวมกันครับ(ต้องมีซิลในสนามอย่างน้อยคนละตัว)

เวลาALLโดนทั้งหมดฝั่งตรงข้าม

ตีได้ตั้งแต่ผู้เล่นคนที่สองเริ่ม(mp6,คนอื่นก็7,8 แก้ได้ตามใจฉัน)

[lordhunya]

ผมเล่น

ไชน์ แยก คนละ 15

ไลน์รวมกันครับ(ต้องมีซิลในสนามอย่างน้อยคนละตัว)

เวลาALLโดนทั้งหมดฝั่งตรงข้าม

ตีได้ตั้งแต่ผู้เล่นคนที่สองเริ่ม(mp6,คนอื่นก็7,8 แก้ได้ตามใจฉัน)

อย่างนี้คนแรกก็เสียเปรียบสิครับ ผมว่างั้นนะ เพราะจะทำให้ไม่สามารถตั้งได้ดีพอ ส่วนคนเล่นหลังก็ซวยไป เพราะอาจลงซีลไม่ได้อะ

[Andre Honore']

ถ้าเจอปัญหาเล่นกันนานถึง 3 ชม. ก็แนะนำการ All ที่โดนทั่วหน้าจะตีหลายทีฝั่งไหนก็ได้จะได้จบไว ๆ ไง