ใส่ 6 ใบตามนั้นไปเลยครับ
Sword of Wisdom 2
Guidance of Innocence 2
Heralds the Trumpet Judgement 2
ที่เหลือแล้วแต่จัดตาม Concept ที่ต้องการได้ เช่น
1. จัดแนวอุดรูรั่วของเดค- คือการจัด Mystic มาเพื่อป้องกันข้อเสียของ Deck(seal) เรา ตัวอย่างเช่น
1.1) เดคเราเป็นเดคที่พลังน้อยตั้งยาก แต่ตั้งได้แล้วเก่ง จึงจัด Mystic เน้นไปทางป้องกันการโจมตี หรือป้องกันตาย
1.2) เดคเราเป็นเดคตีบ้าพลัง แต่ไม่ยกเลิก Ability จึงทำให้แพ้ Weak Touch ได้ง่าย ๆ ก็จัดเป็น Mystic ยกเลิก Skill/Ability เอาไว้เยอะ ๆ (อย่าง Back to Origin , Crimson Queen , Lovely Little World)
1.3) เดคเรายกเลิกซะเกือบทุกอย่าง แต่ค่าพลังไม่มากนัก ก็จัด Mystic เน้นลบค่าพลังทีละมาก ๆ (เห็ดแดง , พริก , Killer 's Lover)
1.4) เล่นเดค Fenrir แล้วกลัว Felasia’s Throne จึงจัดการ์ดแก้ทางมาก ๆ (Crimson Queen , Collapsing Pillar , Wand of Elder+Angel Bow+Scroll of Inscription)
2. จัดแนวเสริมเกม- คือการจัด Mystic มาเพื่อให้เข้ากับ Concept การทำเกมของเดคเราให้มากที่สุด
2.1) เดคเราเน้นทำเกมจาก Freeze Curse จึงใส่ Set The Moon
2.2) เดคเราทำคอมโบกับ Stone Curse ด้วย Shin, the Leafland Brigand + Panna จึงใส่ Houdini (อุ้มก่อนผ่าน)
2.3) เดคเราเป็นแนวตีไวไม่กลัวทุกอย่างยกเว้น Mystic จึงจัดแบบการ์ดทำลาย,Remove,ย้าย Mystic ยกชุด (ไม่น้อยกว่า 17 ใบ)
3. อื่น ๆ- คือนอกเหนือจากเหตุผลเพื่อการจัด 2 แบบแรก คือไม่ได้แพ้ทาง และไม่ได้เสริมให้เกมเร็ว แต่จัดเพื่อเพิ่มความหลากหลายหรือโอกาสในการทำเกมให้มากขึ้น เช่น
3.1) จัดเพื่อขัดเกมเร็ว จึงใส่การ์ดล๊อกกองเยอะ ๆ ([TK]Lock Up , [TK]Angel of Sword, the Revelation, Sacred Area, Secundus Tuba)
3.2) จัดเพื่อขัด Mp การทำเกม จึงใส่ Set [TK]Ch’in Shih Huangdi
3.3) Etc.
_____________________________________________
นอกจากปัจจัยข้างต้นนั่นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ช่วยในการเลือกจัดอีกด้วยนะครับ ได้แก่
1. พยายามจัด Mystic เป็นการ์ด Set จำพวกใช้งานได้หลาย ๆ ครั้ง เช่น Guidance of Merrisia, Gothic Demon, Devas Sukhavadi (ส่วนมาก Set พวกนี้มักจะมีข้อจำกัดในการใช้ด้วย ต้องเลือกดูดี ๆ ครับ)
2. จัด Mystic ให้ทันต่อสภาพเดคทั่วไปที่เล่นกันอยู่ในปัจจุบัน เช่น ปัจจุบันหลายคนเน้นใช้ Mystic ที่ทำลายไม่ได้ จึงจัด Mystic เป็นแบบจำพวก "ย้าย" แทนที่จะไป "ทำลาย"
3. พยายามจัดเป็น Mystic ที่สามารถใช้งานแบบ interfere เสมอ (ถ้าเป็นไปได้การ์ดที่ไม่ใช่ interfere ไม่ควรมีเกิน 2-3 ใบในเดค)
4. พยายามจัด Mystic ที่สามารถใช้งานในมือแรกได้โดยทันที ในกรณีนี้ไม่นับถึงพวกค่าร่ายสูง ๆ นะ เน้นไปในเรื่องการทำงานได้ดีตั้งแต่ Subturn แรกและได้ใช้งานจริงบ่อย ๆ
5. พยายามจัด Mystic ที่มีค่าร่าย 0-2 เท่านั้น ส่วนค่าร่ายที่มากกว่านั้นถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรมีอยู่ในเดคเกินกว่า 2-4 ใบ และทางที่ดีควรจัด Mystic ให้ร่ายได้อย่างลงตัวเข้าไว้ เช่นเดคเราเน้นจ่าย 1 ตี จึงเลือกจัด Mystic ที่ร่าย 1 เอาไว้ในเดค(เสริมความได้เปรียบเมื่อทำเกม)
6. พยายามจัด Mystic ให้หลากหลาย คืออย่าจัดโน้มทางเดียวมากจนเกินไป เช่น
- ทั้งเดคมีแต่การ์ดทำลายทั้งหมด(ถ้าฝ่ายตรงข้ามรู้ จะทำให้แม้ค่าพลังจะชนะเพียงแค่ SP เขาก็สามารถตีเข้ามาได้เลยเพราะเราไม่มีการ์ดแก้)
- ทั้งเดคไม่มีการ์ดทำลาย(เมื่อถูกการ์ดแสลงเดคเข้าไปจะไม่สามารถแก้ได้เลย)
- ทั้งเดคไม่มีการ์ดเปลี่ยนแปลงค่าพลัง หรือยกเลิก Skill/Ability เลย (เหมือนกับเคสแรก ค่าพลังมากกว่าเขาก็ตีเลยไม่ลังเล)
- ฯลฯ
แต่ในที่นี้ก็ต้องบอกว่าไม่ควรจัดหลากหลายมากเกินไปด้วย คือควรจัดในอัตราที่พอเหมาะ 70% อาจเป็นอะไรที่เข้ากับ Concept เรา อีก 30% ถึงเป็นความสามารถหลากหลายเป็นต้น
_____________________________________________
สำหรับการ์ดนอกจาก 6 ใบข้างต้นนั้นแล้ว (Sword of Wisdom ,Guidance of Innocence ,Heralds the Trumpet Judgement)
ในปัจจุบันยังมีการ์ดที่ไม่ควรขาดใน Set 30 ใบดังนี้ครับ
- Devas Sukhavadi : ใช้แค่ Ability ก็คุ้มแล้วกับการ Remove การ์ดที่วนได้ ส่งผลถึงแพ้-ชนะได้เลยด้วยการ์ดใบเดียวนี้
- Set The World : Change the World + Changing of the World + Back to Origin
เนื่องด้วยปัจจุบันเน้นใช้ Mystic จำพวก [PS] , [PA] อยุ่เป็นจำนวนมาก Set นี้จึงเป็น Set ที่ได้ใช้งานจริงบ่อยมาก แถมท้ายเกม Change the World จะเป็นอะไรที่ชี้ชะตาของเกมได้อีกด้วย
- It’s no Joke!!!
หรือ St. John Church : เนื่องจากปัจจุบันหลายเดคจะมีการตีข้าม Line ได้ ซึ่งการ์ด 2 ใบนี้หากใช้ถูกจังหวะสามารถช่วยพลิกเกมกลับมาได้เลยทีเดียว ซึ่งโดยปกติแล้วผมจะเลือกใช้ใบแรกมากกว่า เพราะใบแรกจะช่วยแก้ทาง Mystic ที่ทำลายไม่ได้อย่างเช่นพวก "ไม้ตาย" ได้อีกด้วย (แต่ใบที่ 2 ช่วย Anti เดคมืดอยู่นิด ๆ นะ >_<)
หลัก ๆ ก็น่าจะประมาณนี้แหละครับ ที่สำคัญคือแต่ละเดค "ต้อง" มี Mystic Set เฉพาะเป็นของตัวเอง จึงจะเป็น Deck ที่ดี และ เล่นง่ายครับ
สิ่งที่เน้นย้ำที่สุดคือเรื่องของการเป็น Mystic interfere และ Mp ค่าร่ายไม่เกิน 2 เป็นส่วนมากครับอ๊อ... สำหรับการ์ดสามัญจำพวก Inquisition พักหลัง ๆ ผมไม่ค่อยเน้นใส่นะครับ จริง ๆ มันก็สำคัญอยู่แต่ว่ามันมีใบอื่น ๆ ที่ใช้ทดแทนได้มากอยู่ครับ หรือถ้าต้องการจะใส่จริง ๆ ผมแนะนำให้ใส่เป็น Set นี้ครับ
- Pope Pacelli *2 : วนได้ถ้าเล่นเดคแสง หรือร่าย High Priest of Ekklesia มาแล้วค่อยใช้ Skill Pope
- High Priest of Ekklesia *0-2 : ถ้าเล่นเดคแสงผมจะไม่ใส่ แต่ไปใส่ Inquisition แทน แต่ถ้าไม่ได้เล่นแสง ผมจะใส่มา 1-2 ใบเพื่อทำคอมโบกับ Pope ท้ายเกม
- Inquisition *0-2 :ถ้าใส่ High Priest of Ekklesia ผมจะไม่ใส่ inquisition แต่ถ้าไม่ใส่ High Priest of Ekklesia ผมจึงจะใส่ inquisition มา 1-2 ใบเพื่อให้ Pope เรียก
- Sacred Sentence *2 : ใบนี้คือไม้ตายจริง ๆ ของ Set นี้ครับ เพราะตอนต้นเกม Mystic เราจะมีไม่มากนัก ถ้าจะใช้จ่าย 3 ทิ้งทำลาย Mystic ร่าย 2 ก็ไม่ได้เสียหายอะไร แถมแก้ยากกว่าด้วย
และเมื่อถึงช่วงกลางเกม ใบนี้จะเป็นใบ Remove Mystic ชั้นยอด ซึ่งสามารถทำให้เสียรูปเกมได้แบบเดียวกันกับการใช้ Devas Sukhavadi เลยทีเดียว แต่ใบนี้เด็ดกว่าตรงที่ remove การ์ดที่กำลังตก Shrine ได้ด้วย
นอกจากนั้นแล้วยังสามารถทำคอมโบกับ Sword of Wisdom ในช่วงท้ายเกมได้อีก คือชี้ Remove Seal หลักเขาแล้ว Wisdom เป็น Tales of the Abyss เพื่ออุ้มก่อนผ่านด้วย Mp 4 ได้
และท้ายสุดคือ วนได้ด้วยการทำคอมโบของ Pope
**หมายเหตุ : Set นี้สามารถใส่เป็น Inquisition กับ High Priest of Ekklesia อย่างละ 1 ใบเพื่อให้ Pope เลือกลากได้หลายสถานการณ์ และเปิดโอกาสให้ High Priest of Ekklesia ทำคอมโบกับ Pope ได้ง่ายขึ้น เพราะเราสามารถ Wisdom เป็น High Priest of Ekklesia ช่วงกลางเกมได้ด้วยหวังว่าจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
