Welcome Guest: เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก วันเวลาปัจจุบัน พุธ ก.ค. 02, 2025 2:27 pm

หน้าเว็บบอร์ด Wiser Summoner Novel ★เรื่องย่อ Stardust ★

อ่านนิยาย Summoner Master Episodeต่าง ๆ ได้ที่นี่

Moderator: Jinger Ginger


★เรื่องย่อ Stardust ★

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ จันทร์ มี.ค. 17, 2025 7:09 pm

★เรื่องย่อ Stardust ★

เรื่องราวการตามหาละอองดาว (Stardust) ที่ตกลงมาจากฟากฟ้า

ตามตำนานว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนเคยมีฝนดาวตกในแถบแอนดิซอง บางส่วนสลายไปก่อนกลางอากาศ บางส่วนตกบนแผ่นดินและกลายเป็นสมบัติล้ำค่าที่ถูกผู้คนตามหาจนแทบหมดจากแผ่นดิน แต่บางเศษเสี้ยวตกลงมหาสมุทรอันเป็นสมบัติที่มนุษย์เอื้อมไม่ถึง ละอองดาวนี้มีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่าง โดยพื้นฐานคือมีแสงสว่างในตัวเองอย่างดาวฤกษ์ และ บางดวงก็อาจมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างเพิ่มเติมขึ้นมาจากละอองดาวชิ้นอื่น เพราะสถานที่ที่มันตกลงไปไม่ธรรมดาและทำปฏิกิริยาบางอย่างแก่กัน จึงเกิดคุณสมบัติเพิ่มโดยบังเอิญ จึงมักมีการระบุสถานที่ที่พบในการเรียกสตาร์ดัชแต่ละชิ้นเพื่อแยกแยะว่า มันคือชิ้นไหนกันแน่

ในปีครบรอบ507ปีของสถาบัน เซนต์ อไควนัส อคาเดมี ก็ได้เกิดเหตุที่ทำให้ชื่อเสียงของสถาบันนี้ถูกเล่าขาน เมื่อมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งได้สร้างวีรกรรมเล็กๆ แม้พวกเขาไม่ได้ตั้งใจเป็นตำนาน แต่สถานการณ์ก็สร้างวีรบุรุษ จากการตามหาละอองดาวตกกลายเป็นการเผชิญหน้าจอมเวทย์มารที่ทุกคนคิดว่าเป็นเพียงเรื่องราวในตำรา

ไรน์ เด็กที่ดูแสนจะธรรมดา ลูกชายพ่อค้าแห่งเมืองท่ามิราบิลิส จนเมื่ออายุได้8ขวบ เขาพลัดตกจากท้ายเรือสินค้าขณะติดตามพ่อเดินทางทะเลไปแอนดิซอง และขณะกำลังจะตาย เขาพบเงือกลึกลับมาช่วยชีวิต แล้วเหมือนส่งต่อพลังบางอย่างแก่เขา และทำให้ผมของเขากลายเป็นสีฟ้า เมื่อกลับบ้านเรื่องของไรน์เริ่มดังไปทั่ว เหล่าแพทย์ทั้งนักเวทย์นักวิทย์ พากันมาตรวจสอบเขา ความน่าจะเป็นจึงสรุปได้ว่าเครือญาติทางแม่ของเขาที่มีเชื้อสายแอนดิซองอาจมีเชื้อสายเงือกด้วยก็ได้ แต่กระนั้นผมสีฟ้าของเชื้อสายเงือกมักมีตั้งแต่เกิดและเกิดจากครอบครัวที่แต่งงานในเครือญาติที่มีเชื้อสายเงือกด้วยกัน แต่กรณีไรน์ตระกูลของเขาเป็นการข้ามมาแต่งข้ามประเทศจนเชื้อสายน่าจะอ่อนจนไม่เกิดปรากฎการณ์แบบนี้ได้แล้ว และเขายังสีผมเปลี่ยนตอนโตแล้วไปอีกไรน์สืบเสาะจนพบว่า ครอบครัวของแม่เขานั้นอาจมีบรรพบุรุษที่มีเชื้อสายเงือกจริงๆ และเกี่ยวข้องกับการตามหาละอองดาว ที่ตกลงในมหาสมุทรในสมัยนั้น

นอกจากการผ่านประสบการเฉียดตาย ทำให้ไรน์เป้นเด็กใจกล้าบ้าบิ่นขึ้นแแล้ว ไรน์ยังได้รับคุณสมบัติพิเศษเมื่อผมเปลี่ยนสีฟ้ามาด้วย คือ การสามารถสื่อสารกับสัตว์ธาตุน้ำได้ดี และทำให้เขาก้าวเข้าสู่การเป็นเด็กเลี้ยงมังกร โดยเมื่อเริ่มด้วยการเลี้ยงมังกรน้ำก็ทำให้เขาก้าวหน้าได้เร้วกว่าคนอื่นมาก ไรน์จึงคิดว่า จะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นในภาควิชามังกรศาสตร์ของเซนต์อไควนัส อคาเดมี่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก แต่การศึกษาในภาควิชาระดับสูงของสถาบัน มีข้อกำหนดหนึ่งคือนอกจากคะแนนและผลการเรียนของวิชาต่างๆที่ระบุ ผู้สมัครต้องสำเร็จภารกิจระดับBขึ้นไป ขององค์กร เควสมาสเตอร์แห่งเมอริเซีย ซึ่งไรน์ก็ไม่คิดว่าเรื่องนั้นจะยากเย็นเกินไปสำหรับเขา แต่เพราะว่าเขาดันได้เห็นเควสระดับSภารกิจหนึ่ง ที่ผู้ออกทุนให้ตามหาสมบัติระดับสูง1ชิ้น และมันคือ ละอองดาว ชื่อของสิ่งที่เกี่ยวพันกับชาติกำเนิดของเขานั่นเอง

ผู้ให้ทุนในภารกิจเควสนี้คือ ฟีโลมีน่า นักบวชฝึกหัดอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่มีพรพิเศษในการสื่อสารกับทูตสวรรค์ที่อารักขาเธอได้ ฟีโลมีน่าได้รับคำชี้แนะจากทูตสวรรค์ประจำตัวของเธอ และ ดาร์คเดสตินี่ลึกลับตัวหนึ่ง ดาร์คเดสตินี่ เป็น แมวดำบินได้ในโลกแห่งเงาที่คอยแจกจ่ายชะตากรรมให้มนุษย์ ดาร์คเดสตินี่นี้เป็นผู้แจกจ่ายชะตากรรมให้บุคคลในตำนาน คือเนโครแมนเซอร์ดซอร์เซส 1ใน4 จอมเวทย์แห่งความตาย ผู้ได้สมญาว่าอหังการแก่งเงา เจ้าแมวดำบินได้นี้ล่วงรู้แผนที่เซอร์เซส หวังใช้แสงสว่างไม่รู้ดับของละอองดาว ในการบุกเข้ายึดโลกแห่งเงา โลกอันมืดมิดที่ตนเคยรุกล้ำในอดีต เซอร์เซสมีความอยากกลับเข้าไปยึดครองโลกอันไร้ขอบเขตและเชื่อมต่อกับโลกทั้งหลายนี้ มานาน และเมื่อรู้ว่า มีละอองดาวชิ้นหนึ่งเก็บรักษาไว้ที่เลอมูเรีย ทวีฟใต้สมุทรของเหล่าเงือก ก็วางแผนอยากได้ครอบครัง แต่แผนนี้ถูกนำมาบอกฟีโลมีน่า เธอจึงประกาศเควสตามหาละอองดาว โดยหาสมาชิกเพื่อเข้าทำเควส และได้มีเด็กผมสีฟ้า คือไรน์นั่นเอง เห็นภารกิจนี้และสมัครเข้ามา ฟีโลมีน่าจ้างชาช่า นักธนูสาวเข้าร่วมทีม และไรน์ได้ชวนเพื่อเก่าอย่าง ทาโคด้า สมิงเสือโคร่ง จากฟูดินัน มาร่วมด้วย

ในระหว่างภารกิจนั้น ปรากฎว่า เจ้าชายฟีเนกันจากลีเซียประเทศใกล้มิราบิลิส ซึ่งราชวงศ์ใหม่ของตนเพิ่งยึดอำนาจปกครองลีเซียมาได้ไม่นาน กำลังเสื่อมความนิยม เพราะการปกครองไม่ได้ดีกว่าราชวงศ์เก่า แถมจะย่ำแย่กว่าด้วย จึงต้องการช่วยเหลือพระบิดาสร้างความนิยมจากประชาชนให้พวกตน เจ้าชายฟินเนกัน ก็ดูเหมือนจะสนใจตำนานเก่าแก่เรื่องละอองดาว เพราะคุณสมบัติของมันคือแหล่งพลังงานอันไม่สิ้นสุด หากเขาได้แหล่งพลังงานแบบนี้ นอกจากมีพลังงานใช้ในประเทศมากมายยังอาจขายให้ประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย เท่านี้บัลลังค์ของพ่อของเขาก็จะมั่นคงขึ้น และคืนความชอบธรรมว่าสามารถกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้จริงๆ

ด้วยความที่ละอองดาวนั้นไม่ได้อยู่ในประเทศตน แต่อยู่ในน่านน้ำประเทศอื่น การยกทัพลงไปอย่างโจ่งแจ้งก็ทำไม่ได้ จึงเป็นการตั้งกองกำลังลับกลุ่มเล็กๆเพื่อจารกรรมละอองดาวใต้สมุทร แต่ปรากฎว่า ภารกิจนี้ถูกจดทะเบียนเป็นเควสระดับสูงขององค์กรเควสมาสเตอร์แล้ว ในโลกเทร่า ประวัติศาสตร์การเกิดขึ้นของกระบวนการเควสมาสเตอร์ถูกพัฒนาต่อเนื่องยาวนานมานับพันปี ทำให้ในเควสสำคัญบางเควส จะมีผู้ศักดิ์สิทธิ์จากต่างมิติเฝ้าพิทักษ์ เพื่อให้การแข่งขันทำเควส เป็นไปอย่างราบรื่น ทางเดียวที่จะลงไปหาสมบัตินี้ได้โดยมีผลกระทบน้อยที่สุด คือ การเข้าร่วมแข่งทำเควสนี้ ซึ่งหากชนะก็จะทำให้ได้ละอองดาวมาอย่างชอบธรรมด้วย พวกไรน์จึงต้องแข่งกับทหารระดับมืออาชีพ ซึ่งภารกิจนี้ก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก

จุดได้เปรียบของกลุ่มไรน์มีเพียงอย่างเดียวคือ การที่เขาสื่อสารกับพวกสัตว์ธาตุน้ำได้ดี และ การที่เขาสืบทราบข่าวจากแหล่งข่าวในมหาสมุทรได้โดยตรง ไรน์ได้รู้ว่าตอนนี้ ละอองดาวแห่งมหาสมุทร อยู่ในการดูแลของชาวเงือกแห่งทวีปเลอมูเรีย อาณาจักรเงือกใต้มหาสมุทร และในเวลานี้ มังกรยักษ์จอร์มอนการ์ด ในประวัติศาสตร์ของแอนดิซองเมื่อหลายร้อยปีก่อน ได้เปลี่ยนมาทำหน้าที่พิทักษ์วิหารลับใต้สมุทรแห่งเลอมูเรีย หลังจากที่ราชินีวิโอเรียได้ปลดปล่อยมัน แล้วส่งมอบการดูแลให้เหล่าเงือกจอมขมังเวทย์สามพี่น้องแห่งมหาสมุทร คือ ลูเซียน่า ลินดา และลอร่า

เมื่อไรน์ได้พยายามติดต่อกับชาวเงือกใต้สมุทร เขาก็พบว่าในทุกทางออกมีปัญหา เพราะในเวลานั้น มีกระแสขัดแย้งทางสังคมการเมืองในกลุ่มเงือก คือมีเงือกบางกลุึ่มที่เกลียดชังและต่อต้าน การร่วมเผ่าพันธุ์ หรือมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดมีลูกครึ่งเงือกที่หากเลือกใช้ชีวิตเป็นมนุษย์บนโลก มักจะเป็นผู้มีพลังเวทย์น้ำที่เข้มแข็ง และมีพรสวรรค์ แต่หากลงมาอยู่ใต้สมุทรมักเป็นเงือกที่อ่อนแอ และ มีสติปัญญาความคิดบางอย่างแบบมนุษย์ ที่เหล่าเงือกมองว่ามันไร้ประโยชน์ และอาณาจักรเงือกไม่ได้ต้องการ จึงมีทั้งกลุ่มเงือกฝ่ายขวา ที่ต้องการกำจัดพวกลูกครึ่งเงือกออกไปจากสังคมเงือก โดยขับไล่ให้กลับไปใช้ชีวิตบนบกไป หรือ ในกรณีที่เป็นเงือกหัวรุนแรง อาจถึงขั้นเข่นฆ่า และมีการรังเกียจการแต่งงานกับเงือกที่มีเชื้อสายมนุษย์ปะปน แม้จะผ่านไปหลายรุ่น แต่หากมีการขุดเจอเรื่องราวสายตระกูลที่ปนมนุษย์เข้ามาก็อาจถูกรังเกียจจากกลุ่มนี้ แต่ในประชากรเงือก ก็ยังแบ่งเป็นฝ่ายเงือกเสรี ที่สนับสนุนให้เปิดกว้าง และยอมรับความหลากลาย และเห็นคุณค่าความสำคัญหรือประโยชน์จากสติปัญญาที่มีทักษะแปลกๆบางอย่างที่เงือกทั่วไปมีไม่มาก และกลุ่มที่เป็นกลางๆ ก็ยังคงเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดอยู่

ความแตกต่างทางความคิดนี้ แม้มีปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรงมากถึงขั้นเข่นฆ่าทำร้ายอย่างอุกอาจโจ่งแจ้ง เพราะกลุ่มเงือกที่รักมนุษย์คอยขัดขวาง และเฝ้าระวังกัน จนเกิดเป็นกลุ่มเงือกที่คอยซัพพอตเหล่าเงือกที่มีเชื้อสายมนุษย์ปะปน แต่เมื่อมีเด็กมนุษย์ผมสีฟ้า โดยสารมังกรน้ำลงมาติดต่อกับเงือกบางคน ก็ถูกจับตาโดยเงือกหัวรุนแรงบางตน และเมื่อข่าวลือแพร่ไป ก็มีเงือกบางตนอยากสังหารเจ้าเด็กมนุษย์ผมสีฟ้าที่ลอบเข้ามาในเลอมูเรีย หนึ่งในนั้นคือแม่ทัพเงือก อิงจีมาร์ ผู้เกลียดชังมนุษย์มาก

ทางเดียวที่จะเข้าสู่อาณาจักรเงือกโดยไม่สะดุดผิดสังเกต จึงต้องเป็นเงือกเท่านั้น ลมหายใจของเงือกเป็นไอเท็มสำคัญที่จะใช้เมื่อลูกครึ่งเงือกกับมนุษย์เลือกจะใช้ชีวิตเป็นเงือกใต้ท้องสมุทร โดยอาคม และลมหายใจของเงือกในราชวงศ์สายเลือดแท้ จะทำให้ลูกครึ่งเงือกมีร่างกายเป็นเงือกถาวรที่ใช้ชีวิตในน้ำได้ แต่ไรน์ไม่ได้อยากเป็นเงือกไปตลอด และเขายังต้องตามหาละอองดาวเพื่อการศึกษาต่อ ไรน์ได้รับการแนะนำความลับจาก มาช่า นางเงือกสาวผู้ที่แม่ของเธอก็เป็นลูกครึ่งเงือกกับมนุษย์ แม่ของเธอเคยเล่าให้ฟังว่าในครั้งที่ตนเองทำพิธีเพื่อเป็นเงือก ได้เกิดเรื่องขึ้น คือเธอสูดเอาลมหายใจของนางพญาเงือกเข้าไปไม่หมด ทำให้เมื่อเธอเป็นเงือกไประยะหนึ่งก็เริ่มกลับไปเป็นมนุษย์เหมือนเดิม เธอจึงต้องทำพิธีใหม่ จึงจะได้เป็นเงือกถาวรสมใจ ดังนั้นถ้าไรน์ไม่สูดเอาลมหายใจเข้าไปหมด ก็อาจเป็นเงือกแค่ชั่วคราวได้ แต่ปัญหาอีกอย่างคือ ไรน์ไม่ใช่ลูกครึ่งเงือก เชื้อสายเงือกของไรน์น่าจะจางมากเมื่อนับชั่วอายุ แล้วการเกิดผมสีฟ้า ก็เกิดอย่างแปลกประหลาด และจากที่ไรน์เล่ามา เขาอาจเคยได้ลมหายใจเงือกจำนวนหนึ่งไปตั้งแต่ตอนตกน้ำนั้นจนทำให้เป็นมนุษย์ที่เหมือนลูกครึ่งเงือกแต่ไม่ทันที่จะกลายเป็นเงือกไปเลย การใช้ลมหายใจของเงือกแบบไม่ตรงตามตำราแบบนี้ อาจสำเร็จตามต้องการ หรืออาจเกิดผลอื่นๆที่ไม่คาดคิด สุดท้ายไรน์ก็ยอมเสี่ยงเพราะคิดว่าต่อให้กลายเป็นเงือกถาวร ก็จะใช้เวทย์มนต์อาคมที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ของเงือกขึ้นไปเรียนต่อบนแผ่นดินเอาก็ได้

แม้การต่อสู้กับกลุ่มทหารอาชีพของเจ้าชาย ทีมของไรน์และฟีโลมีน่าจะแทบเอาตัวไม่รอด แต่ทั้งการสามารถผ่านด่านของจอร์มอนการ์ดด้วยการคุยภาษามังกรโดยไม่ต่อสู้รุนแรง(จอร์มุนการ์ดไปถล่มเรือดำน้ำของเจ้าชายแทน) และการแปลงเป็นเงือกเข้าเลอมูเรีย ทำให้ไรน์ทำภารกิจนี้สำเร็จ แต่สิ่งสำคัญที่ไรน์ได้มาและรู้สึกว่าช่างยิ่งใหญ่กว่านั้นคือการได้เจอบรรพบุรุษชาวเงือกของตนเอง ซึ่งตอนนี้ได้เป็นเจ้าชายแห่งเลอมูเรียไปแล้ว และเป็นเขาเองที่เคยเข้าไปช่วยไรน์ตอนตกน้ำในวัยเด็ก เจ้าชายบอกว่า ละอองดาวคือสมบัติสำคัญของเลอมูเรียแล้ว และมันคือตัวล่อให้จอร์มุนการ์ดมีอารมณ์สงบอยู่รอบๆวิหารแห่งแสงสมุทร หากเอาไป จะต้องกลับไปใช้พลังเวทย์ล่อมันแทนซึ่งหากนานเกินไปก็อาจไม่สามารถควบคุมได้ตลอด และหากมันกลับอาละวาดหรือโกรธคลั่งขึ้นมาด้วยเหตุใดๆ ก็ย่อมจะเกิดหายนะทั้งใต้น้ำและแผ่นดินชายทะเลทั้งหมดทั่วทวีป ดังนั้นเมื่อไรน์นำละอองดาวไปเพื่อให้ผ่านการศึกษา ต้องสัญญาว่าจะนำกลับมาคืนโดยเร็ว ซึ่งเวลาที่ขอยืมไปนั้นคือไม่เกิน40วัน40คืน ดังนั้นต้องรีบนำมาคืนไม่เกินเวลานี้

ในที่สุดไรน์ก็สามารถผ่านเข้าเรียนหลักสูตร ผู้ฝึกมังกรระดับโปร ซึ่งสามารถขี่มังกร และใช้วิชามังกรได้หลากหลายมากขึ้น ทางสถาบัน เซนต์ อไควนัส อคาเดมี อยากขอยืมละอองดาวของไรน์จัดแสดงให้บรรดานักศึกษาและนักปราชญ์ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญและคณาจารย์ของสถาบันได้ศึกษาสัก1-2สัปดาห์ พร้อมแสดงระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงของพลังเวทย์ระดับจอมปราชญ์ซึ่งยากจะจารกรรม แม้ไรน์เห็นว่ายังเหลือเวลาอีกหลายสิบวันก่อนกำหนดคืน แต่ก็ไม่อยากประมาท จึงให้เวลาแค่6วันเท่านั้นเพราะเขาไม่อยากให้ชาวเงือกรอนานอยากรีบคืนให้เร็วที่สุด แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็มาถึง แม้แต่ฟีโลมีน่าที่พอจะรู้อยู่ก่อนแต่ก็คิดว่าการอยู่ในค่ายกลเวทย์ของสถาบัน เซนต์ อไควนัส อคาเดมี ยังอาจปลอดภัยกว่า การที่ไรน์จะถือมันเดินทางกับลงมหาสมุทรด้วยซ้ำ สุดท้ายแล้วจอมปราชญ์จากโลกมืดและเหล่าภูติผีปีศาจ ก็สามารถผ่านกับดักค่ายกลเวทย์ทั้งหมดเพื่อขโมยละอองดาวไปจนได้

โลกวิญญาณเป็นสถานการณ์ที่ไรน์และเหล่ามังกรไม่อาจต่อกรได้ง่าย แล้วยิ่งต้องเปิดนรกลงไปเช่นนี้ ทูตสวรรค์ผู้อารักขาของฟีโลมีน่าเพื่อนของไรน์ จึงแนะนำให้พวกเขาขอความช่วยเหลือจาก5ทูตสวรรค์ต้องโทษที่กำลังเก็บแต้มความดีกันอยู่ เพราะด้วยความที่อยู่นอกสังกัดสวรรค์ มีอิสระในการทำภารกิจ จึงแน่ใจว่า พวกไรน์จะได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาอย่างแน่นอน ในเมื่อมีผู้ใช้ผีปีศาจนอกกฎนรก ก็ต้องใช้ทูตสวรรค์นอกกฎสวรรค์เข้าต่อกร

เมื่อทูตสวรรค์ผู้ต้องเทวทัณฑ์รับมือกับเหล่าพญามารจากขุมนรกแต่ละชั้นเพื่อเปิดทางให้ไรน์ลงไป พวกเขาก็ได้พบกับทูตสวรรค์ผู้อารักขาเซอร์เซสที่ซ่อนตัวอยู่ในนรกมาเนิ่นนาน เมื่อเธอพบว่ามีเหล่าทูตสวรรค์อิสระลงมาบุกนรก เธอได้กลับคืนร่างเลิกซ่อนปีกและแสงสว่าง และหาทางช่วยผู้มาทำภารกิจ ชี้ทางให้ไรน์ใช้วิชามังกรกับมังกรที่ตายแล้วตกนรกลงมาให้ได้ เพื่อผู้ฝึกมังกรแบบไรน์จะสามารถสู้เหล่าผีในนรกและเผชิญหน้ากับผู้ใช้ผีอย่างเซอร์เซส เพื่อการนั้นไรน์ต้องตามหาเนโครแมนเซอร์ชาวลีเซียผู้ใช้ศพและวิญญาณมังกรจนโดนสาปให้ตกนรกมานับร้อยปี แต่เขาจะยอมช่วยพวกไรน์หรือไม่ และเด็กแบบไรน์กับทีมของฟีโลมีน่าจะฝ่าขุมนรกก่อนเซอร์เซสจะบุกเข้าโลกแห่งเงาได้หรือไม่ การแย่งชิงละอองดาวนี้ จะเป็นอีกหนึ่งตำนานที่เล่าขานในทวีปเมอริเซียและโลกเทอร์ร่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

ย้อนกลับไปยัง Summoner Novel

ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน