Welcome Guest: เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ พ.ย. 10, 2024 6:58 am

หน้าเว็บบอร์ด ส่วนของผู้เล่น SMN FanCard FanArt & FanFic Revenger from Shadow : The Forsaken

สำหรับลงรูปแฟนอาร์ตและนิยายแต่งเองของชาวSMNครับ

Revenger from Shadow : The Forsaken

โพสต์โดย Kamil_Cefares เมื่อ อังคาร ก.ย. 02, 2014 5:16 am

ในโลกเทอร่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างดูคล้ายจะเป็นไปตามครรลองคลองธรรมเสียทั้งหมด เนื่องจากมีเหล่าพระเจ้า ทูตสวรรค์ รวมไปถึงมนุษย์ที่มีจิตใจดีงามและมีพลังที่เข้มแข็งคอยต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และช่วยเหลือผู้ถูกข่มเหงจากเหล่าปีศาจและคนชั่วร้าย

ทว่า.....จริงหรือ? ที่ในโลกนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามที่หลาย ๆ คนวาดฝัน จริงหรือ? ที่ความถูกต้องที่หลายคนยอมรับ จะเป็นความถูกต้องของคนส่วนที่น้อยกว่าไปด้วย จริงหรือ? ที่ระบบการปกป้องคุ้มครองโดยสัจธรรมเหล่านี้ จะไร้ซึ่งช่องโหว่ใด ๆ

จะเป็นไปได้อย่างไร หากทุก ๆ คนจะพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่นี้ บางสิ่งบางอย่างสามารถมองได้มากกว่าหนึ่งมุม ความถูกต้องบางครั้งก็มีมากกว่าหนึ่ง เพียงแต่มักจะถูกกำหนดให้บางส่วนเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างแท้จริง โดยผู้ที่มีจำนวนมากกว่า หรือไม่ก็มีพลังอำนาจ สิทธิ ศักดินา ฯลฯ สูงกว่า ผู้น้อยกว่าจักต้องถูกตีตราว่าเป็นฝ่ายผิด และย่อมต้องถูกกำจัดออกไป

ยิ่งไปกว่านั้น ความยุติธรรมที่ทุกคนเชื่อว่าเป็นสัจธรรมที่สมบูรณ์แบบ ไฉนเล่าจึงไม่เข้าถึงทุกผู้ทุกคน เหตุใดผู้คนถึงไม่เท่าเทียมกัน เหตุใดคนดี ๆ ต้องตกทุกข์ระกำลำบาก ต้องสูญเสีย ต้องหลั่งน้ำตา กลับกันคนชั่วกลับหลงลำพองในชัยชนะของพวกมัน ปีศาจร้ายหัวเราะร่าที่ได้ล่อลวงมนุษย์ สิ่งเหล่านี้เหตุใดจึงยังเกิดขึ้นอยู่ได้ต่อหน้าต่อตาอีก

การที่ทุกคนแตกต่างกันนั่นหมายถึงภาระหน้าที่ที่แตกต่างกันแต่ต้องอยู่ร่วมกัน คำตอบนี้มันก็เข้าท่าอยู่หรอก แต่นั่นเป็นข้ออ้างให้ นักรบหญิงต้องโดนเหยียดหยาม ชายผู้รักงานเย็บปักถักร้อยต้องถูกล้อเลียนด้วยหรือ?

การที่คนดี ๆ ต้องทนทุกข์ทรมาน ต้องเสียสละทุกสิ่ง ทั้งหมดคือการพลีกรรมของตนเองและเพื่อเหล่าคนบาปที่ทำร้ายตน เพื่อหวังให้กลับใจ มันฟังดูดี แต่จริง ๆ แล้ว จำเป็นด้วยหรือที่ต้องทำแบบนั้น เหล่านักบุญหลายคนจริง ๆ ก็เป็นเพียงคนธรรมดา พวกเขาและเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตที่มีความสุขเยี่ยงคนธรรมดาทั่วไปเลยหรือ

คนชั่วจะหลงลำพองได้ไม่นาน หากแต่แล้วในช่วงที่มันยังนั่งอยู่บนอำนาจและเกียรติยศนั้น กว่าจะร่วงตกลงมา มีกี่ชีวิตแล้วที่ต้องสูญเสีย มีกี่คนที่ต้องเสื่อมศรัทธาในความดีงามไปเสียก่อน มีกี่คนแล้วต้องตกนรกทั้งที่จริง ๆ พื้นฐานของเขาก็ไม่ได้เลวร้าย หากไม่ได้เจ็บปวดเสียใจจนสติแตกหรือถูกล่อลวงก็น่าจะมีสิทธิ์มีความสุขอยู่แล้วแท้ ๆ

ที่สำคัญ ตกลง "บาป" มันคืออะไรกันแน่ ถ้ามันมุ่งเน้นไปเพียงแค่ห้ามการปล้นจี้ ฆ่าข่มขืน อะไรพวกนี้มันก็ดีอยู่หรอก แต่ในยุคที่คนของศาสนาพูดอะไรก็ถูก อะไรขัดใจก็ผิดและเป็นบาป เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นการคบเพื่อนเพศตรงข้าม หรือการแสดงความคิดเห็นต่างก็บาปแล้ว

พระเจ้าล่ะ พระองค์มัวทำอะไรอยู่ เหตุใดถึงปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ปล่อยให้คำสอนของพระองค์ถูกบิดเบือน ปล่อยให้คนที่อ้างนามของพระองค์ทำทุกสิ่งตามอำเภอใจ กล่าวหาคนอื่นว่าบาปทั้งที่มันเองก็ยังสนใจแต่ตัวพวกมันเอง แล้วเหตุใดพระองค์ถึงต้องให้เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มาเผชิญกับความทุกข์ยาก ทั้งที่ความจริงพระองค์น่าจะส่งทูตสวรรค์หรืออัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาทำลายแผนของปีศาจร้ายแทนก็ได้ เหตุใดพระองค์ถึงไม่ช่วยเหล่ายูนิคอร์นไนท์ตอนที่พวกซาโลมไม่เพียงคิดฆ่าแต่ยังคิดย่ำยีเกียรติของพวกนาง เหตุใดวิเวียน ลอว์ จึงเกลียดผู้ชาย ฯลฯ

ที่สำคัญ "บาป" ในความคิดของพระองค์คืออะไรกันแน่ เหตุใด อิสฮาน ผู้ที่ไม่มีความผิดเลย เพียงแค่พ่อของเขาเป็นคนเลวเท่านั้นแต่ตัวเขาก็ไม่ได้เลวตามสักหน่อย หรือแม้แต่อลาน่าก็ดี ฟาติมาก็ดี พวกนางไม่มีใครทำผิดร้ายแรงอะไรเลย แต่ทำไมพระองค์ต้องทำเหมือนพวกเขาและเธอติดตัวที่ไม่รู้มาจากไหน แล้วต้องชดใช้มันทั้งกับตนเองและคนอื่นๆ อีก และทำไปก็ใช่ว่าโลกนี้จะปลอดซึ่งบาปในทันทีให้คุ้มกับที่ต้องเสียสละไปสักหน่อย

กลับกัน หากพ่อเลว แล้วลูกต้องฆ่าพ่อเพื่อช่วยแม่ พี่สาวน้องสาว หรือแม้แต่เพื่อนรัก หรืออาจจะคนทั้งประเทศ ทำไมลูกคนนั้นยังถือว่าบาปอีก แล้วคนพ่อไม่ถือว่าผิดเลยหรือ ทำไมต้องถูกยกเกียรติในฐานะพ่อเพื่อกดหัวพวกนั้นอีก

หรือจริง ๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์พอใจแล้วที่จะให้เป็นเช่นนี้ และพระองค์จะไม่ทรงยอมเปลี่ยนแปลงอะไร นอกจากสิ่งที่พระองค์วางเอาไว้แล้วเท่านั้น แม้จะต้องเสียอะไรไปเท่าไหร่ ขอพระองค์ได้รับเกียรติเป็นพองั้นหรือ?

คำถามทั้งหมด วนเวียนอยู่ในจิตใจของชายผู้หนึ่ง ไม่สิ ตอนนี้เขาถือว่าตนเองไม่ใช่ทั้งชายและหญิงอีกแล้ว แต่เขาคือ ผู้กำดาบเพลิงทมิฬแห่งการล้างแค้น ผู้สวมใส่ชุดเกราะสีดำสนิทกลมกลืนไปกับเงามืดในจิตใจ เขาชูดาบขึ้นในฐานะนักรบแห่งความมืด แต่มิใช่เพื่อแสวงหาอำนาจที่เกินจำเป็น มิใช่เพื่อล่อลวงใครให้ลงนรก แต่เขาทำเพื่อแสดงให้ "แสงสว่าง" ได้รู้ว่า พวกมันล้มเหลวในการเติมเต็มสิ่งใดบ้าง และนั่นคือหน้าที่ของ "ความมืด" ที่จะต้องทำ

ทว่า ไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั้น แต่เหล่าสหายร่วมอุดมการณ์ต่าง ๆ ก็ได้เข้าร่วมในหนทางที่มองยังไงก็เห็นแต่ความสิ้นหวังเบื้องหน้า โดยมิเกรงกลัว พวกเขาอาจมีเหตุผลที่หลากหลายทำให้เข้าร่วมโดยที่ไม่เคยได้ขอ แต่นั่นก็ทำให้ กลุ่มอัศวินผู้ล้างแค้นแห่งเงามืด เหล่าผู้ถูกลืมเลือนและทอดทิ้งให้อยู่ในเงามืดที่แสงสว่างมิอาจส่องถึง

"The Forsaken"

The Forsaken เป็นเพียงกลุ่มอัศวินเล็ก ๆ (แม้จริง ๆ จะมีอาชีพอื่นปนอยู่ด้วย เช่นจอมเวท นักพรต ฯลฯ ไม่เว้นแม้กระทั่งมือปืนและเครื่องจักรกล)ที่มีจำนวนสมาชิกอยู่ในระดับทีมผู้กล้าย่อย ๆ เท่านั้น (ประมาณใหญ่กว่ากลุ่มของพวกมาวินนิดหน่อย แต่ไม่เยอะเท่าฮาเร็... เอ๊ย คณะเดินทางเจ้าชายเดวิดแน่ ๆ ) แต่สมาชิกทุกคนจัดเป็นยอดฝีมือชั้นสูงที่ถูกลืมเลือน ทอดทิ้ง รังเกียจ กีดกัน และถูกไล่ล่าจากสังคมอย่างไม่เป็นธรรม (แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงมนุษย์ เพราะแม้แต่เอลฟ์ก็ยังมี) ทุกคนมีความเท่าเทียมกันโดยถือเรื่องการเหยียดเพศและเผ่าพันธุ์เป็นเรื่องต้องห้าม แม้จะมีผู้นำ แต่ผู้นำก็ไม่แสดงบทบาทผู้นำมากนักนอกจากจำเป็น พูดง่าย ๆ สมาชิกทุกคนมีอิสระในการดำเนินการทุกอย่างตามใจชอบ (แต่คนอื่นจะร่วมมือด้วย หรือว่าเพิกเฉยไม่ก็ขัดขวางนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง) อย่างไรก็ตาม มีเพียงการรับเข้ากลุ่มเท่านั้นที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้นำ (ซึ่งถ้าไม่กลายเป็นสมาชิกที่ไม่มีวันทรยศ ก็ลงเอยที่กลับบ้านไปอย่างมีความสุขเสียมาก ที่เหลือเป็นพวกเลวจริงที่สมควรตายที่มักจะตายด้วยมือผู้นำเองซะงั้น)

อย่างไรก็ดี เนื่องจากแต่ละคนมีความรู้ความสามารถเพียงพอในการเอาตัวรอดด้วยตัวเองได้อยู่แล้วแม้ฝ่ายตรงข้ามจะมีเป็นกองทัพ ดังนั้นโดยปกติแล้ว เหล่า Forsaken จะเดินทางและทำงานเพียงลำพัง อย่างมากก็เป็นกลุ่มไม่เกินสองคน และบางครั้งสิ่งที่พวกเขาสู้ก็อาจนำพาให้ต้องฉะกันเองก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อย่างไรก็ตาม เหล่า Forsaken ต้องห้ามฆ่ากันเองยกเว้นแต่ว่าฝ่ายที่ถูกฆ่านั้นเป็นฝ่ายผิดที่หักหลังอุดมการณ์และเข้าทางชั่วร้ายเสียเอง (ซึ่งตลอดมา ไม่เคยมีความลับใดที่ผู้นำกลุ่มไม่รู้ และหากคนที่ตายเป็นฝ่ายถูก คนที่เป็นฝ่ายผิดจะโดนลงดาบด้วยตัวผู้นำเอง แม้จะไม่มีใครรู้ว่า ตัวเขารู้เรื่องเหล่านั้นได้อย่างไรก็ตามที) นอกจากนี้ เหล่า Forsaken ความลับของอีกฝ่าย จะรู้ได้โดยการที่เจ้าตัวเป็นคนเปิดเผยให้ฟังเองเท่านั้น

บางครั้งผู้คนจะเรียกขานกลุ่มนี้ว่า "ภาคีอัศวินดำ" เนื่องจากสมาชิกทุกคนจะสวมชุดหรือชุดเกราะสีดำและไม่มีสัญลักษณ์บ่งบอกกลุ่ม เนื่องจากสื่อถึงเงามืด

แม้จะต่อสู้เพื่อสิ่งที่ดูเหมือนการต่อสู้เพื่อคุณธรรมและช่วยเหลือผู้อ่อนแอ แต่เนื่องจากวิธีการที่ค่อนข้างตามใจตัวเอง บางครั้งก็ดูนอกรีต โหดร้าย รุนแรง ไม่มีความเกรงใจต่อวิถีประชา ความเชื่อ กฎเกณฑ์ ใด ๆ ของสังคมส่วนใหญ่เลย เหล่า The Forsaken จึงมักจะถูกตัดสินให้เป็นพวกชั่วร้าย (บางครั้งก็เกิดจากการมีคนที่แค่สวมชุดดำแล้วอ้างตัวเป็นสมาชิกกลุ่มทำเรื่องเลว ๆ ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้นำของกลุ่มไม่เคยกำหนดสัญลักษณ์ให้สมาชิก เพราะจะกำหนดหรือไม่ พวกจะแอบอ้างมันก็แอบอ้างอยู่ดี)

แต่สำหรับผู้ที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา เหล่า Forsaken ก็เปรียบเสมือน ดาร์กฮีโร่ ที่พิทักษ์คุณธรรมในที่ ๆ แสงสว่างส่องไม่ถึง และไม่ปล่อยให้ความชั่วร้ายตัวจริงได้ฝังรากลึกในที่ ๆ พวกเขาไปถึงเด็ดขาด แม้ว่ามันจะใช้คุณธรรม ศาสนาในการบังหน้า หรือหลอกจนคนเชื่อชนิดแฉให้ตายคนก็ยังหลงเชื่ออยู่ดีก็ตามที

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยปัจจัยดังกล่าว หลายครั้งจึงมีการไล่ล่าสมาชิกของภาคีนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย (โดยมากสมาชิกจะรอด แต่การที่มีใครสักคนตาย การจะรู้ได้ว่าคน ๆ นั้นเป็นตัวจริงหรือแอบอ้าง ก็คือเมื่อผู้นำกลุ่มและสมาชิกอีกเพียงหยิบมือ(แต่บางทีพี่แกก็มาคนเดียว) แล้วพอพ้นข้ามคืน เหล่ากลุ่มที่ฆ่าสมาชิกคนนั้น ไม่มีเหลือแม้แต่เศษซากที่เคยระบุว่ามีตัวตนอยู่ในโลกเทอร่าเท่านั้น นั่นเป็นที่มาของคำว่า Revenger from Shadow)

อย่างไรก็ตามด้วยการชี้นำของบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำของกลุ่มนั้น คุณธรรมของพวกเขาที่พอจะยกตัวอย่างได้แก่
- พวกเขาไม่ยินดีกับการลักขโมย ปล้นจี้ ฆ่าฟันผู้บริสุทธิ์ และหากกฎหมายทำอะไรพวกนั้นไม่ได้ นั่นคือเวลาของพวกเขา

- การข่มขืน ไม่ว่าจะฆ่าเหยื่อหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่ยอมความไม่ได้ หากเรื่องถึงพวกเขา ผู้กระทำจะถูกไล่ล่าจนกว่าจะตายในสภาพที่เรียกไม่ได้ว่าเคยเป็นคนมาก่อนเลยทีเดียว

- บิดามารดา แม้จะเป็นผู้ปกครอง แต่มิได้มีสิทธิ์ในตัวบุตรแบบเบ็ดเสร็จชนิดทำอะไรก็ถูก เด็กทำอะไรก็ผิด บางทีถ้า Forsaken คนนั้นอารมณ์เสีย ก็สามารถเป็นศัตรูกับวิถีของชาวบ้านทั้งหมู่บ้านได้เลย

- ไม่มีการประหารเจ็ดชั่วโคตร แม้จะเป็นสิ่งที่กษัตริย์หรือผู้ปกครองโดยมากทำกันมาตั้งแต่อดีตเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่ในสายตาของ Forsaken มองว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย เนื่องจากได้ทำให้คนที่ไม่มีความผิดต้องรับเคราะห์ (เหล่า Forsaken ถือว่า แม้พระเจ้าจะเห็นด้วยกับการที่เด็กต้องแบกรับบาปของพ่อแม่ แต่พวกเขานั้นไม่) แต่เวลาเป้าหมายชั่วร้ายสุดขั้วจริง ๆ จนทำให้ผู้นำของ Forsaken โกรธ จะไม่ใช่แค่จบลงที่ฆ่า แม้จะมุ่งเป้าที่เฉพาะคนผิดจริง ๆ แต่จะมีการประกาศให้คน ๆ นั้น ถูก "ตัดฐานะ" ทุกอย่างทิ้งทันที (ทำนองว่า ถือว่าคน ๆ นั้น ไม่เคยเป็นพ่อแม่ ลูก หรือสมาชิกในครอบครัวของใครมาก่อน เท่ากับว่าไม่มีใครจำต้องแบกรับบาปที่เกิดจากคน ๆ นั้น ต้องไม่มีเด็กที่ถูกล้อเลียนเพราะพ่อแม่ประเภทนั้น หรือพ่อแม่ใดถูกครหาที่ลูกเป็นคนพรรค์นั้นภายหลัง ซึ่งการประกาศของเหล่า Forsaken มักจะมีการใช้พลังทำให้คนกลัวเข้าร่วมแบบไม่กลัวผู้ปกครองท้องที่นั้นแม้แต่น้อย ทั้งหมดเพื่อดัดนิสัยจิตสำนึกของผู้คนนั่นเอง)

- แม้พวกเขาสามารถฆ่าคนชั่วคนเดียวเพื่อช่วยคนจำนวนมากได้ แต่ในทางกลับกัน พวกเขาสามารถฆ่าคนทั้งหมู่บ้านเพื่อช่วยเด็กที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดหรือถูกผีสิงเพียงอย่างไม่เป็นธรรมเพียงคนเดียวได้อย่างไม่มีคำว่าเกรงใจ
- เหล่า Forsaken ไม่ได้เป็นศัตรูกับศาสนจักรโดยเต็มที่ แต่จะไม่มีการเกรงใจหากมีสิ่งที่ผิดเกิดขึ้น

- ผู้นำของเหล่า Forsaken ชื่นชมเหล่านักบุญทุกคน (อย่างน้อยก็เกือบทุกคน โดยเฉพาะนักบุญที่เป็นผู้หญิง) ชนิดที่คนที่นินทาพวกนางต่อหน้าเขาเท่ากับท้าทายหาเรื่อง เขาไม่รังเกียจการให้อภัย เพียงแต่ตัวเขาไม่สามารถให้อภัยได้กว้างและตลอดเวลาเท่าพวกนาง เพราะในโลกนี้มีพวกประเภทที่อภัยไปก็เท่านั้นอยู่ และพระเจ้าทรงจัดการช้าเกินไปเสมอ

- เหล่า Forsaken รังเกียจการฆ่าหรือสังเวยเด็กในทุกกรณี และรังเกียจการเหยียดเพศทุกกรณีเช่นกัน (พวกที่พูดว่า ผู้หญิงห้ามเก่งดาบเก่งปืน ต้องอยู่ในบ้านห้ามออกไปข้างนอก แต่งงานกับคู่หมั้นที่พ่อแม่เลือกให้ และทำงานบ้านชั่วชีวิต อะไรแบบนี้ เรียกว่าตั้งตนเป็นศัตรูกับกลุ่มอัศวินนี้ตั้งแต่ไม่ทันได้รู้ตัวแล้ว)

- การข่มเหง เบียดเบียนศาสนา ฆ่าเหล่านักบวชและผู้ศรัทธาที่ไม่มีความผิด ถือว่าผู้กระทำได้ส่งสารถึงเหล่า Forsaken แล้วว่าตนเอง "อยากตาย" เต็มทีแล้ว

จากที่กล่าวมา จะเห็นว่าคุณธรรมของเหล่า Forsaken นั้นแทบจะขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของอัศวินแห่งเงามืดเสียเหลือเกิน แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาล้วนเคยเรียนรู้ และเจ็บปวดทั้งจากความชั่วร้ายที่แท้จริง ความยุติธรรมจอมปลอม และผลลัพธ์ที่ตามมาหากสิ่งที่ไม่ควรจะเป็นลุกลามจนสายเกินแก้มาแล้วทั้งนั้น พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะกำจัดความชั่วร้าย แม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นพระเจ้าหรือเทพเทพี เทวดานางฟ้าที่ไหนก็ตาม (พวกปีศาจก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง)

แน่นอน ปกติธรรมดา คงไม่มีมนุษย์หรือแม้แต่คน ๆ เดียวของเผ่าใดก็ตามสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ แต่ทุกคนนั้นจะได้รับการแบ่งปันพลังจากผู้นำกลุ่ม และขณะเดียวกัน ทุกคนก็ยอมรับในพลัง และการตัดสินใจของผู้นำเพียงหนึ่งเดียวเสมอ แม้จะยังคงเหลือคำถามในใจว่า เขาเป็นใคร เหตุใดถึงแข็งแกร่งทรงพลังเกินมนุษย์ได้ขนาดนี้กัน รู้เพียงแค่ว่าครั้งหนึ่งเขาน่าจะเคยเป็น อดีตอัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้เต็มเปี่ยมด้วยความใฝ่ฝัน อุดมการณ์ ความมุ่งมั่น และความเชื่อศรัทธาในพระเจ้าและความดีงาม ก่อนที่จะแตกสลายกลายเป็นตัวตนที่ยากจะหยั่งถึงเท่านั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Kamil_Cefares เมื่อ อังคาร ก.ย. 02, 2014 5:23 am, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kamil_Cefares
0
 
โพสต์: 1186
Cash on hand: 350.00

Re: Revenger from Shadow : The Forsaken

โพสต์โดย Kamil_Cefares เมื่อ อังคาร ก.ย. 02, 2014 5:22 am

เป็นพล็อตที่คิดมาในแง่ที่ว่า เนื้อเรื่อง SMN (ที่ผมยังติดตามอยู่เสมอแม้จะไม่ได้เล่นการ์ดตัวนี้แล้วก็ตาม) มีแต่เหล่าคนดี นักบุญ อัศวินแสงสว่าง ส่วนฝ่ายที่ดูมืดมน เช่น แม่มด เนโครแมนเชอร์ อะไรพวกนี้มักจะเป็นตัวร้ายอยู่เสมอ

ก็ตามหลัก แสงสว่างปะทะความมืด น่ะนะ

แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า จะดีไหมนะ ถ้าโลก SMN จะมีพวกตัวละครลักษณะทำนอง Dark Hero คือทั้งที่เป็นอัศวินดำ แม่มด ฯลฯ แต่ก็ยังเป็นคนดีได้ (ไม่เป็นพวกเดียวกับปีศาจ แต่ก็มีแผลใจมากเกินกว่าจะเข้าร่วมกับแสงสว่างอย่างเต็มภาคภูมิ) ทำนองว่า ไม่ได้ทำตัวเคารพกราบตีนพระเจ้า แต่กล้าโต้แย้งถึงสิ่งที่ตัวเองมองว่าผิดโดยไม่กลัวโดนลงโทษ และยึดมั่นในคุณธรรมที่ตนเชื่ออย่างแท้จริง (แต่ดันออกมาดูดีกว่าพวกอัศวินขาวบางคนซะอีก) อะไรแบบนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kamil_Cefares
0
 
โพสต์: 1186
Cash on hand: 350.00


ย้อนกลับไปยัง SMN FanCard FanArt & FanFic

ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน