Sub-Turn 17 Last Duel VII: Archangel
……………การที่ยังมีความเชื่อมั่นนั้น เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ตอนนี้"ยังอยู่ที่นี่"………………
ภายในทางเดินระเบียงของ คฤหาสน์ร้าง การดวลระหว่าง ลูเซีย และ อิส ยังคงดำเนินต่อไป
การดวลที่จะตัดสินชะตากรรม ของคนๆหนึ่ง และ ความรู้สึกของ อีกคนที่อยากจะช่วย พร้อมกับ
ความรู้สึกที่จะต้องหายไปในทุกครั้งที่ คนๆหนึ่งพยายามจะช่วยอีกคน
‘ เมื่อคิดที่จะช่วยคนๆหนึ่งก็ไม่อาจเลี่ยงที่ จะทำให้อีกคนต้องเจ็บปวด ’
ไม่อาจปฏิเสธความจริงในข้อนี้ได้ ท่ามกลางความรู้สึกที่ตกค้างอยู่ทั่วสนาม ในครั้งที่ลั่นเสียงประกาศ
โจมตีออกไป ก็ยิ่งตอกย้ำคำๆนี้ลงในหัวใจเธอ อย่างลึกซึ้ง
“ Cost Mp 2 ให้ซานดร้า….. ”
ลูเซีย ประกาศขึ้นแต่เธอก็ชะงักไป เธอกำลัง ลังเล ที่พูดออกไปเพราะหาก โจมตีไปแล้ว นี่ก็จะเป็นอีกด้านหนึ่ง
ของ เค้าที่เธอรู้จักนั้นจะต้องหายไป เมื่อเห็นว่าเธอนั้นยังตัดสินใจได้ไม่เด็กขาด เค้าจึงพูดขึ้น
“ ครั้งนี้พร้อมแล้วสินะ คำพูดที่จะพูดน่ะ… ”
คำถามที่ออกมานั้น ช่วยย้ำให้เธอ ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวได้แล้ว แม้ว่าใจของเธอจะตัดสินมันลงไปแล้ว แต่
ร่างกายของเธอนั้นคงจะยังอาวรณ์ อยู่ เพราะในขณะนี้ที่คำประกาศของเธอแว่ว แผ่วออกไปนั้น
หยาดน้ำก็ยังคง รินไหลล้นอาบแก้ม
“ ซานดร้า….โจม…..ตี ”
สิ้นคำ โดยที่ไม่รู้ตัว การโจมตีผสานของ เดวิด และ ซานดร้า ก็ได้จัดการ ผู้พิทักษ์คนทรงแห่งจิตวิญญาณมาร์วิน
จนสลายไปแล้ว วินาทีนี้ แม้ใจของเธอนั้นจะ รุดหน้าไปถึงคำพูดที่เธอคิดจะบอกออกมา แต่ราวกับว่า ร่างกายนั้น
ไม่ยอมที่จะทำตาม ช่วงเวลานี้ ทุกวินาทีที่ผ่านไหปนั้นค่อยๆหมดไปพร้อมกับ ร่างของ อสูรอัญเชิญที่กำลังจะสลาย
ไปจนหมดสิ้นหลังจากฝืนอย่างสุดจะเต็มกลืนแล้ว คำพูดของเธอ ก็ลั่นผ่านลำคอ ออกมาได้ในที่สุด
[Iss Status; Hand:Seal2 ,Mystic2 Mp:7/7 Shrine 6/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal3 ,Mystic4 Mp 0/7 Shrine 0/12 ]
“ กลับมา…..กลับมาซะทีสิ นายน่ะคงไม่คิดจะหายไปจริงๆหรอกนะ ตอนนี้เพื่อนๆของนายน่ะกำลัง พยายามกันเต็มที่เพื่อจะช่วยนายอยู่นะ เพราะงั้นแล้ว…เพราะงั้นแล้ว รีบๆกลับมาซะทีสิ!!! ”
เสียงของเธอเปล่งออกมาจากลำคอ อย่างสุดกำลัง ทุกคำพูดของเธอนั้น ได้กลั่นกรองเอาไว้แล้ว
และคิดว่าน่าจะได้ผลที่สุดที่จะเรียกให้ จิตใจของคนที่หวาดกลัว จนคิดจะหนีไปยังโลกแห่งความตาย
แต่ผลลัพธ์ ที่ได้รับกลับมานั้น….
“ หึ….หึๆๆ ”
เสียงหัวเราะกลั้วในลำคอ ดังก้องขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดที่เข้าปกคลุมทันที ราวกับว่าเสียงสะท้อน
ของ เธอ ที่ตะโกนออกไปนั้น ถูกความมืดรอบตัวดูดกลืนไปจนหมดสิ้น
“ อยากเจอขนาดนั้นเลยเหรอ…..เจ้านี่น่ะ!!! ”
เขา คำรามก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมาให้เธอ ได้เห็น รอยยิ้มอันโฉดชั่ว แฝงไปด้วยเลศนัยและความริษยา
แม้แต่น้ำเสียงของ เจ้าตัวก็เปลี่ยนไปมันไม่ใช่เสียงเดิมของ เค้าหรือบุคลิคใดๆที่เคยพบก่อนนี้เลย
“ ถ้าอยากจะพบขนาดนั้นล่ะก็ ไว้จะสงเคราะห์ให้ได้ไปพบกันที่โลกหน้าก็แล้วกัน ”
เสียงแหบๆพูด ออกจากปากของ อิส ขณะเดียวกัน จอมดาบเวทย์มาร์วิน และ นักอัญเชิญอสูร มาร์วิน
ที่อยู่ในสนามฝั่งเค้า ก็แสดงอาการแปลกใจขึ้นมาอย่างชัดเจน ทั้งที่ ก่อนนี้ ท่าทางของ พวกนี้
ยังแข็งๆทื่อๆ เป็นเหมือนอสูรทั่วไปที่ถูกอัญเชิญมา
“ นี่แกเป็นใครกันน่ะ?! ”
นักอัญเชิญอสูร มาร์วิน ถามเสียงดัง
“ คนที่เข้ามาสิงตามใจชอบแล้วกักตัว อิส เอาไว้ก็คือแกเองสินะ…. ”
จอมดาบเวทย์มาร์วิน ตะคอกพลางหันคมดาบกลับใส่ ผู้เล่นที่ร่ายตนออกมา
“ อ…อะไรกันเนี่ย พวกนายพูดเองได้ด้วยเหรอ ”
ลูเซีย อุทานเมื่ออยู่ อสูรทั้งสอง ก็พูดและขยับเองขึ้นมา ทั้งที่ก่อนหน้ายังต้องอาศัยการ
สิงร่างของ ผู้ร่ายเพื่อสื่อสารออกมาแท้ๆ
“ จะว่าไปก็จริงด้วยแฮะ ”
นักอัญเชิญอสูรมาร์วิน เปรยพลางสังเกตุตัวเองที่ตอนนี้แม้จะอยู่ในคราบของ อสูรอัญเชิญ ก็ยังสามารถพูดหรือ
ขยับได้ตามอำเภอใจ
“ ก็แน่ซี่ เพราะฉันเป็นคนทำให้มันเป็นยังงั้นเอง ขืนปล่อยให้พวกแกยังอยู่ในร่างนี้
ฉันก็ทำงานต่อไม่ได้กันพอดี ”
อิส เปรยเสียงน่ารักม พร้อมกันนั้นความมืดสลัวที่เกิดจากความมืดในยามราตรี ก็กลับแปลเปลี่ยนเป็น ความดำมืด
ที่ไร้ขอบเขต จากพื้นไม้ของระเบียง ที่เคยมองเห็นบัดนี้กลายเป็นความมืดสีดำ ซึ่งปกคลุมล้อมพวกเค้าทั้งสนามเอาไว้
ราวกับถูกตัดขาดออกจาก ที่เดิม มาอยู่ในวังวนของห้วงอวกาศ
“ อย่าพึ่งตกใจไป จากนี้ฉันแค่จะขอเปลี่ยนกฏนิดหน่อยคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ ”
อิส กล่าวเมื่อเห็นเธอแสดงอาการลนลานออกมาอย่างเห็นชัด ทันทีที่สนามนี้เปลี่ยนแปลงไป
“ เปลี่ยนกฏ… ”
ลูเซีย ทวนคำพูดของเค้าอีกครั้ง โดยที่ไม่เข้าใจ
“ ใช่แล้ว กฏที่จะเปลี่ยนเพิ่มเข้ามาก็ง่ายๆ ถ้าเธอแพ้ก็จะต้องมาเป็นตุ๊กตาให้ฉันเหมือนกับเจ้านี่ ยังไงล่ะ ”
คำพูดของ เค้าทำให้เธอต้องถลึงตาโพลงด้วยความตกตะลึง แม้เวลานี้ทุกสิ่งรอบข้างจะดูแปลกประหลาดสำหรับเธอไปหมด
และสร้างคำถามมากมายขึ้นในหัวใจของเธอก็ตาม แต่ทว่า เพียงสัญชาตญาณของเธอเท่านั้นที่ บอกให้
เธอรับรู้ได้ว่า อันตรายจะคืบคลานเข้ามาทันที หากเธอประมาทแม้เพียงน้อยนิด
“ กลายเป็นตุ๊กตา งั้นเหรอ ”
ลูเซีย กัดฟันเปรย เธอเริ่มรู้สึกว่าหายใจลำบากขึ้นทุกที ราวกับว่า ความมืดรอบๆดูดกลืนเอาอากาศออกไปด้วยจนทำให้ ออกซิเจน เบาบางลง
“ คงทรมานสินะ เจ้านี่เองก็เหมือนกัน แต่ว่าของมันที่โดนอยู่ตอนนี้น่ะหนักกว่าเธอหลายสิบเท่าเชียวล่ะ ”
อิส เปรยพร้อมกับแปะฝ่ามือลงบนหน้าอกของตน เพื่อย้ำว่า กำลังพูดถึง อิส คนที่เป็นเจ้าของร่าง
“ หายใจไม่ออก รู้สึกอึดอัดตกอยู่ในมืดมิดที่มองไม่เห็นอะไร หลงทางอยู่ในความกลัว ไอ้เสียงที่เธอตะคอกปาวเพื่อเรียกมันน่ะ ส่งเข้าไปไม่ถึงหรอก เพราะคนที่ได้ยินมันก็คือฉัน ฮะฮะฮะ ”
คำพูดพรรณา เสียดสีพล่อยออกมาคำแล้วคำเล่า
“ นี่แก…เป็นใครกันแน่ ”
ลูเซีย เปรยเสียงสั่น ตอนนี้ความกล้าที่เคยมีมันกลับหดหายไปเสียหมด เมื่อตกอยู่ในความมืดแสนอันตราย
“ เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ รอบนี้เธอไม่มี Mp เหลือแล้วจะทำยังไงต่อไปล่ะ ”
อิส ถามกลับเพื่อจะ เฉไฉไม่ต้องตอบคำถามของเธอ
{ รอบนี้เราใช้ Mp หมดไปกับกรโจมตี แล้ว แถม Seal ทั้งหมดของเราก้ กลายเป็น Inactive หมดแล้ว }
ลูเซีย คิดพลางมองดูสนามของเธอที่ ตอนนี้ มี ซานดร้า ซึ่งรวมร่างกับ มาร์วิน อันโดรมาซ และ ไคเลอร์ ที่
อยู่ใน At line และทั้งหมดถูกใช้โจมตีไปจนหมดแล้ว เธอไม่สามารถที่จะทำอะไรต่อในรอบนี้ ได้เลยนอกจากประกาศผ่านรอบเท่านั้น
“ ฉันขอหมดรอบ ”
ลูเซีย ประกาศจบรอบของเธอ
“ รอบของ ฉันจั่วไพ่ ”
อิส ประกาศรอบของตนก่อนจะดึงเอา ซีลและมิสติกการ์ดขึ้นมาจากสำรับอย่างละใบ
[Iss Status; Hand:Seal 3 ,Mystic3 Mp:7/7 Shrine 6/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal3 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ ก่อนอื่น ก็ต้องจัดการพวกขวางขวางตาซะก่อนสินะ ”
อิส เปรยขณะชายหางตามองไปยัง อสูรอัญเชิญ มารืวิน ทั้งสอง ที่หันมาแยกเขี้ยวใส่เค้า ก่อนจะหยิบ
มิสติกบนมือที่จั่วขึ้นมาได้ร่ายลงไป
“ ให้ Seer’s Deal ทำงาน การ์ดใบนี้จะต้องสังเวย ซีล ใบหนึ่งเพื่อแลกกับการเอา มิสติก
การ์ดจากสำรับขึ้นมาไว้บนมือได้ใบหนึ่ง ฉันขอสังเวย ผู้อัญเชิญอสูรมาร์วิน ”
สิ้นคำ มิสติกที่ ถูกร่ายออกมาปรากฏขึ้นในสนาม ภาพบนมิสติกนั้น เป็นภาพของนักทำนายซึ่งโยนเหรียญ
ในมืออย่างสำราญ ทันทีที่ผลของมันทำงาน ร่างของ ผู้อัญเชิญอสูรมาร์วิน ก็แตกสลายกลายเป็นละออง
ไปก่อนจะรวมตัวกลับเป็นการ์ดผนึก ร่อนไปเก็บลงในช่อง Shrine ของปลอกแขนที่ อิส สวมอยู่ทันที
ขณะที่ อิส กำลังความหามิสติกในสำรับอย่างสบายใจโดยไม่สนว่า ตนพึ่งจะทำลายอสูรอัญเชิญ ที่สำคัญไป
[Iss Status; Hand:Seal 3 ,Mystic3 Mp:7/7 Shrine 8/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal3 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ สังเวย ซีล เพื่อให้ได้มิสติก มาเนี่ยนะแถมยังทำให้ Shrine ของตัวเองใกล้หมดลงไปอีก ”
ลูเซีย เปรยเธออยากจะเชื่อกับการกระทำของ เค้าเลย นี่ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้นไม่ใช่
อิส ตัวจริงอย่างแน่นอนและไม่ใช่บุคลิคอื่นใดในร่างด้วย หากแต่เป็นใครบางคนที่กำลังบงการเค้าอยู่
“ เจ้าหนู!!...หนอยแก ”
จอมดาบเวทย์มาร์วิน ที่ยังคงเหลือรอดอยู่ สบถพลางหันมาถลึงตาใส่เค้า แต่ปฏิกริยาที่ตอบกลับมานั้นคือรอยยิ้ม
และเสียงหัวเราะ ขบขันอย่างสุขใจ ที่ได้เห็น พวกเค้าแตกสลายไปต่อหน้า
“ เพราะ Seer; Deal ไม่มีค่าใช้จ่ายในการร่าย ดังนั้น ฉันจึงมี Mp อยู่เหลือเฟือ แต่ก่อนอื่นจะต้องจัดการ เจ้านี่อีกตัวก่อน ”
อิส กล่าวจบก็หยิบ เอามิสติกอีกใบร่ายลงมา ลูเซีย เห็นท่าไม่ดีเธอจึงตะโกนเพื่อห้ามไม่ให้เค้า ทำเพราะหาก
มาร์วินทั้งหมด สลายไปเท่ากับ ว่าอิส ก็จะตายไปจริงๆ
“ อย่านะ!! ”
ลูเซีย ตะโกนทว่าการ์ดก็ถูกร่ายออกไปเสียแล้ว
“ Cost Mp 1 ให้ Soul’ Cost ทำงาน การ์ดใบนี้จะต้องสังเวย Seal อีกเช่นกันเพื่อแลกกับ Mp ที่จะได้คืนเท่ากับ
ค่าร่ายของ Seal ที่ถูกสังเวยไป สังเวย จอมดาบเวทย์มาร์วิน ”
อิส เปรยขณะที่ ภาพของการ์ดที่ถูกร่ายปรากฏขึ้นก่อนที่ยมทูตในการ์ดจะ พุ่งออกมาลากร่างของ จอมดาบเวทย์มาร์วิน
ลงไปยังหลุมดำที่ปรากฏขึ้นมา และสลายกลายเป็นละออง พร้อมกลับคืนเป็นการ์ดผนึก ร่อนไปลง Shrine เองโดยอัตโนมัติ
พร้อมค่า Mp ที่ฟื้นขึ้นมา
[Iss Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2 Mp:9/7 Shrine 10/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal3 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ เท่านี้ก็หมดหนทางช่วยเจ้าของร่างแล้ว คิดงั้นอยู่สินะ…แค้นอยู่งั้นสินะ สบายใจ
ได้ฉันสัญญาไว้แล้วว่าจะให้เธอได้พบแต่เป็นที่โลกหน้านะ ฮะฮะฮะ ”
อิส พูดก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย ความรู้สึกของเธอ
“ ฉันจะจัดการแกแล้วพาเค้ากลับมาให้ได้เลยคอยดูสิ ”
ลูเซีย ตะคอกอารมณ์ของเธอพุ่งพล่านปานน้ำที่ต้นจนเดือดปุดๆ สายตาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ
“ ต้องยังงั้น แค้นเข้าไปโกรธเข้าไปแล้วเธอก็จะได้กลายเป็น ตุ๊กตาที่แสนงดงามของฉัน ”
อิส เปรยเสียงรื่น แม้ว่าเธอจะส่งสายตาเคืองแค้นปานจะกินเลือดกินเนื้อ คนที่กำลังบงการเค้าอยู่ในตอนนี้
มาก็ตามทว่า ผู้บงการนั้นกลับดูจะชอบใจเสียยิ่งกว่า
“ เอาล่ะเรามาเล่นกันต่อเถอะแล้วก็เคียดแค้นกันให้มากขึ้นไปอีกเถอะนะ ”
อิส กล่าวจบก็ร่ายมิสติกการ์ดออกมา
“ Cost Mp 2 ให้ Juggling Clown ทำงาน การ์ดใบนี้จะให้เลือกผลการทำงานได้ 1 อย่าง ฉันขอเลือกผลข้อที่ 1
นำการ์ดบนมือใบหนึ่ง คืนใส่สำรับจากนั้นสลับแล้ว ให้ผู้เล่นคนหนึ่งจั่วการ์ดได้ 2 ใบ
ฉันคืน Seal Card กลับไปใบหนึ่ง จากนั้นจั่ว Mystic Card ขึ้นมาสองใบ ”
อิส อธิบายผลของ การ์ดไปด้วย ระหว่างที่ เอาซีลในมือใบ 1 ใส่คืนสำรับที่ดึงออกมาจากปลอกแขน
และสลับก่อนจะใส่คืนกลับไป จากนั้นจึงดึงเอา มิสติกการ์ดขึ้นมาถือไว้อีก 2 ใบ
พร้อมกับที่ ส่ง Juggling Clown ไปไว้ที่ Shrine
[Iss Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 3 Mp:7/7 Shrine 10/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal3 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ และจากนั้น Cost Mp 4 ให้ Relic Mystic ไม้เท้า เบธานี(Bethany, the Staff of Zechariah) ทำงาน ”
อิส ร่ายมิสติก ออกมา ปรากฏไม้เท้าซึ่งมีหัวไม้โง้งน้าวมาด้านหน้าคล้าย ตะขอเกี่ยว เค้ารับเอาไม้เท้านั้นมา
ก่อนจะโยน ไม้เท้า นั้นลงไปยังกลางสนาม ทันทีที่ไม้เท้าปักลงไปมันก็แผ่คลื่นพลังบางอย่างออกมา
คลื่นพลังนั้นทำให้ อสูรทุกตัวที่อยู่ในแนวหน้าของ ลูเซีย ขยับตัวไม่ได้ และแข็งทื่อราวกับรูปปั้น
“ ด้วยอำนาจของ ไม้เท้าเบธานี มันจะทำให้ผู้เล่นไม่สามารถสั่งการ Seal ใน At Line ได้เป็นเวลา 2 Turn ”
เค้า อธิบาย ถึงแม้จะไม่ได้ลงรายละเอียดแต่ ลูเซีย รู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้ ไม่เพียงแต่เธอจะถูกถ่วงเวลา
เท่านั้น เธอยังถูกบังคับไม่ให้ จัดการตั้งทัพเพื่อรับมือได้อีกด้วย
[Iss Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2 Mp:3/7 Shrine 10/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal3 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ รอบของฉันยังไม่หมดแค่นี้ Cost mp 2 อัญเชิญ อสรพิษใต้ดิน คริพ ไวเปอร์(Crypt Viper) สู่ Df line ”
สิ้นคำ พร้อมกับ การ์ดผนึก ซึ่งดูดซับละอองเวทย์ รอบๆเข้ามาจนปลดปล่อย ร่างของ อสรพิษเกล็ดสีเทาขุ่น
ขนาดใหญ่ ออกมาเกล็ดของมันเต้นตุบๆได้ เหมือนหัวใจที่กำลังสูบฉีดเลือด แต่สำหรับมันสิ่งที่ไหลเวียนอยู่ใน
ร่างซึ่งกำลังสูบฉีด คือพิษที่ไหลเวียนแทนเลือดใน่รางของมัน
“ นอกจากนี้ Cost Mp 1 อัญเชิญโทรศัพท์เขย่าขวัญ เทอเร่อโฟน(Terrorphone) สู่ Df line ด้วยอีกใบ ”
อิส ประกาศพร้อมกับร่ายการ์ดผนึกออกไป ทันทีที่ผนึกปลดออก ก็ปรากฏ โทรศัพท์ซึ่งมีหูโทร ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคม
และใบหน้ารูปกระโหลกติดอยู่บนแผงของมัน
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:0/7 Shrine 10/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal3 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ ฉันขอหมดรอบแค่นี้ ”
อิส ประกาศพร้อมกับ รอให้เธอเริ่มเล่นรอบของตัวเอง
“ รอบของฉันจั่วไพ่! ”
ลูเซีย ประกาศพร้อมกับ ดึงเอามิสติก การ์ดขึ้นมาใบหนึ่ง
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 10/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal3 ,Mystic5 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ การ์ดบนมือของฉันมี 8 ใบดังนั้นต้องทิ้งไปใบหนึ่ง ฉันทิ้ง Mystic ไปใบหนึ่ง ”
ลูเซีย พูดพร้อมกับ คัดเอามิสติกบนมือทิ้งลงไปใบช่อง Shrine ของปลอกแขนเธอ ก่อนจะหยิบเอา
ซีลการ์ดขึ้นมาเตรียมร่าย
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 10/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal3 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ Cost Mp 3 อัญเชิญ อลิส เดลิเวอร์แบนโพสทแลน (Alice, Deliver Band Postulant) และ
แมนดี้ เดลิเวอร์แบน วิซ(Mandy, Deliver Band Witch)สู่ Df line ”
สิ้นคำ การ์ดผนึก ซีล 2 ใบก็ถูกร่ายออกมา แม่มดน้อย แมนดี้ และ นักบวชฝึกหัด อลิส
ก็ปรากฏตัวขึ้นบนสนามแนวหลังของเธอ
“ และให้ Ability ของ อลิส ทำงานเมื่อ อลิส เข้ามาในสนามถ้ามี เดลิเวอร์แบนด์ หรือธาตุแสงใบ
อื่นในสนาม สามารถทำให้ Seal ใบหนึ่งยกเลิกMstic Card ได้จนจบ Sub-Turn ฉันเลือกให้ ซานดร้า รับผลนี้ ”
ลูเซีย ประกาศจบ อลิส จึงเริ่มประคบมือร่ายบทสวดทันที ร่างของ ซานดร้า และ เดวิด ที่รวมกลุ่มกันอยู่
ก็เรืองแสงขึ้น ทว่าก็ยังไม่อาจช่วยให้ หลุดพ้นจากมนต์สะกดของ ไม้เท้า เบธานี ที่ยังคงสำแดงอำนาจอยู่
“ เสียใจ ด้วยนะ แต่ พลังของไม้เท้าเบธานี น่ะจะมีผลกับผู้เล่น ดังนั้นต่อให้ ยกเลิกผลของ
Mystic ก็ไม่สามารถต้านพลังของมันได้หรอกนะ ”
อิส ตอบเมื่อเห็นว่าเธอยังพยายามดิ้นรนอย่างสูญเปล่า การสกัดของเค้าไม่มีวันจะต้านทานได้
ลูเซีย ทำเสียงจิกจักนิดหน่อย เธอไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่กับ การสอดเข้ามาเย้ยการเดินหมากของเธอ
“ นอกจากนี้ ด้วย Ability ของ แมนดี้ เมื่อเข้ามาในสนาม จะทำให้ค่า Df ธาตุดิน หรือ เดลิเวอร์แบนด์
ใบหนึ่งในสนามเพิ่มขึ้น 2 หน่วยและยกเลิก Curse เป็นเวลา 1 Turn ฉันเลือกให้ แมนดี้ รับผลนี้เอง ”
ลูเซีย ประกาศจบแมนดี้ ก็ร่ายคาถาสร้างกำแพงเวทย์ขึ้นมาป้องกัน ตัวเธอเอง
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 10/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic4 Mp 4/7 Shrine 0/12 ]
“ Cost Mp 4 ให้ Mystic สวมใส่ ความชอบธรรม เลจิทิมาซี่(Legitimacy) สวมให้กับ อันโดรมาซ ”
ลูเซีย ประกาศพร้อมกับ ร่าย มิสติกการ์ด ออกมา ปรากฏภาพของการ์ด ขึ้นบนสนามและมีรัศมีแสงเปล่งออกมาจาก
ร่างของ อันโดรมาซ อัศวินยูนิคอร์นแห่ง เดลิเวอร์แบนด์
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 10/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic3 Mp 0/7 Shrine 0/12 ]
“ หมดรอบแค่นี้ ”
ลูเซีย ประกาศจบรอบของเธอ
{ถ้าว่ากันแล้วตอนนี้ สถานการ์ณฝั่งเราได้เปรียบ แบบเห็นๆเลย Shrine ของเจ้านั่น
เหลือแค่ 2 แถมยังมีแต่ อสูรอัญเชิญ ที่มีค่าพลังนิดหน่อยทั้งนั้น แต่ว่าทำไมกันนะ
ถึงรู้สึกว่ามันจะไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ}
เธอ คิดขณะวิเคราะห์ สภาพการณ์ต่างๆในตอนนี้ แม้ว่าเธอจะกำลังได้เปรียบอยู่เต็มประดา แต่เธอกลับไม่รู้สึกเลยว่า
จะเอาชนะได้ เหตุนั้นเป็นเพราะ คนที่จงใจ ทำให้สถานการณ์มันกลายเป็นแบบนี้ก็คือตัว อิส ที่ถูกบงการอยู่เอง
“ รอบของ ฉันจั่วไพ่ ”
อิส ประกาศขึ้นพร้อมกับดึงเอา ซีลออกมาจากสำรับ 2 ใบ
[Iss Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 10/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic3 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ Cost Mp 1 อัญเชิญ ผึ้งต่างมิติ ไดเมนโซน่าบี (Dimensona Bee) ออกมาที่ Df line ”
อิส ประกาศพร้อมกับ อัญเชิญ อสูรออกมาจากผนึกการ์ด ที่โยนออกไป อสูรผึ้งสีขาวซึ่งมีเหล็กไนแหลม ถึง 3 อัน
ปรากฏตัวขึ้นบนสนามแนวหลังของ เค้า
“ และ Cost Mp 4 ให้ Mystic Card ไม้เท้าบาลาอัม(Balaam, the Staff of Ramon)ทำงาน ”
อิส กล่าวขณะที่ การ์ดผนึกที่เค้าแสดงมันออกมาดูดซับ เอาละอองแสงรอบๆเข้าไปก่อนจะกลายเป็น ไม้เท้าที่มีลักษณะคล้ายกับไม้เท้า เบธานี แต่หันปลายตะขอไปคนละด้าน เค้ารับเอาไม้เท้านั้น มาก่อนจะโยนมันขึ้นไป ไม้เท้าลอยตัว
อยู่กลางอากาศ และแผ่รัศมีแสงสีม่วงอ่อนๆออกมา แสงเหล่านั้นมาจับตัวอยู่บน การ์ดผนึกซีล ของเธอ และของ
เค้าทำให้พวกมันเรืองแสงอยู่ตลอดเวลา
“ด้วยผลของ ไม้เท้า บาลาอัม มันจะทำให้ Mp Cost ค่าร่ายของ Seal Card ทุกใบในมือ เพิ่มขึ้น 1 จุดดังนั้น
ตอนที่จะ Cost Mpเพื่อเรียก อสูร ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติ ”
อิส อธิบายผลของ การ์ดที่เค้าพึ่งร่ายออกมา ก่อนจะเริ่มออกคำสั่งถัดไปทันที
“ และ Cost Mp อีก 2 ให้Skill ของ เทอเร่อโฟน ทำงาน สังเวย การ์ดใบนี้จากนั้นอัญเชิญ อสูรธาตุมืด บนมือ
ออกมาโดยไม่ต้องจ่ายค่า Cost ”
สิ้นคำประกาศ อสูรโทรศัพท์ ก็สลายร่างของมันกลายเป็นละออง พร้อมๆกับที่ อิส หยิบเอา ซีลใบสุดท้ายบนมือ
โยนออกไป และรับ เอา การ์ดผนึกของ เทอเร่อโฟน ที่ร่อนกลับมาส่งลง Shrine ไป
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 1 Mp:0/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic3 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ ออกมาเลย ! จอมขมังเวทย์แห่งมิติ เซเนส รามอน(Zenas Ramon) ”
ทันทีที่ การ์ดผนึกใบใหม่ ถูกปลดออก ความมืดมิดที่ปกคลุมสนาม ก็ถูกดูดมารวมกันที่ การ์ดผนึก
บรรยากาศรอบๆ เปล่งประกายแสงสีต่างๆ จนดูคล้ายกับแสง ออโรร่า ทอดผ่านไปรอบๆมิติแห่งความมืด
ที่พวกเค้ายืนอยู่ในตอนนี้ ความมืดที่ถูกดูดกลืนเข้ามา ค่อยเปลี่ยนรูปร่างเป็น จอมขมังเวทย์สาวชุดดำ
ดวงตาซ้ายของหล่อน ส่องแสงสีแดงจัดจ้าน ราวกับนัยตาของปีศาจร้าย รัศมีที่แผ่ออกมาจาก
ร่างของหล่อน ทำให้จิตใจรู้สึกหดหู่ไปในทันที สายตาคมกร้าวแฝงไว้ด้วยความชิงชัง
ที่ฝังรากลึกอยู่ในดวงจิต เซเนส รามอน เมื่อเธอปรากฏกาย ไม้เท้า บาราอัม ที่ลอยอยู่เหนือสนาม
ก็โรยตัวลงมาหาเธอผู้เป็นเจ้าของมัน เธอ ยื่นมือออกไปรับมันมาไว้ และบัดนั้น การ์ดผนึกซีลบนมือของ อิส
ที่เคยถูกแสงของ บาราอัม สาปเอาไว้ ก็หายเปล่งแสง คำสาปถูกล้างออกไป แล้ว ในขณะที่ การ์ดของ ลูเซีย นั้น
ยังคงถูกคำสาปอยู่
“ พลังของ ไม้เท้าบาราอัม ที่เคยส่งผลกับการ์ดบนมือนั่นทำไม… ”
ลูเซีย เปรยด้วยความแปลกใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ ไม้เท้า บาราอัม เมื่อมันอยู่ในมือของ รามอน ก็จะป้องกันฉันไม่ให้รับผลจากคำสาปของมันเพราะฉนั้นจึงมีแต่เธอที่
ยังคงถูกคำสาปอยู่ หึๆๆ ”
อิส เปรยกลั้วเสียงหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะที่น่ารังเกียจและชั่วช้า ซึ่งมาจากผู้ที่บงการ เค้าอยู่เบื้องหลัง
“ รอบนี้ไม่มี Mp เหลือแล้ว ขอหมดรอบแค่นี้ก็แล้วกัน เอาล่ะเชิญเธอ ดิ้นรนไปเถอะ หึๆๆ ”
อิส กล่าวพร้อมกับ ผายมือเพื่อสงรอบการเล่นไปให้เธอ
“ รอบของฉัน จั่วไพ่!! ”
ลูเซีย ประกาศก้อง พร้อมกับ ดึงเอา มิสติกการ์ด ขึ้นมา 2 ใบ
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 1 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic5 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
{ เจ้านั่น ทำไมถึงเรียก รามอน ให้ออกมาที่ At Line กันนะ ทั้งที่จะทำให้ตัวเองถูกผลของ
ไม้เท้าเบธานี ไปด้วยแท้แล้วก็ พอหมดรอบของเราแล้ว อำนาจของ ไม้เท้า เบธานี ก็จะหมดไป
คงคิดจะบุก จัดการในรอบต่อไปสินะ ตัวเราเองก็ถูก ขัดขวางการอัญเชิญ ด้วย ไม้เท้า บาราอัม
อีกถ้าจะร่ายSealก็จะทำให้สิ้นเปลือง Mp ไป แต่ว่าตอนนี้เราเองก็ Seal อยู่มนสนามเยอะ
ขนาดนี้ถึงไม่ต้องร่ายของแบบนั้นมา เราก็คงไม่ ร่ายซีลออกไปเพิ่มให้ถม Shrine ตัวเองไปมากกว่า
นี้หรอกนะ}
ลูเซีย วิเคราะห์ พลางมองสำรวจ อสูร ในสนามของเธอ ตอนนี้ ที่แนวหน้าของเธอ มี ซานดร้า กับ เดวิด ที่รวมร่างกันอยู่
อันโดรมาซ และ ไคเลอร์ อีกทั้งยังมี ซิลิโมเน่ ด้วย อสูรของเธอมีให้พอใช้จัดการปิดฉาก เซเนส ของเค้าได้อย่างง่ายดาย
ด้วย Shrine ของเค้าที่จะเสีย อสูรไปไม่ได้อีกแล้ว หากเธอทำลายได้เพียงตัวเดียว เธอจะชนะทันที
เพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เธอไม่คิดง่ายๆแบบนั้น คือสายตาที่ดูจะมั่นใจว่า สามารถพลิกกลับไปเอาชนะเธอได้ทันที
ของเค้า มันทำให้เธอ รู้สึกตื่นไปทั้งตัว ทั้งที่ไล่ต้อนจน เค้าจนมุมได้ขนาดนี้ เธอยังไม่รุ้สึกเลยว่าจะชนะ
“ Cost Mp 3 ให้ นิมิตทูตสวรรค์แห่งโซปราโน่(Angel of Soprano, the Revelation) ทำงาน ”
สิ้นคำ การ์ดผนึก ที่ร่ายออกไปก็ปรากฏ ภาพนิมิต ของทูตสวรรค์ องค์หนึ่งขึ้น ทูตสวรรค์สยายปีกสีทอง แผ่กระจาย
แสงซึ่งสะท้อนออกจากปีก รัศมีแสงส่องอาบไปทั่วทั้งสนามฝ่ายเธอ จนดูราวกับ เป็นดวงอาทิตย์ ในห้วงอวกาศ ที่
บิดเบี้ยวนี้ ทันทีที่ เหล่า เดลิวเอร์แบนด์ ทั้งหมดสัมผัสกับแสงนี้ กลุ่นแนวหน้าที่เคยขยับตัวไม่ได้ ก็หัน
กลับมาก้มตัวลงนมัสการต่อนิมติของ ทูตสวรรค์ นั้น โดยมี เดวิด และ อลิส เริ่มก่อน และทุกคนที่เหลือค่อยๆ
ตามกันทำความเคารพ
“ ด้วยผลของ การ์ดใบนี้จะทำให้ ค่า At และ Df ของ Seal ที่ติดชื่อ เดลิเวอร์แบนด์ เพิ่มขึ้นอย่างละ 2
หน่วยเป็นเวลา 1 Turn ”
เมื่อ ลูเซีย อธิบายจบ นิมิตของ ทูตสวรรค์ ก็จางหายไปพร้อมกับ ค่าพลังของ เหล่า เดลิเวอร์แบนด์ ที่ได้รับพร
ก็เพิ่มขึ้น
{เท่านี้รอบต่อไป ถ้าฝ่ายนั้นบุกเข้ามาเราก็พร้อมจะตอบโต้ด้วย เฮอคิวลิส(Hercules)
ได้เท่านี้แผนรับมือเราก็มีอยู่ พร้อมแล้ว จะบุกมายังไงก็เชิญเลย Shrine ของฉันไม่มี
ถึงจะแพ้เสีย ซีลไปตัวก็ยังเอาคืนรอบหน้าได้ }
ลูเซีย คิดขณะที่มองดูการ์ดในมือที่เตรียมไว้เพื่อรับการบุกของเธอ ในขณะที่ ซีลการ์ดในมือของ เธอที่
เหลืออยู่ใบสุดท้ายนั้น เธอพยายามจะไม่มองมัน ราวกับว่าไม่จำเป็นต้องใช้ รวมไปถึง มิสติกอีกใบที่อยู่ข้างๆ
กันด้วย
{การดวลนัดนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งปาฏิหารย์หรอก…แค่ฝีมืออย่างเดียวก็พอแล้วน่ะ}
ลูเซีย คิดขณะชายตาไปมองการ์ดทั้งสอง ใบที่เธอไม่คิดจะใช้มาตั้งแต่เริ่มเกมแล้ว
“ ฉันขอหมดรอบแค่นี้ ”
ลูเซีย ประกาศอย่างมั่นใจ ขณะที่อิส นั้นเมื่อได้ยินเธอประกาศหมดรอบก็ฉีกยิ้ม ตีสีหน้าโฉด
อย่างระรื่นราวกับว่า ชนะแล้ว ทันที
“ รอบของ ฉันจั่วไพ่ ”
อิส ประกาศ พร้อมกับ ดึงเอามิสติกการ์ดขึ้นมา 2 ใบ พร้อมกันนั้น ไม้เท้า เบธานี ที่ปักอยู่บนพื้นสนาม
ก็สลายไปด้วยกัน ทำให้ อสูรทุกตนหลุดจากอำนาจสะกดของไม้เท้าทันที
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 3 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ ให้ เซเนส รวมร่าง Trippel Combination ”
“ ร…รวมร่าง Tripple Combination งั้นเหรอ หรือว่า… ”
ทันทีที่ อิส ประกาศรวมร่างให้กับ รามอน ลูเซีย ก็ต้องอุทานขึ้นอย่างไม่คาดฝัน เมื่อ การโจมตีจริงๆที่ อิส เล็งไว้
ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด
“ ใช่แล้วการโจมตีแบบ All จะจัดการกวาด อสูร ชั่นต่ำของเธอให้หมดไปจากสนามทันที ให้รามอน รวมร่างกับ คริพไวเปอร์ และ ไดเมนโซน่าบี ”
สิ้นคำ อสรพิษยักษ์ และ ผึ้งต่างมิติ ก็ถูกพลังของไม้เท้า บาราอัมของ รามอน ดูดเข้าไป
“ จากนั้น Cost mp 2 ติดตั้ง Mystic สวมใส่ หญิง ผู้กล้า(Her Courage)ให้กับ เซเนส มันจะทำให้ค่า
At ของ รามอน เพิ่มขึ้นเท่ากับ เลเวลของรามอน ”
อิส ประกาศพร้อมกับ ร่ายมิสติก ออกมา ทันทีที่ มันสำแดงเดชค่าพลังของ รามอน ก็เพิ่มสูงขึ้นไป
อีกกลายเป็น 13หน่วย ทันที
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:5/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 0/12 ]
“ ค..ค่าพลังโจมตี 13 หน่วย แถมยังเป็นการโจมตี All อีก แย่แล้วนี่มัน… ”
ลูเซีย อุทาน ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าสังหรณ์ของเธอไม่ได้ผิด ความั่นใจของเค้าที่แสดงออกมาตั้งแต่เมื่อครู่นั้น
คือสิ่งนี้นั่นเอง
“ ถูกต้อง อสูรทั้งหมดในสนามของเธอ เมื่อรวมกันแล้ว เลเวล ก็จะเท่ากับ 12 พอดี นั่นเท่า
ว่าเธอจะต้องแพ้ทันที ”
อิส กล่าวมาถึงตอนนี้ รามอน ก็เริ่มร่ายเวทย์ สร้างมวลพลังงานสีขาวและดำให้หมุนวนเข้าหากัน
“ Cost mp 5 รามอน โจมตี คาถาถล่มมิติ (Tyrannous Dimension) ”
สิ้นคำ มวลพลังงานที่ รามอน สร้างขึ้นก็ ถูก ขว้างลงไปยังสนามของเธอพริบตานั้น อสูรทั้งหมดของเธอ
ก็แตกสลายไปทีละตัวๆ ราวกับลูกโป่งละอองแสงและควันจากแรงระเบิดของ คาถา ทำให้เกิดควันปนละอองแสง
ผสมคลุกเคล้าลอยฟุ้งไปทั่วทั้งสนาม จนไม่สามารถมองเห็น สนามฝั่งเธอได้เลย
“ หึๆๆๆ เท่านี้เธอก็ต้องมาเป็นตุ๊กตาของฉันแล้ว …หือ?! ”
อิส เปรยเสียงระรื่น ขณะที่ควันเริ่มจางลง เค้าก็ต้อง ถลึงตามองผ่านเข้าไปในกลุ่มควันนั้น ร่างของ อันโดรมาซ
อัศวินยูนิคอร์นแห่งเดลิเวอร์ แบนด์ คือผู้เดียวที่ยังคงยืนหยัดอยู่ได้
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:0/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic4 Mp 7/7 Shrine 10/12 ]
“ เฮือก! ท…ทำไม ”
อิส สะดุ้งทันที เมื่อตรวจสอบการใช้ Mp ของเธอก็ปรากฏว่าไม่ได้มีการใช้ การ์ดใดๆเพื่อแก้สถานการณ์ในตอนนั้นเลย
แล้วเหตุใด การโจมตีของ รามอน ถึงไม่อาจทำอะไร อันโดรมาซ ที่มีค่าพลังเพียง 10 หน่วย ซึ่งน้อยกว่า
รามอน ที่มีถึง 13 หน่วย ได้ ความสงสัยนี้ทำให้สีหน้าระรื่นเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็น ความตกตะลึงไป
“ ด้วยผลของ ความชอบธรรม เลจิทิมาซี่ ที่ อันโดรมาซ สวมไว้ ถ้า Seal ที่ติดเป็น เผ่า อัศวินหรือ
เผ่าจอมเวทย์ จะทำให้ Seal นั้นป้องกันจากากรโจมตี Allและยกเลิก Mystic ของฝ่ายตรงข้ามได้ ”
ลูเซีย อธิบายผลของการ์ดที่ อันโดรมาซ สวมใส่ไว้อยู่ มันทำให้เธอรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
“ เอาล่ะ รอบของฉันล่ะนะ จั่วไพ่! ”
ลูเซีย ประกาศ พร้อมกับ จั่ว มิสติกขึ้นมา 2 ใบ
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic6 Mp 7/7 Shrine 10/12 ]
“ เอาล่ะนะ อิส เธอได้ยินฉันอยู่ใช่รึเปล่า!! ”
ลูเซีย ตะโกนขึ้นมา สร้างความแปลกใจให้กับ ผู้ที่บงการอยู่
“ ครั้งก่อนที่เราดวลด้วยกันน่ะ ฉันบอกว่าจะให้เธอได้เห็นการ์ดที่ไม้ตายของฉันยังจำได้รึเปล่า
ถ้าจำไม่ได้ล่ะก็ฉันจะให้ดูเดี๋ยวนี้ล่ะ แต่ว่าที่จริงก็ไม่อยากใช้เท่าไหร่นักหรอกนะ แต่เพราะเธอเก่งแบบนี้ก็คงต้องใช้ล่ะ ”
ลูเซีย ตะโกนนั่นยิ่งทำให้ ผู้บงการ งงเข้าไปอีกว่าเธอพูดถึงเรื่องอะไร
“ ไพ่ตายที่เก็บงำเอาไว้งั้นเหรอ? ”
ผู้บงการเปรยผ่าน อิส ออกมา
“ อ่ะ ฮ่า กลายเป็นฝ่ายอยากรู้ขึ้นมาบ้างแล้วสินะ ไม่ต้องห่วงฉันจะให้ได้เห็นแน่ รวมทั้ง อิส ด้วย ”
ลูเซีย พูดเธอดูจะรู้สึกโล่งขึ้นมาทันทีหลังจาก ถูกการโจมตีชุดเมื่อกี้ไปพลิกจนตัวเธอเอง กลายมาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
เค้าไปแล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะโล่งใจเสียยิ่งกว่าตอนถูกหลอกให้ดุเหมือนได้เปรียบด้วยซ้ำ
“ เมื่อกี้ ยังตีหน้ามุ่ยยุ่ยเป็นผ้าขี้ริ้วทั้งที่ได้เปรียบอยู่แท้ๆ แต่พอตอนนี้กำลังเสียเปรียบดันยิ้มออกซะอย่างงั้น
เธอเพี้ยนไปแล้วรึไง แล้วก็เจ้าของร่างนี้มันก็.. ”
อิส ย้อนหวังจะกดดันเธออีกครั้ง ทว่า เธอกลับแทรกขึ้นมาก่อน
“ ยังไม่ตายหรอก..แล้วก็ไม่ได้หายไปไหนด้วย มาคิดๆดูแล้ว การที่วิญญาณอสูร จะเข้าไปอยู่ในร่างของ
มนุษย์ที่ตายไปแล้วมันแทบเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ทั้งหมดเป็นกลลวงของแก นั่นแหละ ”
ลูเซีย พูดเธฮพยายามจะชี้ให้เห็นว่า เรื่องทั้งหมดตลอดการดวลที่ผ่านมาเป็นเพียงเรื่องล้อกันเล่น
ที่ตั้งใจจะหลอกเพื่อควบคุมจิตใจเธอ
“ เธอจะบอกว่าเรื่องที่เจ้านี่มันมีหลายบุคลิคเป็นเรื่องโกหกงั้นสิ ”
อิส เริ่มลน คำพูดและท่าทีของเค้าเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เริ่มสั่นคลอนและระสับระส่าย
“ เปล่า นั่นน่ะบางทีอาจจะเป้นความสามรถพิเศษ ของเค้าอยู่แล้วก็ได้ แต่ที่พวก อสูรทั้งหลายพูด
ออกมาแบบนั้นก็คงเพราะถูกแกที่คุมแกนกลางของจิตใจ สั่งให้พูด มากกว่า การที่แกรีบกระเสือกกระสน
ทำให้ฉันรู้ศึกเศร้ารู้สึกโกรธก็เพราะจิตใจของฉันจะได้อ่อนแอ ลงและก็เข้าควบคุมได้ง่ายๆ ก็คงเป็นเพราะ
แกควบคุมเค้าไม่ได้งั้นสินะหรือสรุปก็คือ ถ้าจัดการแกได้ อิส ก็จะกลับมาทันที ”
ลูเซีย แฉ ทฤษฎี ทั้งหมดที่เธอคิดไว้ในหัวมาตลอด รอบการดวลจนถึงเมื่อครู่นี้
“ มองแบบนั้นสงสัยอยู่ล่ะสิ ว่าทำไมฉันถึงอ่านออกทะลุปรุโปร่งหมด จะบอกให้ก็ได้ ฉันมีคนรู้จักที่มีพลัง สะกดจิต
เหมือนกับที่ แกใช้มันควบคุม อิส อยู่เพราะงั้นหลักการคร่าวๆในการสะกดจิต น่ะฉันรู้อยู่แล้ว
แถมพวก 5 หน่อ มาร์วิน นั่นบอกฉันหมดแล้วล่ะระหว่างที่เรากำลังดวลกันอยู่ ”
ลูเซีย ย้ำเพื่อจะกดให้ อีกฝ่ายยอมสารภาพ
“ ว่าไงนะ! ”
อิส ตะคอก แม้หลักการที่ว่ามาของเธอนั้นจะพอฟังขึ้นอยู่ แต่เรื่องที่เธอคุยกับ พวกมาร์วิน ที่ถูกส่งลง
Shrine ไปนั้น แทบจะเป็นเรื่องปั้นน้ำ
“ ฉันน่ะ เป็นโฮมุนครุส ที่ปลูกฝังพลัง เทเลพาธี(Telepathy)เอาไว้ เพราะงั้น ฉันสามารถจะสื่อสาร หรือ
อ่านใจของอสูรกับมนุษย์ได้ การที่แกส่งพวกนั้นไป Shrine ทำให้ฉันสื่อสารกับพวกมันได้สะดวกขึ้นเยอะเลย
เพราะ แกจะไม่ได้ยินหรือรับรู้เลยว่าฉันกับพวกนั้นคุยเรื่องอะไรกันอยู่ ”
เธอ ยังคงแย้งกลับไป อย่างไม่สะทกสะท้าน
“ หึๆๆๆ ”
อิส หัวเราะ หลังจากที่ฟังเธอพล่ามมานานสองนาน
“ มีอะไรน่าขำกัน หัวเราะอยู่ได้ ”
เธอ สบถเสียงขรึม ด้วยความไม่พอใจ
“ เธอนี่ ถ้าจะเพี้ยนจริงๆแฮะ จะบอกว่า ไอ้วิญญาณพวกนั้นมัน มาบอกเธอ ว่ายังงู้นยังงี้ งั้นเรอะ
จะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว ”
ผู้บงการ ยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะกดดันเธอแม้ว่าตอนนี้เค้าจะถูกแฉกลลวงทั้งหมดแล้วก็ตาม
“ ไม่ได้เพ้อเจ้อนะ ฉันจะแสดงหลักฐานเดี๋ยวนี้ล่ะ ”
ลูเซีย ประกาศเสียงกร้าว พร้อมกับ หยิบการ์ดซีล ใบสุดท้ายบนมือ ที่เธอคิดว่าจะไม่ต้องใช้ ร่ายออกมาทันที
“Cost Mp 2 ให้ คัมภีร์แห่งวารีไม่สิ้นสุด(Book of Ethernal Tide) ทำงาน ”
ลูเซีย ประกาศ พร้อมกับแสดง มิสติกบนมือ ออกมาละอองแสงถูกดูดซับ เข้าไปที่การ์ดใบนั้นและ
ปรากฏรูปของ หนังสือ ซึ่งมีหน้าปกเป็น มหาสมุทรขึ้นมาบนพื้นที่ของเธอ
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic5 Mp 5/7 Shrine 10/12 ]
“ ด้วยผลของ การ์ดใบนี้จะให้ส่ง Mystic Card ใบหนึ่งในสนามกลับคืนสู่สำรับ
จากนั้นจะฟื้นค่า Mp ให้เท่ากับ ค่าร่ายของ Mystic Card นั้น ขอส่ง ความชอบธรรม เลจิทิมาซี่
กลับเข้าสำรับ และฟื้นค่า Mp อีก 4 หน่วย ”
สิ้นคำ ภาพการ์ด เลจิทิมาซี่ ที่ปรากฏอยู่บนสนามก็ สลายกลับเป็นละอองพร้อมกับ คัมภีร์
และกลับขึ้นไปยังมือของเธอ ก่อนจะแยกส่ง คัมภีร์แห่งวารีไม่สิ้นสุด ไปยัง Shrine และ ใส่เลจิทิมาซี่
กลับเข้าสำรับ และสลับก่อนเสียบกลับเข้าไปในช่องของปลอดแขน
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic5 Mp 9/7 Shrine 10/12 ]
“ จากนั้น Cost Mp 5 เพื่อร่าย Seal ”
ลูเซีย ประกาศ พร้อมกับ เตรียมตั้งท่าจะโยนการ์ดออกไป ทว่า อิส ก็แทรกขึ้นมา
“ แต่ว่า ด้วยผลจาก ไม้เท้า บาราอัม เธอจะต้องจ่ายค่า Cost ของการร่าย Seal เพิ่มอีก 1 จุด ”
อิส แย้ง พร้อมกันนั้น ค่า Cost ที่ลูเซีย ประกาศก็ถูก เพิ่มขึ้นไปอีก 1 หน่วยทำให้เธอต้องจ่ายค่า Cost เพื่อ
อัญเชิญ อสูร ถึง 6 หน่วย
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic5 Mp 3/7 Shrine 10/12 ]
“ นึกว่าอะไร ซะอีก แค่อัญเชิญ อสูร ระดับสูงออกมาแล้วมันยังไงกันล่ะ เหลือ Mp แค่ 3 ไม่มีทาง
โค่น รามอน ที่มีค่า At 13 ได้หรอก ”
อิส สบถอย่างสะใจ ก่อนที่จะต้องอ้าปากค้างไปเมื่อ ร่างของ อสูรที่ปรากฏออกมานั้น คือทูตสวรรค์ผู้ซึ่งมาพร้อมกับ
พิณดีดเครื่องใหญ่สองเครื่องพาดไปบนร่างของ นางรัศมีแสงสว่างไสว ที่เปล่งออกมาพร้อมกับท่วงทำนอง
ที่นางเริ่ม ขับกล่อม ได้ทำให้ มิติซึ่งปกคลุทไปด้วยความมืด สลายไป เธอและ เค้ากลับมายัง ระเบียงทางเดิน
คฤหาสน์ในตอนแรกดังเดิมแล้ว โดยที่มี ร่างของ ทูตสวรรค์ เปล่งรัศมีแสงไล่ความมืด
ที่ยังหลงเหลืออยู่ออกไป แสงสว่างจ้ำแสบตาเสียจน อิส ต้องยกมือขึ้นป้องมัน
“ อัญเชิญ อสูรเทพ ทูตสวรรค์แห่งเดลิเวอร์แบนด์ ชิริเอล(Shiriel, the Angel of Deliver Band) สู่ At Line ”
ลูเซีย ประกาศ ก้องยามเมื่อ อสูร เทพผู้ปกปักษ์วงดนตรีแห่งความหวัง เป็นดั่งผู้พิทักษ์สุดท้ายนสำรับของเธอ
ได้ปรากฏกายขึ้น
“ อ…อสูรเทพ ชิริเอล งั้นหรือ?! ”
อิส เปรยเสียงเรียบนิ่ง ดวงตาทั้งสองได้แต่จดจ้องกับรูปลักษณ์อันสง่างามของ ชิริเอลไปชั่วขณะราวกับต้องมนต์สะกด
“ แต่ว่า ถึงจะเป็น อสูรเทพ ก็เถอะเธอไม่มี Mp พอจะให้ โจมตีแล้ว ถ้ารอบต่อไป.. ”
อิส พยายามจะแย้ง แต่ทว่า เธอก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน ที่จะแย้งจบ
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic5 Mp 3/7 Shrine 10/12 ]
“ เดี๋ยวก่อน ไพ่ตายของฉันน่ะมันต่อจากนี้ต่างหาก ”
ลูเซีย พูดพร้อมกับ หยิบเอา มิสติกการ์ดบนมือร่ายออกมา
“ Cost Mp 3 ร่าย Mystic Synchronize ฟอจูน ฟอร์ซ (Fortune Force) ”
ลูเซีย ประกาศ พร้อมกันนั้น มิสติกที่ร่ายออกมานั้น ก็ปรากฏภาพขึ้นบนสนาม
อำนาจของมัน ก่อให้เกิดแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นเหนือสนามแข่ง เป็นรัศมีวงกลมดั่งดวงตะวัน
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic4 Mp 0/7 Shrine 10/12 ]
“ Mystic Synchronize งั้นรึ?! ”
อิส ทวนคำเวยความประหลาดใจ กับการ์ดที่ ลูเซีย ใช้
“ Mystic Snychronize จะสามารถร่ายออกมาใน Step ใดๆก็ได้ โดยไม่ต้องพึ่ง Interfere Step แต่จะต้องจ่ายค่า Cost
พิเศษของเงื่อนไข Synchronize ให้ด้วย นั่นคือจะต้องกำจัด การ์ด Mystic บนมือ ออกไปจากเกมกี่ใบก็ได้โดยให้
ค่าร่ายของ Mystic ที่กำจัดไป รวมแล้วเท่ากับค่าที่กำหนด ของ Mystic Synchronize นั้นๆ ด้วย ”
ลูเซีย อธิบายไปด้วยระหว่างที่นับรวมการ์ดบนมือที่เหลือมิสติกเพียง 4 ใบ
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic0 Mp 0/7 Shrine 10/12 ]
“ ค่า Synchronize ของ ฟอจูน ฟอร์ซ คือ 7 ดังนั้น ฉันขอกำจัด เฮอร์คิวลิส(Hercules),
กระบี่เขายูนิคอร์น(Unicorn Horn Rapier),ดาบมิททิล(Mythirl Sword)และ
No Skill ทั้งหมด 4 ใบบนมือ ออกไปจากเกม ”
ลูเซีย กล่าวพร้อมกับ แสดงมิสติกทั้งหมดที่เหลืออยู่บนมือก่อนจะเก็บออกไป
ตอนนี้เธอไม่เหลือ Mp และ การ์ดบนมืออีกแล้ว
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 11/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic0 Mp 0/7 Shrine 10/12 ]
“ จากนั้นให้ผลของ ฟอจูน ฟอร์ซ ทำงานกำจัด Seal ใบหนึ่งในสนามออกไปจากเกม ฉันเลือก ชิริเอล ”
สิ้นคำ ร่างของ ชิริเอล ก็ลอยหายลับขึ้นไปยัง ที่ที่รัศมีของแสง แห่ง ฟอจูน ฟอร์ซ ส่องลงมา
“ กำจัด อสูรเทพ ที่อุตส่าห์เรียกมา ซะเองเนี่ยนะ ”
อิส อุทาน ทว่าลูเซีย ก็แย้งขึ้นมา
“ ยังไม่หมดแค่นั้น จากนั้นกำจัด Seal ในShrine ของผู้เล่นฝ่ายใดก็ได้ ออกไปจำนวนใบเท่ากับ เลเวลของ
Sealที่กำจัดไป ชิริเอล มีเลเวล 5 ดังนั้น ฉันขอกำจัด มาร์วิน ทั้ง 5 ใบที่อยู่ใน Shrine ของนาย ออกจากเกม ”
ลูเซีย ประกาศ พร้อมกันนั้นการ์ดมาร์วิน ทั้ง 5 ใบทีถูกเก็บอยู่ในช่อง Shrine ของ เค้าก็ถูกส่งคืนออกมา
“ แล้วก็ อัญเชิญ Seal จาก Remove Zone ของฝ่ายใดก็ได้เข้ามาในสนามของฉัน ได้เท่ากับจำนวน
ที่กำจัดออกไปเมื่อกี้ด้วย ดังนั้น ฉันจึงขอเรียก มาร์วิน ทั้ง 5 ใบเมื่อกี้ที่กำจัดออกไปขึ้นมาบนสนามฝั่งฉัน ”
ลูเซีย อธิบายจบแสงสว่างแห่ง ฟอจูน ฟอร์ซ ก็ผลันเปล่งประกายเจิดจ้าลงมาจนทั่วทั้งสนามกลายเป็น
สีขาวไปวูบหนึ่งก่อนจะจางลง และปรากฏร่างของ มารืวินทั้ง 5 แบบขึ้นมาบนสนามของเธอ
“ อัญเชิญ จอมดาบเวทย์มาวิน(Zechariah Marvin, the Swords Magician), ผู้อัญเชิญอสูรมาร์วิน(Zechariah Marvin, the Summoner) ,ผู้พิทักษ์คนทรงมาร์วิน(Zechariah Marvin, the Guardian Shaman) ,ผู้วิเศษมาร์วิน(Zechariah Marvin, the Wonderer) และ นักปราชญ์มาร์วิน(Zechariah Marvin, the Magus)
ขึ้นมายัง At Line ”
ลูเซีย ประกาศ จบ มาร์วิน ทั้งหมด ก็ตั้งท่าพร้อมที่จะโจมตีทันีทต่างกระชับอาวุธของตนกันให้มั่น
“ ถึงจะเรียกพวกตัวกระจอก ออกมาก็ล้ม รามอน ไม่ได้หรอกน่า ”
อิส ตะคอกดูเหมือนว่าผู้บงการเค้าจะหัวเสียขึ้นมาซะแล้ว
“ ยังหรอกผลของ ฟอจูน ฟอร์ซ ยังไม่หมดแค่นั้น Seal ที่เรียกขึ้นมาด้วยผลนี้จะได้รับค่า At เพิ่มและลดค่า Cost Mp
ทุกอย่างลงเท่ากับจำนวนของ Seal ที่เรียกออกมา มาร์วินที่เรียกมาทมีทั้งหมด 5 ตัวดังค่า At จึงเพิ่มขึ้น 5
หน่วยและทำให้mp Cost ทั้งหมด กลายเป็น 0 เพราะไม่มีค่า Cost มากกว่านั้นแล้ว ”
ลูเซีย กล่าวผลของการ์ดนั้น ทำให้ เค้าถึงกับอึ้งไปอีกชั่วขณะ
“ คราวนี้ล่ะ ถึงเวลาไคลแมกซ์แล้ว ” จอมดาบเวทย์มาร์วิน พูดพร้อมกับคึกแบบสุดๆ
“ จะเอาคืน เป็นร้อยเท่าเลย ” ผู้อัญเชิญอสูรมาร์วิน พูดพร้อมกับชี้หน้า อีกฝ่าย
“ ความแข็งแกร่งของข้าจะทำให้เจ้าต้องร้องไห้! ” ผู้พิทักษ์คนทรงมาร์วิน กล่าวพร้อมกับบิดคอแก้เส้นยึด
“ อยู่ตรงนั้นสินะ….อยู่สินะ ” ผู้วิเศ มาร์วิน ก็ยังคงถามคำถามเดิมแบบหดหู่อยู่เหมือนเดิม
“ จุติอย่างดงาม ได้เวลาส่งพวกเจ้าไปลงนรกล่ะนะ ” นักปราชญ์มาร์วิน เปรยพร้อมกับวาดมือไปมาอย่างสง่างาม
“ ทำได้ดีเหมือนกันนี่ ยัยม้าดีดกะโหลกเอาล่ะทีนี้เรามาช่วย หมอนั่นกันเถอะ ”
“ ใครเป็นยัยม้า ดีดกระโหลกกันยะ ”
จอมดาบเวทย์ มาร์วิน ชมเธอ แต่ดูเหมือนคำพูดจะออกไปทางเหน็บแนมเสียมากกว่า ทำเอา ลูเซีย ต้องตะคอกสวนไป
“ แหะๆ พี่สาวเนี่ยไว้ใจได้จริงๆด้วย ”
ผู้อัญเชิญ อสูรมาร์วิน ชมพร้อมกับยกนิ้วให้เธอ
“ ข้าเชื่อมั่นในตัวจ้าเสมอนั่นแหละ ”
ผู้พิทักษ์คนทรงมาร์วิน กล่าวแข้งๆทื่อๆ
“ องค์หญิง จะต้องทำได้ข้าเองก็เชื่อเช่นนั้น ”
นักปราชญ์มาร์วิน เอ่ยพร้อมกับ หันมาโค้งให้เธอ
“ อยู่สินะ…อยู่ตรงนั้นสินะ ”
ผู้วิเศษมารืวิน ยังคงหดหู่อยู่เหมือนเดิม
“ อืม..อยู่สิ ”
ลูเซีย รับคำของ ผู้วิเศษ มาร์วิน ขึ้นเสียเฉยๆ ทำเอา ทั้งวงหันมามองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
“การที่ยังมีความเชื่อมั่นนั้น เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ตอนนี้"ยังอยู่ที่นี่" ”
ลูเซีย พูดขึ้นก่อนจะชี้ไปยัง ร่างของ อิส ที่ยืนประจันษ์หน้าอยู่กับเธอ
“ เธอน่ะ..อยู่ที่นั่นใช่รึเปล่า!! ”
ลูเซีย ถามเสียงก้อง
“ อยู่สิ…ฉัน…อยู่ตรงนี้ที่นี่ ”
เสียงของ อิส ดังลั่นขึ้นมา โดยที่ร่างของ เค้ายังไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย มันเป็นเสียงของเค้าจริงๆ
ในขณะที่ร่างต้น ซึ่งถูกบงการอยู่ก็ลนหันซ้ายทีขวาทีเพื่อหาว่าเสียงนั้นมาจากไหน
และที่สุดก็รู้แล้วว่า มันดังออกมาจาก ปลอกแขนที่ตนสวมอยู่
“ เสียงยังดังฟังชัดดีอยู่นี่ แสดงว่ายังสบายดีอยู่ ถ้างั้นรอก่อนนะ เราจะไปช่วยเดี่ยวนี้ล่ะ ”
จอมดาบเวทย์ มาร์วิน กล่าวจบก็ กระชับดาบในมือเตรียมบุกทันที
“ ให้ จอมดาบเวทย์มาร์วิน โจมตีไปที่ รามอน ”
ลูเซีย ประกาศ จบ จอมดาบเวทย์ มารืวิน ก็บุกตะลุยเข้าไปทันที พร้อมกับหลบ ลำแสงเวทยื
ที่ รามอน ยิงสวนมาไปพลางด้วย
“ ถึงจะมีค่าพลังเพิ่มเพราะผลของ ฟอร์จูน ฟอร์ซ ก็เถอะ แต่ค่า At ของ จอมดายเวทย์มาร์วิน มี 12 หน่วย
แต่ของ รามอน มี 13 ยังเอาชนะ ข้าไม่ได้หรอก ”
เสียงของ ผู้บงการดังลั่น ทว่า ไม่ทันไร ก็ปรากฏ คัมภีร์หนังสือซึ่งมีหน้าปกเป็นรูปมังกรขดตัวอยู่
ขึ้นในสนาม ก่อนที่จะลุกเป็นไฟและส่งเปลวเพลิงนั้น มาสถิตย์กับดาบเวทย์ ที่ จอมดาบเวทย์มาร์วิน
เสกมาถืออยู่ จนกลายเป็นดาบเพลิง
“ จอมดาบเวทย์มาร์วิน นั้นเมื่อโจมตีก็จะสามารถนำอา Mystic สวมใส่(PS) จาก Shrine ขึ้นมาติดตั้งให้
ได้ใบหนึ่ง คัมภีร์เวทย์มนต์อิคนิส(Ignis Magic Book) ที่ฉันทิ้งไปตอนการ์ดบนมือเกินจำนวน นี่ จะเพิ่มพลัง
ให้กับ ธาตุไฟที่ติด โดยเพิ่มค่า At ขึ้น 2 หน่วย แต่ลด ค่า Sp ลง 2 หน่วย ดังนั้นค่าพลังของ จอมดาบเวทย์มาร์วิน
คือ 14 หน่วย ”
ลูเซีย อธิบาย ไปพลางโบกการ์ด มิสติกที่เอาขึ้นมาสวมให้มาร์วิน ไปพลาง
“ Sword Magic Fire!! ”
จอมดาบเวทย์มาร์วิน และ ลูเซีย ประกาศขึ้นพร้อมๆกัน ก่อนที่ จอมดาบเวทย์ จะหยุด
ยืนห่างจาก รามอน ไม่มากนัก และร่ายเวทย์ สร้างดาบซึ่งห่อหุ้มด้วย เปลวเพลิงจากคัมภีร์เวทย์
แยกออกเป็น 7 เล่มและแทงมันลงไปยังร่างของ รามอน จนแตกสลายไปในที่สุด
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 6/12 ]
[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic0 Mp 0/7 Shrine 10/12 ]
“ และเมื่อหมดรอบที่ ฟอจูน ฟอร์ซ ทำงาน จะต้องส่ง Seal ทั้งหมดที่เรียกมาด้วย การ์ดนี้ไปยัง Shrine ”
ลูเซีย พูดจบก็หันไปมอง ยังเหล่า มาร์วิน ที่หันมามองเธอด้วยเช่นกัน รวมไปถึง ผู้วิเศษมารืวิน ที่ตอนนี้
ดูจะสดใสขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะคำพูดของเธอ
“ ยังอยู่ที่นี่…จริงๆด้วยสินะ ”
ผู้วิเศษมาร์วิน กล่าวก่อนจะสลายร่างของตนไปพร้อมกับ มาร์วิน ตนอื่นๆ
“ พี่สาวแล้วเจอกันอีกน้า ”
ผู้อัญเชิญอสูรมาร์วิน พูดพร้อมกับ โบกมือลา
“ พวกข้าเองก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยล่ะ ”
ผู้พิทักษ์คนทรงมาร์วิน กล่าวขณะที่กำลังหายไป
“ นั่นก็คือพวกเราไม่ได้หายไปหรอกนะ องค์หญิง ขอโทษที่ต้องหลอกกันด้วย ”
นักปราชญ์มาร์วิน โค้งให้ก่อนจะหายไป
และเมื่อ ถึงตาที่ จอมดาบเวทย์มาร์วิน จะหายไปนั้น เค้าไม่ได้พูดอะไร แต่ยกนิ้วส่งให้เธอ
แทนคำพูดก่อนจะหายไป
“ และในตอนนี้ มาร์วินทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปยัง Shrine ของเจ้าของการ์ด ดังนั้น จะต้องรับ ความเสียหายไปด้วย ”
ลูเซีย พูดจบละอองแสงที่ออกมาจากร่างของ มาร์วิน ทั้ง 5 ก็ถาโถมเข้าใส่ ร่างของอิส ซึ่งถูกบงการเอาไว้
“ ครั้งนี้ จะคืนให้ก่อนก็ได้ เพราะนึกไม่เหมือนกันว่า ควีน ออฟ ดูม(Queen of Doom) อย่างเธอจะมาสุงสิง
กับคนแบบนี้หึๆๆๆ ”
เสียงของ ผู้บงการดังขึ้นก่อนจะหมดสติไป ร่างของ อิส ล้มลงพร้อมกันกับการดวลได้จบลงโดย ลูเซีย เป็นฝ่ายชนะ
[Iss Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 16/12 ] Lose
[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic0 Mp 0/7 Shrine 10/12 ] Win
“ อิส!! ”
ลูเซีย ตะโกน พร้อมกับวิ่งเข้าไปรับร่างของเค้าก่อนที่จะล้มลงไปกระแทกพื้น
“ ขอบคุณ…นะ..คุณลูเซีย ”
…………………………..
………………………………………….
………………………………………………………………………..
Card Pop!!
สำหรับช่วงนี้จะมา สครีมการ์ด สุดเด่นประจำตอนนี้กัน การ์ดนั่นก็คือ
[Fortune Force] นั่นเองคร้าบ เอาล่ะมาดุกันเถอะว่าการ์ดใบนี้มันทำอะไรได้บ้าง ถ้าอ่าน text การ์ดแบบเล็กกระจิ๋วเดียว
นี่คงปวดตาแหง เพราะงั้นเลยขยายมาให้อ่านกันชัดไปเลย
[Remove Seal 1 ใบในสนามที่มีLv X ; Remove
SealในShrineของทุกคนรวมกัน X ใบ ; นำSealในRemove Zoneของฝ่ายใด
ก็ได้ เข้ามาในสนามฝ่ายเรา X ใบและSealนั้นAt + X และMp Cost -X เมื่อ
จบSub-Turn ทำลายSeal ที่นำเข้ามาด้วย Fortune Force ทั้งหมด]
พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ การ์ดทำงาน 3 สเตปด้วยกัน สเตปแรก รีมูฟ ซีลก่อนแล้ว เอาเลเวลมา รีมูฟซีลในShrine ของใครก็ได้
จำนวนใบก็ตามเลเวลนั้น จากนั้นก็เรียกออกมาเท่ากับที่ รีมูฟไปแล้วเพิ่มพลังให้บ้ากันสะใจไปเล้ยยยย~~~~
Tip For SMN VR TAG
สำหรับช่วง Tip นี่การุรุม่อนขอรับหน้าที่มาอธิบายนะฮ่ะ ว่ากันด้วยเรื่องของ Engine พิเศษ
ที่เราเพิ่มเข้าไปในเรื่องเพื่อทำการ์ดมิสติกแบบใหม่ที่เรียกว่า Synchronize Mystic
มาดุกันดีกว่า ไอ้ สิ้นคิดไนซ เอ้ย ซิงโครไนซ เนี่ยมันทำอะไรได้บ้าง
-สามารถร่ายใน Step การเล่นใดๆก็ได้ โดยไม่ต้องพึ่ง Interfere Step มาช่วย
-จะต้อง Remove Mystic บนมือ ออกไปให้จำนวนค่าร่ายของ Mystic ที่Remove ออกไปมีค่ารวมเท่ากับที่กำหนด
ดูเผินๆ ไอ้ข้อแรกเนี่ยก้โกงอยู่หรอกตรงที่ร่ายมันเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไอ้เงื่อนไขข้อ 2 เนี่ยยุ่งยากชะมัด อ่านในเรื่องเอาบางคนอาจจะยังไม่เก็ทว่ามันกำหนดตัวเลขไว้ตรงไหน ถ้างั้นขอให้ท่านสังเกตุเลข 7 ตัวเบ้อเริ่มบนกรอบขาวใต้ชื่อการ์ด
ดูสิท่านเอย ขณะเดียวกัน ใต้กรอบล่างที่จะบอกประเภทของ Tarot การ์ดก็จะกลายเป็น Synchronize
ไปด้วย ส่วนวิธีสังเกตว่าอันไหนเป็นการ์ด ซิงโครนี่ก็ดูตรงที่มีสัญลักษณ์ อินเตอร์เฟียร์ จะเห็นเป็นรูปลูกศร
วิ่งไล่หางกันอยู่ นั่นล่ะฮ่ะ
สรุปแม้ความสามารถของ Synchronize จะโกงถึงโกงมากยังไงก็ตามแต่ มันก็ยังมีเงื่อนไขที่ทำใหใช้ยุ่งยากอยู่ดี
เพราะนอกจากค่าร่ายปกติแล้วยังต้องมา รีมูฟมิสติกบนมืออีกทำให้การ์ดขาดมือเอาง่ายๆ อย่างลูเซีย เนี่ยจะใช้ ฟอจูน ฟอร์ซ ที
ยังต้องมูฟมิสติกไปทีเดียว 4 ใบหมดมือเลย นี่ดีนะที่ มารืวินไฟ มีอบิลิตี้ แปะการ์ดไม่งั้นแพ้ไปแหล่ว
จากนี้ไปเป็นช่วงสครีมโดย ผู้เขียน เกรม่อนคุง
คือหลังเขียนตอนนี้เสร็จ ก็เลยมีความในใจอยากจะบอกทุกท่านครับ………………VR Tag ของเราจะตัดจบแค่ตอนนี้
…………………. แฮ่ล้อเล่นคร้าบบไม่ตัดจบหรอก ขืนตัดจบคงหัวหลุดแหงเหอๆ สำหรับตอนนี้ ตัวผมเองมีความกังวลมากเลยว่า การที่อยู่ๆก็ออกการ์ดที่มีความสามารถโกงอภิมหาแบบนี้ ขึ้นมาจะมีคนคิดไหมหนอว่ามันจะน่าเบื่อขึ้นเป็นกองเลย เพราะยังถ้ามีไอ้นี่ก็ชนะขาดลอยอยู่ดี ก็เลยคิดเงื่อนไขของมันให้ใช้ยากๆหน่อย
ไปๆมาๆ ก็ไหนๆเรื่องของเรามีการ ซิงโครสร้างการ์ดซีลไปบ้างแล้ว ก็เลยทำมิสติกซิงโครบ้าง แต่เปลี่ยนเงื่อนไขกันหน่อย
เลยได้ไอเดียมาจาก มอนสเตอร์ ซิงโครของยูกิ เนี่ยแหละไอ้การกำจัดมอนรวมดาวแล้วเรียกซิงโครมอน
เราก็เลยเนียนจับมันมายัดรวมซะ เป็นของใหม่ไปเลย เหอๆ ว่าแล้ววันนี้ไปล่ะขอรับเจอกัอาทิตย์หน้าเน้อ~~