Welcome Guest: เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. มี.ค. 28, 2024 6:00 pm

หน้าเว็บบอร์ด ส่วนของผู้เล่น SMN FanCard FanArt & FanFic [Fanfic Novel] "Heaven Tears" EP.3 - "จดหมายของแม่"

สำหรับลงรูปแฟนอาร์ตและนิยายแต่งเองของชาวSMNครับ

[Fanfic Novel] "Heaven Tears" EP.3 - "จดหมายของแม่"

โพสต์โดย Feanore เมื่อ พุธ ก.ย. 21, 2022 9:04 pm

หลังจากเตรียมกระดาษและปากกา​ พร้อมได้ตั้งโต๊ะบนเตียงให้แก่ซูไลก้าแล้ว​ ฟาริดได้เข้าไปนั่งบนเก้าอี้ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พระแท่นบรรทม

"ขอท่านพี่ได้โปรดรักษาคำสัตย์ซึ่งให้ไว้ต่อน้องสาวคนนี้ด้วยเถิด"

"พี่ชายคนนี้ขอสัญญา"

จากนั้น​.. ฟาริดได้ตั้งสมาธิอยู่ในความเงียบ หลับตาตั้งจิต​ ได้ปล่อยให้สายลมพัดผ่านห้องบรรทมอย่างเอื่อยเฉื่อย

ส่วนพระนางซูไลก้า​ได้เริ่มต้นเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษ

นางหลับตาลงชั่วขณะ​ ก่อนที่จะใช้ปากกาจุ่มลงขวดหมึก...

[อิสมาคาอิน​ ลูกรักของแม่

ระหว่างที่ลูกอ่านจดหมายนี้​ แสดงว่าแม่ของลูกนั้นได้สิ้นบุญ​ ลาจากโลกใบนี้ไปแล้ว...

แม่ไม่อาจจะให้คำตอบหรือว่าเรื่องราวใดๆที่ลูกนั้นได้มีความสงสัยในช่วงที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ได้​ แม่ไม่อาจจะทำได้จริงๆ​ เพราะตระหนักดีว่า..ทุกๆสิ่งที่แม่ทำลงไปนั้น​ ไม่ควรที่จะให้ลูกของแม่ได้รับรู้...

หลายๆสิ่ง​ มันยังคงทำให้จิตใจของแม่นี้ปวดร้าวด้วยความผิดบาป​แม่ได้ทำความผิดต่อพ่อของลูก แม่นี้ทำผิดอย่างมหันต์​ ผิดทั้งต่อคำสัญญา​ กระทำด้วยความใจเร็วด่วนได้​ ผิดจนแม้พ่อของลูกให้อภัย​ หากแต่แม่ไม่อาจจะให้อภัยตัวเอง...]

เมื่อเขียนถึงจุดนี้.. ซูไลก้าได้หลับตา หวนนึกถึงชายคนหนึ่งที่กำลังตำหนิเธอ​อย่างรุนแรง​ ก่อนที่ชายคนนั้นจะทรุดลงด้วยความปวด​ ทั้งนึกถึงตอนที่เธอถลาเข้าไปรับที่ร่างของชายคนนั้น​ ร้องไห้อย่างปริเวทนาด้วยตระหนักถึงความผิดบาปแห่งการที่ผิดคำสัญญา​ ด้วยความใจเร็วด่วนได้ของนางเอง

ถึงแม้ว่าชายคนนั้นจะฟื้นตัว​ และกล่าวให้อภัยต่อนาง​ แต่ภายในใจของซูไลก้ากลับไม่อาจจะให้อภัยตัวเอง​ ถึงแม้ว่านางจะตั้งท้องกับเขา.. และชายคนนั้นได้เดินทางจากไป​ นางกลับไม่รั้งเขาเอาไว้​ ก็ด้วยเพราะรู้ว่า การบีบคนที่เขาไม่ได้รักเรา​ บีบบังคับให้เขานั้นยังได้อยู่ในพันธนาการแห่งความหม่นหมอง..คือบาปอย่างที่สุดสำหรับนาง

[ลูกเอ๋ย... แม่นั้นไม่ได้อยากเล่าเรื่องนี้ให้ลูกแม่ได้รับรู้เลย ที่แม่เขียนลงไปนี้​ คือเพื่อจะให้ลูกได้รู้ว่า​ บาปของคนๆหนึ่ง​ หากว่ากระทำต่อใครแล้ว​ คนที่จะกล่าวให้อภัยได้​นี้ ก็คือผู้ถูกกระทำ​ ถึงแม้ว่าจะสารภาพต่อเบื้องหน้าพระเจ้าแล้ว​ แต่หากผู้กระทำไม่ให้อภัย​ มันจะยังคงเป็นบาปต่อฝั่งผู้กระทำอยู่ดี

และผู้ที่กล่าวให้อภัยต่อตัวของแม่ได้​ มีแต่ลูกของแม่เท่านั้น...]

ซูไลก้าได้เขียนเนื้อหาอย่างไม่รู้จบ​ แต่ละข้อความที่ได้เขียนลงไป​ ในใจนางที่เคยเจ็บปวดเริ่มจะทุเลาลง​ นางตระหนักว่า​ความหนักอึ้งในจิตใจของนางนั้น​ มันได้เริ่มแตกออกราวกับนํ้าที่มันไหลซะลงหินจนกร่อน​แล้วแตกกระจาย...

[เอาล่ะ​ เกริ่นมาเสียยาวแล้ว​ หากแม่มัวแต่เขียนอย่างนี้​ เรื่องคงยาวจนอาจจะใช้กระดาษหลายแผ่น แม่จะเขาเรื่องเลยแล้วกัน

ลูกแม่นี้คงจะคิดว่า​พ่อแท้ๆของ​ลูก​ จักรพรรดิ์อิสฮานได้สวรรคตเมื่อนานมาแล้ว... ตอนที่ลูกยังเด็กอยู่​ ลูกเห็นแค่พระพักตร์​ที่ไม่ชัด​เจน และเข้าใจว่า​ ด้วยพระพลานามัยนั้นไม่แข็งแรงพอ​ เสด็จพ่อของลูกนี้จึงได้สวรรคตไปอย่างกระทันหัน​ และรวดเร็วเกินจะทำใจได้ไหว

แต่ความจริงแล้ว​ พ่อของเจ้ายังมีชีวิตอยู่...]

เมื่อถึงจุดนี้​ ซูไลก้าได้หยุดมือไปชั่วขณะ​ นึกถึงอดีตที่ผ่านมาอีกครั้ง​ ก่อนจะเขียนเรื่องราวต่อไป...

[พ่อของลูกตอนนี้​อาศัยอยู่ที่ในแคว้นฟูดินัน​ มีภรรยาและลูกชายกัยหญิง​ ซึ่งล้วนแต่เป็นพี่น้องพ่อเดียวกันทั้งนั้น​ แม่รู้เรื่องนี้มาโดยตลอด​ ล่วงรู้ตลอดมา​ แต่ไม่อาจจะพูดได้​ เพราะว่าบาปที่แม่ทำเอาไว้กับเสด็จพ่อของลูก

หากว่าลูกเกิดสงสัยว่า​ลูกแม่เป็นลูกชายแท้ๆของแม่กับเสด็จพ่อของลูกหรือเปล่า​ล่ะก็ แม่นี้ขอสาบานต่อพระเจ้า​ ต่อตัวแม่ที่หากผิดคำโกหก​ ก็ขอให้ทัณฑ์ทุกประการลงที่แม่​

ขอได้พูดตรงนี้เลยว่า.. ลูกชายของแม่คนนี้​ ก็คือพระโอรสองค์เดียวขององค์จักรพรรดิ์อิสฮา​น​ ที่เกิดจากแม่​ พระพันปีหลวงซูไลก้าแห่งซาโลม

หากเพียงแต่การถือกำเนิดของลูกนั้น...มันได้เกิดขึ้นมาจากความไม่เต็มใจของบิดาของลูก

ลูกแม่... ทุกสิ่งมันเกิดมาจากความไม่ลงรอยทางการเมืองในยุคของแม่​... ในยุคสมัยที่แม่นั้นยังคงเป็นเจ้าหญิงแห่งแคว้นลาซาล​

ในตอนนั้นพระอัยกาของลูก​ เสด็จตาเยซีฮานนั้นทรงได้หมายมั่นที่ตั้งพระทัยอย่างยิ่งยวดที่จะทรงได้รวมแคว้นลาซาลกับจักรวรรดิซาโลมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

และแผนการครั้งนั้นจะสำเร็จลงได้​ มันเนื่องด้วยการแต่งงานระหว่างแม่กับเสด็จพ่อของลูก​ จักรพรรดิ์อิสฮาน

แต่ว่าเสด็จของลูกนั้นเป็นผู้ซื่อสัตย์ต่อความรัก​ ทรงตั้งปณิธานจะมีคนรักเพียงคนเดียวไปชั่วชีวิต​ ทรงมีความรักต่อองค์หญิงวานาอันแห่งอาณาจักรใหม่ฟูดินัน​ ซึ่งในตอนนั้นได้มาประทับคอยดูแลจักรพรรดิ์อิสฮานอยู่ที่ซาโลม

หลังจากสงครามสี่อาณาจักรได้ยุติลง​ ถึงเวลาที่ต้องรักษาบาดแผลจากสงคราม​ บิดาของลูกทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการฟื้นฟูดินแดนซาโลมอย่างหนักหน่วง​ จนแม้ต้องหักข้อกับเหล่าขุนนางขี้ฉ้อทั้งหลาย​ พระองค์ก็ไม่กลัว

แต่ว่าเรื่องนั้นไม่หนักหนาสำหรับเสด็จพ่อของลูก​ แต่ว่าที่หนักหนานั้น​ นั่นคือระหว่างแม่กับพ่อของลูกต่างหาก

เสด็จตาเยซีฮาน​ได้บีบบังคับให้พ่อของลูกนี้แต่งงานกับแม่ แต่ว่าพ่อของเจ้าไม่ยอม​ เสด็จตาของลูกจึงได้อ้างถึงกฎมณเฑียรบาลแห่งซาโลมว่า​ มเหสีหรือองค์จักรพรรดินีแห่งซาโลม​ จะต้องมาจากในกุลสตรี​ ซึ่งเป็นชาวซาโลมหรือเชื้อสายซาโลมเท่านั้น

ในขณะชายาจากแคว้นอื่นจะไม่มีสิทธิ์​ดำรงตำแหน่งนั้น​ มีสิทธิ์​ได้เป็นแค่บาทบริจาริกาในวงศาฮาเร็มของราชตระกูลเท่านั้น

ตอนที่ได้ยินในเรื่องนี้ิ​ พ่อของลูกตกใจอย่างมาก​ พ่อไม่เคยคิดที่จะเอาหญิงอื่นใดๆมาทำแบบเหมือนอย่างซาดิน​ เสด็จปู่ของลูกเลยแม้แต่นิดเดียว​

พ่อของลูกได้คัดค้านหัวชนฝา​ จะไม่ยอมรับข้อเสนอแบบนั้นเด็ดขาด

แต่เสด็จของตาของลูกเองนั้นก็ไม่ยอมในเรื่องนี้ิ​ และเสด็จตาของลูกรู้ดีว่าแม่นั้นมีใจให้พ่อเจ้า... จึงได้เข้าใช้มาตรการบังคับตาม​กฎ​มณเฑียรบาล​และในความสัมพันธ์​ทางการเมือง​ เข้าบังคับพ่อของเจ้า

สงครามกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง​ หากแม่นี้ไม่ทำอะไรซักอย่าง...

เพื่อหยุดปัญหา​ แม่จึงได้ออกความเห็นว่า​ ควรให้แม่กับพ่อของลูก​ คบหาดูใจกัน​ 7​ ปี​ เหมือนๆอย่างที่พ่อของลูกได้คบหาดูใจกับองค์หญิงวานาอันถึง​ 7​ ปี​ ถ้าหากว่ามันไม่อาจลงรอย​ ก็จะถือว่าสัญญาหมั้นนี้เป็นโมฆะ​ แต่ว่าความสัมพันธ์​สองแคว้นจะยังเป็นเช่นเดิม

พ่อของลูกและเสด็จตาเยซีฮานตอบรับข้อเสนอนี้ในครั้งนี้​ ในขณะที่องค์หญิงวานาอันเองได้ทรงรับทราบในข้อตกลง​นี้​ และทรงกราบบังคมทูลลากลับแคว้นฟูดินัน

แม่ยังจดจำใบหน้าที่เศร้าหมองของเสด็จพ่อของลูกได้อย่างดี...]

ซูไลก้าได้เขียนไปเรื่อยๆ​ ในขณะที่ความทรงจำเก่าได้หลั่งไหลเข้ามา

[ในช่วงแรก​ๆ​ เสด็จพ่อของเจ้านี้ยังคงรักษาระยะห่างจากแม่​ ด้วยตระหนักถึงความซื่อสัตย์ในความรักนั้นของตน

พ่อของเจ้ารักษาตัวเองเป็นอย่างดี.. ในขณะที่เขานั้นพยายามรักษาจิตใจของแม่​ด้วย ทั้งๆที่มันก็ไม่จำเป็นเลย​ เพราะแม่นั้นรู้ตัวดีว่า​ พ่อของเจ้ารักใคร แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ยังรักษาจิตใจของแม่ไว้อย่างไม่ให้บอบชํ้าเพราะเขา

จะให้แม่นั้นไม่รู้สึกอิจฉาได้อย่างไร​ ในความคิดของแม่​นี้​ พ่อของลูกนั้น​คือยอดสภาพบุรุษ​ที่ดีที่สุด​ ซึ่งแม่พร้อมจะมอบความรักให้อย่างไม่อิดออด

แต่แม่มาเจอช้าเกินไป.. พ่อของลูกมีความรักต่อผู้อื่น​ ไม่ได้รักแม่ในแบบคนรัก​ ตัวแม่นั้่นทั้งเจ็บปวด​ เจ็บใจ​ อิจฉาองค์หญิงวานาอันยิ่งนัก

ใครๆต่างบอกแม่นี้ว่าเป็นหญิงเหล็ก​ เป็นยอดวีรสตรีแห่งเปลวเพลิง​ แต่ความจริงแล้ว​ แม่เป็นเพียงแค่สตรี​ เป็นสตรีผู้อ่อนแอ​ ผู้ที่อยากจะมีใครมาคอยดูแลเคียงข้างเหมือนคนธรรมดาทั่วไป

ในบางเวลานั้น​ แม่อ่อนแอ​ อ่อนแอจนแม้แต่แรงที่ลุกขึ้นยังแทบไม่มี​เลย เป็นเพียงมนุษย์​คนหนึ่งในโลกที่กว้างใหญ่และอ้างว้าง

ราวกับจิตใจมืดดำ​ ดูราวกับว่าปีศาจเข้าสิง​ แม่รู้ว่าตัวเองทำอะไร​ แต่ใจของแม่กลับไม่ยอมห้ามตัวเอง​ ทำในสิ่งที่ไม่สมควรให้อภัย

แม่นั้นได้ฉวยจังหวะในตอนที่จิตใจของเสด็จพ่อของลูกอ่อนแอ​ วางยาเสน่ห์พ่อของลูก​ โดยที่พ่อของลูกนั้นไม่ทันรู้ตัว

...พ่อหลงเสน่ห์แม่จากฤทธิ์ของ​ยารักร้ายนั่น​ พ่อของลูกไม่อาจควบคุมสติของเขาเอาไว้ได้.. มันเป็นตามที่แม่ต้องการ​ พ่อ​เขานั้นได้ขืนใจของแม่​ ทำในสิ่งที่แม่ต้องการ​ ถึงแม้ว่าภาพที่พ่อของลูกเห็นนี้จะเป็นวานาอัน​ คนรักของเขาก็ตามที...

แม้จะดูเหมือนแม่คนชั่วร้าย​ แต่นั่นก็เพราะแม่ยังเป็นวัยดรุณี​ ไม่ได้เข้าใจในความผิดบาปแห่งราคะซึ่งมันเกิดจากการบังคับขืนใจของคนที่ไม่ได้สมยอม ตอนนั้นแม่ดีใจด้วยซํ้าที่สามารถลวงพ่อเจ้าได้สำเร็จ...]

นํ้าตาหยดหนึ่งได้หลั่งลงที่บนแผ่นกระดาษ​ โชคดีที่ไม่ได้โดนตรงตัวอักษร​ ซูไลก้าได้นึกถึงที่ไปในช่วงเวลานั้น​ นํ้าตาได้หลั่งลงไปอีกหนึ่งหยด

แต่ถึงอย่างนั้น​ นางก็สงบใจและเขียนต่อไป...

[หลังจากที่ลูกได้อ่านมาถึงจุดนี้... แม่ได้หวังว่าลูกจะไม่โกรธแม่​ และต่อให้ลูกจะโกรธแม่​ แม่ก็คงไม่ถือสา​ ด้วยเพราะเวรกรรมมันทำงานอย่างรวดเร็วนัก...

เพราะว่าสิ่งที่แม่ได้รับคืนมา หลังจากที่พ่อของเจ้าได้รับรู้ความจริงในเรื่องนี้ิ... นั่นคือความโกรธแค้นอย่างสุดขีดจากพ่อของเจ้า

พ่อของเจ้าโกรธ​แค้นยิ่งนัก​ แม่ไม่เคยเห็นพ่อของเจ้านั้นโกรธใครถึงขนาดนี้​ คำพูดและนํ้าเสียงนั้นรุนแรงยิ่ง​ แต่ว่าใบหน้ากลับเจ็บปวดรวดร้าว​ มันได้ราวกับว่า​ ตัวของเขากำลังตระหนักว่า​ ตนทำบาปหนาเกินอภัยลงไป

พ่อของเจ้าชิงชังแม่ยิ่งนัก​ แต่ทว่ายังไม่ได้ทำอะไรลงไป... มันดูราวว่าเพลิงแห่งความแค้นนั้นได้เผาผลาญวิญญาณ​ของเขา​ พ่อของลูกได้ทรุดลงสลบไป​ แม่ได้รีบไปรับพ่อเจ้า​ ทั้งพยายามปลุกแล้ว​ พ่อของเจ้าก็ไม่ฟื้น

แม่ตระหนักตัวในตอนนั้นเองว่าทำอะไรลงไป...

ความชั่วในใจแม่นี้ได้ทำในสิ่งที่เลวร้าย​ ความรักของแม่นั้นมันได้ทำร้ายคนที่แม่รักอย่างสุดหัวใจเสียเอง ได้ทำความผิดบาปอย่างมหันต์

ในระหว่างที่พ่อของลูกล้มป่วยนั้น​ แม่ได้แต่เฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง​ ร้องห่มร้องไห้ทุกครั้งเมื่อเห็นสภาพอันน่าเวทนาของพ่อเจ้า

แต่ใจของแม่กลับทุกข์ระทมหนัก​ทุกครั้งๆ​ เมื่อนึกถึงในตอนที่แม่นั้นได้ทำเรื่องเลวร้ายกับพ่อของลูก...

ขอโทษ​ ขอโทษ​ ขอโทษ​ อภัยบาปให้ข้าด้วยเถิด...]

ซูไลก้าตัวสั่นเทิม​ เมื่อเขียนถึงตรงจุดนี้

นางได้แต่ฝืนทนเพื่อจะเขียนมันลงไป​ และนางนั้นจะพยายามเขียนต่อไป

ด้วยเรื่องราวยังหาได้จบลงแค่นี้ไม่...
Feanore
0
 
โพสต์: 5
Cash on hand: 50.00

ย้อนกลับไปยัง SMN FanCard FanArt & FanFic

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน

cron