หลังจากเตรียมกระดาษและปากกา พร้อมได้ตั้งโต๊ะบนเตียงให้แก่ซูไลก้าแล้ว ฟาริดได้เข้าไปนั่งบนเก้าอี้ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พระแท่นบรรทม
"ขอท่านพี่ได้โปรดรักษาคำสัตย์ซึ่งให้ไว้ต่อน้องสาวคนนี้ด้วยเถิด"
"พี่ชายคนนี้ขอสัญญา"
จากนั้น.. ฟาริดได้ตั้งสมาธิอยู่ในความเงียบ หลับตาตั้งจิต ได้ปล่อยให้สายลมพัดผ่านห้องบรรทมอย่างเอื่อยเฉื่อย
ส่วนพระนางซูไลก้าได้เริ่มต้นเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษ
นางหลับตาลงชั่วขณะ ก่อนที่จะใช้ปากกาจุ่มลงขวดหมึก...
[อิสมาคาอิน ลูกรักของแม่
ระหว่างที่ลูกอ่านจดหมายนี้ แสดงว่าแม่ของลูกนั้นได้สิ้นบุญ ลาจากโลกใบนี้ไปแล้ว...
แม่ไม่อาจจะให้คำตอบหรือว่าเรื่องราวใดๆที่ลูกนั้นได้มีความสงสัยในช่วงที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ได้ แม่ไม่อาจจะทำได้จริงๆ เพราะตระหนักดีว่า..ทุกๆสิ่งที่แม่ทำลงไปนั้น ไม่ควรที่จะให้ลูกของแม่ได้รับรู้...
หลายๆสิ่ง มันยังคงทำให้จิตใจของแม่นี้ปวดร้าวด้วยความผิดบาปแม่ได้ทำความผิดต่อพ่อของลูก แม่นี้ทำผิดอย่างมหันต์ ผิดทั้งต่อคำสัญญา กระทำด้วยความใจเร็วด่วนได้ ผิดจนแม้พ่อของลูกให้อภัย หากแต่แม่ไม่อาจจะให้อภัยตัวเอง...]
เมื่อเขียนถึงจุดนี้.. ซูไลก้าได้หลับตา หวนนึกถึงชายคนหนึ่งที่กำลังตำหนิเธออย่างรุนแรง ก่อนที่ชายคนนั้นจะทรุดลงด้วยความปวด ทั้งนึกถึงตอนที่เธอถลาเข้าไปรับที่ร่างของชายคนนั้น ร้องไห้อย่างปริเวทนาด้วยตระหนักถึงความผิดบาปแห่งการที่ผิดคำสัญญา ด้วยความใจเร็วด่วนได้ของนางเอง
ถึงแม้ว่าชายคนนั้นจะฟื้นตัว และกล่าวให้อภัยต่อนาง แต่ภายในใจของซูไลก้ากลับไม่อาจจะให้อภัยตัวเอง ถึงแม้ว่านางจะตั้งท้องกับเขา.. และชายคนนั้นได้เดินทางจากไป นางกลับไม่รั้งเขาเอาไว้ ก็ด้วยเพราะรู้ว่า การบีบคนที่เขาไม่ได้รักเรา บีบบังคับให้เขานั้นยังได้อยู่ในพันธนาการแห่งความหม่นหมอง..คือบาปอย่างที่สุดสำหรับนาง
[ลูกเอ๋ย... แม่นั้นไม่ได้อยากเล่าเรื่องนี้ให้ลูกแม่ได้รับรู้เลย ที่แม่เขียนลงไปนี้ คือเพื่อจะให้ลูกได้รู้ว่า บาปของคนๆหนึ่ง หากว่ากระทำต่อใครแล้ว คนที่จะกล่าวให้อภัยได้นี้ ก็คือผู้ถูกกระทำ ถึงแม้ว่าจะสารภาพต่อเบื้องหน้าพระเจ้าแล้ว แต่หากผู้กระทำไม่ให้อภัย มันจะยังคงเป็นบาปต่อฝั่งผู้กระทำอยู่ดี
และผู้ที่กล่าวให้อภัยต่อตัวของแม่ได้ มีแต่ลูกของแม่เท่านั้น...]
ซูไลก้าได้เขียนเนื้อหาอย่างไม่รู้จบ แต่ละข้อความที่ได้เขียนลงไป ในใจนางที่เคยเจ็บปวดเริ่มจะทุเลาลง นางตระหนักว่าความหนักอึ้งในจิตใจของนางนั้น มันได้เริ่มแตกออกราวกับนํ้าที่มันไหลซะลงหินจนกร่อนแล้วแตกกระจาย...
[เอาล่ะ เกริ่นมาเสียยาวแล้ว หากแม่มัวแต่เขียนอย่างนี้ เรื่องคงยาวจนอาจจะใช้กระดาษหลายแผ่น แม่จะเขาเรื่องเลยแล้วกัน
ลูกแม่นี้คงจะคิดว่าพ่อแท้ๆของลูก จักรพรรดิ์อิสฮานได้สวรรคตเมื่อนานมาแล้ว... ตอนที่ลูกยังเด็กอยู่ ลูกเห็นแค่พระพักตร์ที่ไม่ชัดเจน และเข้าใจว่า ด้วยพระพลานามัยนั้นไม่แข็งแรงพอ เสด็จพ่อของลูกนี้จึงได้สวรรคตไปอย่างกระทันหัน และรวดเร็วเกินจะทำใจได้ไหว
แต่ความจริงแล้ว พ่อของเจ้ายังมีชีวิตอยู่...]
เมื่อถึงจุดนี้ ซูไลก้าได้หยุดมือไปชั่วขณะ นึกถึงอดีตที่ผ่านมาอีกครั้ง ก่อนจะเขียนเรื่องราวต่อไป...
[พ่อของลูกตอนนี้อาศัยอยู่ที่ในแคว้นฟูดินัน มีภรรยาและลูกชายกัยหญิง ซึ่งล้วนแต่เป็นพี่น้องพ่อเดียวกันทั้งนั้น แม่รู้เรื่องนี้มาโดยตลอด ล่วงรู้ตลอดมา แต่ไม่อาจจะพูดได้ เพราะว่าบาปที่แม่ทำเอาไว้กับเสด็จพ่อของลูก
หากว่าลูกเกิดสงสัยว่าลูกแม่เป็นลูกชายแท้ๆของแม่กับเสด็จพ่อของลูกหรือเปล่าล่ะก็ แม่นี้ขอสาบานต่อพระเจ้า ต่อตัวแม่ที่หากผิดคำโกหก ก็ขอให้ทัณฑ์ทุกประการลงที่แม่
ขอได้พูดตรงนี้เลยว่า.. ลูกชายของแม่คนนี้ ก็คือพระโอรสองค์เดียวขององค์จักรพรรดิ์อิสฮาน ที่เกิดจากแม่ พระพันปีหลวงซูไลก้าแห่งซาโลม
หากเพียงแต่การถือกำเนิดของลูกนั้น...มันได้เกิดขึ้นมาจากความไม่เต็มใจของบิดาของลูก
ลูกแม่... ทุกสิ่งมันเกิดมาจากความไม่ลงรอยทางการเมืองในยุคของแม่... ในยุคสมัยที่แม่นั้นยังคงเป็นเจ้าหญิงแห่งแคว้นลาซาล
ในตอนนั้นพระอัยกาของลูก เสด็จตาเยซีฮานนั้นทรงได้หมายมั่นที่ตั้งพระทัยอย่างยิ่งยวดที่จะทรงได้รวมแคว้นลาซาลกับจักรวรรดิซาโลมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
และแผนการครั้งนั้นจะสำเร็จลงได้ มันเนื่องด้วยการแต่งงานระหว่างแม่กับเสด็จพ่อของลูก จักรพรรดิ์อิสฮาน
แต่ว่าเสด็จของลูกนั้นเป็นผู้ซื่อสัตย์ต่อความรัก ทรงตั้งปณิธานจะมีคนรักเพียงคนเดียวไปชั่วชีวิต ทรงมีความรักต่อองค์หญิงวานาอันแห่งอาณาจักรใหม่ฟูดินัน ซึ่งในตอนนั้นได้มาประทับคอยดูแลจักรพรรดิ์อิสฮานอยู่ที่ซาโลม
หลังจากสงครามสี่อาณาจักรได้ยุติลง ถึงเวลาที่ต้องรักษาบาดแผลจากสงคราม บิดาของลูกทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการฟื้นฟูดินแดนซาโลมอย่างหนักหน่วง จนแม้ต้องหักข้อกับเหล่าขุนนางขี้ฉ้อทั้งหลาย พระองค์ก็ไม่กลัว
แต่ว่าเรื่องนั้นไม่หนักหนาสำหรับเสด็จพ่อของลูก แต่ว่าที่หนักหนานั้น นั่นคือระหว่างแม่กับพ่อของลูกต่างหาก
เสด็จตาเยซีฮานได้บีบบังคับให้พ่อของลูกนี้แต่งงานกับแม่ แต่ว่าพ่อของเจ้าไม่ยอม เสด็จตาของลูกจึงได้อ้างถึงกฎมณเฑียรบาลแห่งซาโลมว่า มเหสีหรือองค์จักรพรรดินีแห่งซาโลม จะต้องมาจากในกุลสตรี ซึ่งเป็นชาวซาโลมหรือเชื้อสายซาโลมเท่านั้น
ในขณะชายาจากแคว้นอื่นจะไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งนั้น มีสิทธิ์ได้เป็นแค่บาทบริจาริกาในวงศาฮาเร็มของราชตระกูลเท่านั้น
ตอนที่ได้ยินในเรื่องนี้ิ พ่อของลูกตกใจอย่างมาก พ่อไม่เคยคิดที่จะเอาหญิงอื่นใดๆมาทำแบบเหมือนอย่างซาดิน เสด็จปู่ของลูกเลยแม้แต่นิดเดียว
พ่อของลูกได้คัดค้านหัวชนฝา จะไม่ยอมรับข้อเสนอแบบนั้นเด็ดขาด
แต่เสด็จของตาของลูกเองนั้นก็ไม่ยอมในเรื่องนี้ิ และเสด็จตาของลูกรู้ดีว่าแม่นั้นมีใจให้พ่อเจ้า... จึงได้เข้าใช้มาตรการบังคับตามกฎมณเฑียรบาลและในความสัมพันธ์ทางการเมือง เข้าบังคับพ่อของเจ้า
สงครามกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง หากแม่นี้ไม่ทำอะไรซักอย่าง...
เพื่อหยุดปัญหา แม่จึงได้ออกความเห็นว่า ควรให้แม่กับพ่อของลูก คบหาดูใจกัน 7 ปี เหมือนๆอย่างที่พ่อของลูกได้คบหาดูใจกับองค์หญิงวานาอันถึง 7 ปี ถ้าหากว่ามันไม่อาจลงรอย ก็จะถือว่าสัญญาหมั้นนี้เป็นโมฆะ แต่ว่าความสัมพันธ์สองแคว้นจะยังเป็นเช่นเดิม
พ่อของลูกและเสด็จตาเยซีฮานตอบรับข้อเสนอนี้ในครั้งนี้ ในขณะที่องค์หญิงวานาอันเองได้ทรงรับทราบในข้อตกลงนี้ และทรงกราบบังคมทูลลากลับแคว้นฟูดินัน
แม่ยังจดจำใบหน้าที่เศร้าหมองของเสด็จพ่อของลูกได้อย่างดี...]
ซูไลก้าได้เขียนไปเรื่อยๆ ในขณะที่ความทรงจำเก่าได้หลั่งไหลเข้ามา
[ในช่วงแรกๆ เสด็จพ่อของเจ้านี้ยังคงรักษาระยะห่างจากแม่ ด้วยตระหนักถึงความซื่อสัตย์ในความรักนั้นของตน
พ่อของเจ้ารักษาตัวเองเป็นอย่างดี.. ในขณะที่เขานั้นพยายามรักษาจิตใจของแม่ด้วย ทั้งๆที่มันก็ไม่จำเป็นเลย เพราะแม่นั้นรู้ตัวดีว่า พ่อของเจ้ารักใคร แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ยังรักษาจิตใจของแม่ไว้อย่างไม่ให้บอบชํ้าเพราะเขา
จะให้แม่นั้นไม่รู้สึกอิจฉาได้อย่างไร ในความคิดของแม่นี้ พ่อของลูกนั้นคือยอดสภาพบุรุษที่ดีที่สุด ซึ่งแม่พร้อมจะมอบความรักให้อย่างไม่อิดออด
แต่แม่มาเจอช้าเกินไป.. พ่อของลูกมีความรักต่อผู้อื่น ไม่ได้รักแม่ในแบบคนรัก ตัวแม่นั้่นทั้งเจ็บปวด เจ็บใจ อิจฉาองค์หญิงวานาอันยิ่งนัก
ใครๆต่างบอกแม่นี้ว่าเป็นหญิงเหล็ก เป็นยอดวีรสตรีแห่งเปลวเพลิง แต่ความจริงแล้ว แม่เป็นเพียงแค่สตรี เป็นสตรีผู้อ่อนแอ ผู้ที่อยากจะมีใครมาคอยดูแลเคียงข้างเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
ในบางเวลานั้น แม่อ่อนแอ อ่อนแอจนแม้แต่แรงที่ลุกขึ้นยังแทบไม่มีเลย เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งในโลกที่กว้างใหญ่และอ้างว้าง
ราวกับจิตใจมืดดำ ดูราวกับว่าปีศาจเข้าสิง แม่รู้ว่าตัวเองทำอะไร แต่ใจของแม่กลับไม่ยอมห้ามตัวเอง ทำในสิ่งที่ไม่สมควรให้อภัย
แม่นั้นได้ฉวยจังหวะในตอนที่จิตใจของเสด็จพ่อของลูกอ่อนแอ วางยาเสน่ห์พ่อของลูก โดยที่พ่อของลูกนั้นไม่ทันรู้ตัว
...พ่อหลงเสน่ห์แม่จากฤทธิ์ของยารักร้ายนั่น พ่อของลูกไม่อาจควบคุมสติของเขาเอาไว้ได้.. มันเป็นตามที่แม่ต้องการ พ่อเขานั้นได้ขืนใจของแม่ ทำในสิ่งที่แม่ต้องการ ถึงแม้ว่าภาพที่พ่อของลูกเห็นนี้จะเป็นวานาอัน คนรักของเขาก็ตามที...
แม้จะดูเหมือนแม่คนชั่วร้าย แต่นั่นก็เพราะแม่ยังเป็นวัยดรุณี ไม่ได้เข้าใจในความผิดบาปแห่งราคะซึ่งมันเกิดจากการบังคับขืนใจของคนที่ไม่ได้สมยอม ตอนนั้นแม่ดีใจด้วยซํ้าที่สามารถลวงพ่อเจ้าได้สำเร็จ...]
นํ้าตาหยดหนึ่งได้หลั่งลงที่บนแผ่นกระดาษ โชคดีที่ไม่ได้โดนตรงตัวอักษร ซูไลก้าได้นึกถึงที่ไปในช่วงเวลานั้น นํ้าตาได้หลั่งลงไปอีกหนึ่งหยด
แต่ถึงอย่างนั้น นางก็สงบใจและเขียนต่อไป...
[หลังจากที่ลูกได้อ่านมาถึงจุดนี้... แม่ได้หวังว่าลูกจะไม่โกรธแม่ และต่อให้ลูกจะโกรธแม่ แม่ก็คงไม่ถือสา ด้วยเพราะเวรกรรมมันทำงานอย่างรวดเร็วนัก...
เพราะว่าสิ่งที่แม่ได้รับคืนมา หลังจากที่พ่อของเจ้าได้รับรู้ความจริงในเรื่องนี้ิ... นั่นคือความโกรธแค้นอย่างสุดขีดจากพ่อของเจ้า
พ่อของเจ้าโกรธแค้นยิ่งนัก แม่ไม่เคยเห็นพ่อของเจ้านั้นโกรธใครถึงขนาดนี้ คำพูดและนํ้าเสียงนั้นรุนแรงยิ่ง แต่ว่าใบหน้ากลับเจ็บปวดรวดร้าว มันได้ราวกับว่า ตัวของเขากำลังตระหนักว่า ตนทำบาปหนาเกินอภัยลงไป
พ่อของเจ้าชิงชังแม่ยิ่งนัก แต่ทว่ายังไม่ได้ทำอะไรลงไป... มันดูราวว่าเพลิงแห่งความแค้นนั้นได้เผาผลาญวิญญาณของเขา พ่อของลูกได้ทรุดลงสลบไป แม่ได้รีบไปรับพ่อเจ้า ทั้งพยายามปลุกแล้ว พ่อของเจ้าก็ไม่ฟื้น
แม่ตระหนักตัวในตอนนั้นเองว่าทำอะไรลงไป...
ความชั่วในใจแม่นี้ได้ทำในสิ่งที่เลวร้าย ความรักของแม่นั้นมันได้ทำร้ายคนที่แม่รักอย่างสุดหัวใจเสียเอง ได้ทำความผิดบาปอย่างมหันต์
ในระหว่างที่พ่อของลูกล้มป่วยนั้น แม่ได้แต่เฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง ร้องห่มร้องไห้ทุกครั้งเมื่อเห็นสภาพอันน่าเวทนาของพ่อเจ้า
แต่ใจของแม่กลับทุกข์ระทมหนักทุกครั้งๆ เมื่อนึกถึงในตอนที่แม่นั้นได้ทำเรื่องเลวร้ายกับพ่อของลูก...
ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ อภัยบาปให้ข้าด้วยเถิด...]
ซูไลก้าตัวสั่นเทิม เมื่อเขียนถึงตรงจุดนี้
นางได้แต่ฝืนทนเพื่อจะเขียนมันลงไป และนางนั้นจะพยายามเขียนต่อไป
ด้วยเรื่องราวยังหาได้จบลงแค่นี้ไม่...