Welcome Guest: เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก วันเวลาปัจจุบัน พุธ ก.ค. 02, 2025 2:19 pm

หน้าเว็บบอร์ด Wiser Summoner Novel Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

อ่านนิยาย Summoner Master Episodeต่าง ๆ ได้ที่นี่

Moderator: Jinger Ginger


Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ ศุกร์ ก.พ. 28, 2025 5:12 am

เรื่องราวของทูตสวรรค์ผู้ต้องถูกลงโทษที่ไม่ได้ถูกบันทึกในคัมภีร์ศาสนา แต่กลับถูกเปิดเผยในบันทึกของ เมฟิส ผู้เป็น1ใน4 เนรโครแมนเซอร์ในตำนาน ผู้หลอกเอาความรู้จากเหล่าภูติผีปีศาจในนรก โดยไม่ต้องสูญเสียวิญญาณไป

แม้เป็นเรื่องเล่าที่เหมือนเทวตำนาน แต่สำหรับเมฟิส นี่คือเรื่องจริงที่ถูกปิดเป็นความลับ เพราะมันมาจากการนินทาความผิดของทูตสวรรค์กลุ่มหนึ่ง โดยอสุราจารย์ของเขา ซึ่งอาจเพียงจะเย้ยหยันความผิดพลาดของเหล่าเทวดาบนฟ้าสวรรค์ แต่มันคือประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงที่เมฟิสเพิ่งจะรู้ว่า เหตุการณ์เป็นไปเช่นนั้นเพราะเหตุผลที่แสนเจ็บปวดและน่าโศกเศร้ายิ่งนัก

Attainder Angel
ผู้ต้องเทวทัณฑ์


จักรวรรดิ์ Migrandia เป็นอาณาจักรที่เรืองอำนาจในทวีปโทร่า ในเวลานั้น จักรพรรดิ์แห่ง มิแกรนเดีย ได้ส่งทัพออกรวบรวมอาณาจักรน้อยใหญ่ทั่วทวีปโทร่าเป็นเมืองขึ้น ในเวลานั้น เมือง Lamisia ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของเมืองน้อยใหญ่ในหมู่เกาะทางตะวันตกของทวีปโทร่าซึ่งอยู่กันอย่างสุขสงบก็ตกเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญเพราะกองเรือแห่งจักรวรรคิ์มิแกรนเดีย ก็ได้ยาตราทัพเข้าประชิดเกาะ ลามิเซีย เพื่อเป็นฐานที่มั่นเข้ายึดอีก 6 เมืองบนหมู่เกาะตะวันตก

ในเวลาทุกข์ยากหรือสงคราม นอกจากชาวโลกจะประหัตประหาร ต่อสู้ แย่งชิง วางแผนการ ด้วยสติปัญญา และ ความทะยานอยาก แต่ในโลกฝ่ายจิตวิญญาณ ก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ปั่นป่วนอย่างมากเช่นกัน เพราะนอกจากความตาย ความทุกข์ ความเศร้า ความโหดเหี้ ยม จะเสริมกำลังเหล่าปีศาจ มารร้ายให้เหิมเกริม ราวกับมหกรรมบันเทิง เหล่าผู้พิทักษ์รักษาวิถีชีวิตและความเป็นไปของโลกในสวรรค์ ก็จะร้อนรน ทุกข์ระทมไปกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เสียงสวดภาวนา ของเหล่าผู้คนที่ทุกข์เข็ญจากไฟสงคราม คำอธิษฐานวอนขอจำนวนมหาศาล ที่ถาโถมสู่สรวงสวรรค์ดั่งห่าฝนของลูกศรแห่งความทุกข์ที่พุ่งจากดินสู่ฟ้า ทูตสวรรค์ที่พิทักษ์รักษาผู้คน บ้านเมือง และประเทศ ล้วนร่วมกันช่วยเหลือผู้คนเท่าที่สามารถ และพยายามทำหน้าที่ปกป้องสิ่งที่พวกท่านพิทักษ์รักษาอย่างสุดกำลัง

เฉกเช่นทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์เมืองท่าของเกาะลามิเซียเมืองท่าที่งดงามด้วยสีเขียวครามแห่งท้องทะเล และบ้านเมืองอันสุขสงบกับเหล่าชาวเมืองผู้บริสุทธิ์ ในเวลาอันวิกฤตนี้ เธอกระชับดาบอันศักดิ์สิทธิ์ชี้ไปยังทัพเรือศัตรู ดวงตาฟ้าครามจ้องมองกองทัพเรือผู้คุกคามที่เข้าประชิดท่าเรือด้วยความเครียดขึง แต่เธอไม่สามารถร่วมการรบ เธอเพียงป้องปรามเหล่าปีศาจที่หวังใช้ความทุกข์ทนของสงครามทำร้ายมนุษย์ หากแต่การของมนุษย์นั้นชาวสวรรค์เข้าแทรกแซงไม่ได้ นอกจากจะได้รับอนุญาต หรือได้รับคำอธิษฐานภาวนาที่มากพอ แต่แล้วเมื่อกระสุนปืนใหญ่ลั่นขึ้น การปะทะบังเกิด เปลวไฟที่เผาเรือลำแล้วลำเล่า และ สายน้ำสาดกระเซ็น กับเสียงโห่ร้องกลองรบเบื้องล่าง เธอได้แต่อดสูใจแต่ไม่อาจแทรกแซงสงครามของมนุษย์ ยังคงชูดาบป้องปรามเหล่ามาร แต่แล้วสิ่งที่เธอเห็นทำให้ลดดาบลง สั่นสะท้าน เพราะสิ่งที่เธอไม่คาดคิด สิ่งที่เหล่าทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์บ้านเมืองแบบเธอล้วนหวาดกลัวจับใจในยามเกิดสงครามของมนุษย์ เพราะนั่นคือสัญญาณว่าสวรรค์แทรกแซงลงมา และหากทว่า การนั้นอยู่ที่ฝ่ายตรงข้าม

ท้องฟ้าแหวกออก อัศวินสวรรค์ผู้พิทักษ์อย่างพิเศษของจักรวรรดิ์มิแกรนเดีย แผ่ปีกบินลงมาพาดฟันเหล่าผีปีศาจอย่างรวดเร็ว และบินพุ่งผ่านเมฆมายังเธอ

"หน้าที่ของท่านหมดลงแล้ว ขอให้ท่านกลับไปสรวงสวรรค์เพื่อรับหน้าที่อื่น"

"เมืองนี้ถึงเวลาจะต้องจบสิ้นแล้วหรือ" เธอถามด้วยความอาดูร

"วาระมาถึงแล้ว" อัศวินสวรรค์ตอบ และเธอสัมผัสได้ถึงความสงบนิ่งของเขา ซึ่งต่างจากการสั่นไหวในความรู้สึกของเธอ เธอพิทักษ์ที่นี่มานานตั้งแต่มันเพิ่งก่อร่างสร้างเมือง มันจึงไม่ง่ายที่จะไม่อาทรใดๆเลย

"แล้วผู้คนล่ะ จะบาดเจ็บล้มตายมากไหม"

"นั่นแล้วแต่การตัดสินใจของพวกเขา หากสวามิภักดิ์โดยเร็วคงจะมีเพียงคนรอดบ้าง แต่หากสู้ ก็อาจจะ...."

ด้วยญาณหยั่งรู้ ทูตสวรรค์ผู้งดงามรู้ดีว่า กองทัพแห่งจักรวรรดิ์มิแกรนเดีย มีแสนยานุภาพมาก และไม่มีทางที่เกาะเล็กๆนี้จะชนะได้เลย แต่ว่าความสูญเสียที่เข้ามาในความหยั่งรู้ของเธอ ทำให้ดวงใจของชาวสวรรค์ยังสะท้าน

"ท่านรู้ดีว่าพวกเขาที่นี่ จะสู้จนสุดจิตใจ และวีรกรรมความกล้าหาญของพวกเขาจะถูกกล่าวขานในประวัติศาสตร์ตราบนานเท่านาน"

"ชาวเมืองนี้ พวกเขาล้วนจิตใจซื่อ และกล้าหาญ เพราะการออกผจญภัยในท้องทะเลท้าคลื่นลมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ตำนานการปราบเหล่าอสูรร้ายในทะเลที่พวกเขาเล่าสืบต่อกัน ทำให้พวกเขาไม่กลัวความตาย แม้แต่เด็กๆของเมืองนี้ ก็รู้ดีว่าคลื่นลมมรสุมของท้องทะเลอาจกลืนกลบพวกเขาได้เสมอ ฉันตระหนักรู้แก่ใจว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร จนไม่กล้าจะเพ่งมองนิมิตเพื่อดูอนาคต น่าเศร้าเหลือเกินที่พวกเขาต้องจบลงเช่นนี้" เธอก้มหน้าลงมองดูเมืองท่าที่กำลังถูกทำลายด้วยความสงสาร

"ขอสันติในใจจงมีแด่ท่านเถิด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โลกมนุษย์เป็นเช่นนี้ ท่านอย่าอาลัยไปเลย ไม่มีสิ่งใดใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์ นี่เป็นเพียงการดับสูญของอีกสิ่งหนึ่งเมื่อวาระมาถึงเท่านั้น ขอท่านรีบละจากที่นี่ เพราะไม่นานเมืองท่านี้จะแตกแล้ว และใน1สัปดาห์กองทัพจะบุกเข้ายึดถึงใจกลางเมืองบนแผ่นดิน"

"เช่นนั้นขอให้ฉันแจ้งข่าวแก่ทูตสวรรค์ผู้พิทกษ์เกาะนี้เถอะ ไอซาเอล (Aixael) คงจะเสียใจยิ่งกว่าฉันมาก เพราะเขาดูแลที่นี่ตั้งแต่ยังไม่มีมนุษย์มาอยู่ด้วยซ้ำ"

"หวังว่าไอซาเอลจะเข้าใจทุกอย่างเช่นท่าน ขอพรแห่งความหวังใจติดตามท่านไปด้วย"

"และอยู่กับท่านด้วยเช่นกัน" เธอสะบัดปีกสีขาวเหลือบฟ้าสวยงามโบยบินไปยังใจกลางเกาะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ ศุกร์ ก.พ. 28, 2025 6:49 am

ไอซาเอลทูตสวรรค์ผู้สง่างามปีกทั้งสี่ของเขาเปล่งแสงสีเขียวของน้ำทะเลและผืนป่าของเกาะ นอกจากปีกงดงามที่หลัง ปีกใหญ่ที่เท้าก็ทำให้เขาโบยบินทั่วเกาะในพริบตา ในเวลานั้นที่ทูตสวรรค์แห่งเมืองท่ามาแจ้งข่าวแก่เขา เธอสัมผัสได้ถึงจิตที่ทั้งโศกเศร้า แต่เคล้าด้วยความกริ้วโกรธ แผ่พุ่งออกมาจากเขา


รูปภาพ


"ทำไมกัน จักรพรรดิ์บ้าอำนาจนั่นมันยังเสวยสุขบนกองเลือดของผู้คนไม่มากพองั้นหรือ ชาวเมืองนี้ต้องมารับเคราะห์กรรมเพราะความกระหายอำนาจของมันคนเดียว ไอ้สวะชั้นต่ำสารเลว นี่มันหายนะแท้ๆ"

ไอซาเอลรู้กิตติศัพท์ความกระหายทรัพยากรของจักรพรรดิ์ผู้นี้ ซึ่งตรงข้ามกับชาวเมืองลามิเซียที่รู้อยู่กับวิถีธรรมชาติรู้ลมฟ้าอากาศและฤดูกาลของเกาะนี้ มีคำสอนแห่งการพึ่งพาและพอเพียงที่สืบทอดสู่รุ่น เขาขยะแขยงความโลภของมนุษย์อย่างยิ่ง และไม่อยากให้พวกใจชั่วมาเหยียบแผ่นดินนี้เลย

"ข้าจะตอบคำอธิษฐานของชาวเมืองนี้ ข้าจะแทรกแซงสงครามนี้"

"ไม่ได้นะ ท่านตอบคำวอนขอการชนะสงครามไม่ได้ เพราะอัศวินสวรรรค์พิทักษ์ผลชนะของมิแกรนเดียแล้ว ท่านเข้าใจใช่ไหมว่า อัศวินสวรรค์เองก็ไม่ได้แทรกแซงสงครามนี้ เพราะมิแกรนเดียจะได้ชัยแน่อยู่แล้ว จึงแค่เข้ามาดูแลให้ผลของสงครามของมนุษย์ครั้งนี้จะไม่ถูกแทรกแซงจากปีศาจ และ... รวมทั้งทูตสวรรค์อื่นๆเช่นพวกเราด้วย"

ปีกทั้ง4ของผู้พิทักษ์เกาะแผ่กางออก "ข้าจะขึ้นไปบนสวรรค์ ข้าอยากรู้เหตุผลที่เราถูกห้ามช่วยผู้บริสุทธิ์ ทำไมสวรรค์ทอดทิ้งคนดีๆมากมาย ข้าจะลองขอวิงวอนให้มีการเปลี่ยนแปลง"

"ถ้าอย่างนั้น ฉันจะช่วยขอร้องด้วย เพราะฉันถูกเรียกกลับแต่ได้แวะมาหาท่านก่อน"

พริบตานั้นทั้งสองอยู่บนวิมานอันศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าทูตสวรรค์ผู้ทรงปรีชาญาณทั้งสาม ไอซาเอลไม่ทันได้ถาม ด้วยญาณหยั่งรู้ ทูตสวรรค์ผู้ทรงปัญญาองค์หนึ่งก็เอ่ยขึ้นเบาๆ "อย่าสงสัยเลย เราไม่อาจแพร่งพรายความลับสวรรค์นี้ เพราะแผนงานนี้ต้องไม่ให้พวกมารรู้ และจงอย่าแทรกแซง พวกเจ้ารู้ดีว่า หากเราทั้งสามได้คำนวนผลลัพธ์แล้ว ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นแม้จะเจ็บปวดแต่จะจบลงด้วยดีในท้ายที่สุด"

"เช่นนั้นแล้วจะให้ผลลัพธ์ที่ดีด้วยกระบวนการที่ดีด้วยไม่ได้งั้นหรือ พวกท่านคือภูมิปัญญาแห่งจักรวาล ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่ง และยังมีฤทธิ์อำนาจเหลือคณา" ไอซาเอลวิงวอน

เสียงจากผู้ทรงปัญญาเบื้องขวาดังขึ้น"จงเรียนรู้ความสงบจากการยอมรับ จงเรียนรู้คุณค่าของความทุกข์ นี่ไม่ใช่เพียงแค่วัฎจักรของโลก แต่เพื่อเป็นบทเรียนที่สำคัญของทูตสวรรค์ทั้งหลายด้วย จำไว้เถิดว่า ลำพังความปรารถนาดี ยังไม่เพียงพอสำหรับทุกสิ่งหรอกนะ หากเจ้าไม่ได้หยั่งรู้จนถึงสุดปลายกาลเวลาเช่นเรา ย่อมไม่อาจคำนวนผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุดได้ และวิถีที่เจ้าคิด ก็ย่อมไม่เหมือนวิถีของเรา จงเชื่อเถิดเรารักและหวังดีต่อชาวเมืองนั้นไม่น้อยกว่าเจ้า"

"แต่ท่านกำลังจะปล่อยให้พวกเขาถูกข่มเหงเข่นฆ่าจากพวกจิตใจชั่ว"

เสียงจากผู้ทรงปัญญาเบื้องซ้ายดังขึ้น"พวกเขาจะไม่ตายแต่จะมีชีวิตเรื่องของพวกเขาจะถูกเล่าขานชั่วนิรันดร์"

"ถ้าเช่นนั้นพอจะผ่อนหนักเป็นเบาได้ไหมคะ อย่างน้อยเราจะรักษาชีวิตพวกเขาให้มากที่สุดได้ไหม"

สถานศักดิ์สิทธิ์เงียบไปชั่วครู่ ก่อนคำตอบจะดังขึ้นจากผู้ทรงปรีชาญาณทั้งสาม "จงตอบทุกคำอธิษฐานด้วยความรักเมตตา แต่จงพิจารณาว่า หากดวงจิตนั้นขมขื่นเพราะความโกรธและเกลียดชัง แม้การกระทำที่ปรารถนาดีก็จะส่งผลที่ร้าย จงตรองดูก่อนทำการใด จงระวังดวงจิตของเจ้าเองก่อนจะอยากช่วยเหลือผู้อื่น ณ เวลานี้ จงให้ทุกอย่างเป็นไปตามกาลและตามกรรมก่อนเถิด เมื่อถึงเวลาเจ้าทั้งหลายจะเข้าใจเองว่าทุกสิ่งล้วนถูกกำหนดไว้ดีแล้ว"

ทูตสวรรค์ทั้งสองรู้สึกสงบมากขึ้น จากการสนทนา การตอบรับคำขออาจไม่เป็นไปตามที่คาดคิด แต่ความรู้สึกร้อนรนทนไม่ได้ก็กลับเยือกเย็นลง พริบตาไอซาเอลก็อยู่ที่เกาะเพียงองค์เดียว ปีกทั้งสี่ลู่ลง นี่เขาต้องเฝ้าดูทุกสิ่งที่ตนรักมีอันเป็นไปอย่างเงียบๆงั้นหรือ

"ข้าเข้าใจ แต่ยังไม่อาจยอมรับได้"

ไอซาเอลหลับตา เขาสัมผัสได้ถึงแรงอธิษฐานมากมายทั่วเกาะ ดวงตาของเขากลับแข็งกร้าวขึ้น ใจปวดร้าวเพราะไม่อยากนิ่งเฉยต่อคำวอนขอมากมายนี้เลย พลันนั้น มีคำอธิษฐานหนึ่งจากจิตใจที่ซื่อสะอาดบริสุทธิ์เข้ามาในสัมผัส ไอซาเอลลืมตาหันมองไปที่กระท่อมน้อยริมหาด แสงสว่างจากดวงใจบริสุทธิ์เจิดจ้าจนเห็นชัด ปีกเหลือบแสงสีเขียวทั้งสี่กางออกและบินมุ่งไปยังทิศตะวันตกของเกาะทันที
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 02, 2025 3:37 am

กระท่อมหลังเล็กทางตะวันตกของเกาะ เป็นที่อยู่ของสองแม่ลูกเดียสปอร่า หนึ่งในเผ่าพันธุ์เก่าแก่ของโลกเทอรร่า (ท่านสามารถอ่านเรื่องราวของเผ่าพันธุ์นี้ได้ตามลิงค์ viewtopic.php?f=14&t=23965 )

ทั้งสองเป็นสายตระกูล Resha ที่เป็นรูปร่างหน้าตาเป็นมนุษย์ แต่มีลักษณะของกระต่าย คือมีหู และมีหางอย่างกระต่าย แม่ชื่อเรเชล และลูกชายตัวเล็กของเธอ นิโฮ่ Niho พ่อของเด็กน้อยเป็นชาวเกาะลามิเซีย แต่เรือของเขาได้หายไปกับท้องทะเลตั้งแต่นิโฮ่อายุได้ไม่ถึง5ขวบ ตอนนี้นิโฮ่6ขวบแล้ว เด็กน้อยกำลังอธิษฐานที่หิ้งพระในบ้าน วอนขอให้สงครามผ่านพ้นไป เพราะแม่เล่าให้เขาฟังหลังจากกลับจากการไปขายงานฝีมือที่ตลาดว่ามีกองทัพใหญ่กำลังบุกตีเมืองท่า และเธอกำลังวิตกกังวลมากคิดว่าจะทำอย่างไรดีและวางแผนจะพาลูกชายอพยพหนีไปเกาะอื่น และต้องเป็นเกาะที่ชาวเมืองจะยอมรับเผ่าพันธุ์ของเธอและลูกได้ เธอมองนิโฮ่ที่กำลังอธิษฐานอย่างไร้เดียงสา หูกระต่ายสีขาวของเขาลู่ไปข้างหลัง "ขอให้สงครามจบลง และขอให้พวกเราชนะด้วยเถิดครับ ขอให้ผมกับแม่ไม่ต้องย้ายไปที่อื่น" เด็กน้อยพนมมือเล็กๆผงกหัวลงหูกระดิกตั้งขึ้น เขามองไปที่หิ้งที่วางสัญลักษณ์แสงสว่างราวกับเห็นอะไรบางอย่าง หากแต่ถ้าเขามองเห็นได้จริงๆเขาคงจะเห็นทูตสวรรค์ที่พิทกษ์เขาตั้งแต่เกิดมา กำลังมองเขาด้วยสายตาที่เอ็นดูและปวดร้าว มือของชาวสวรรค์ยื่นมาลูบหัวและหูน้อยๆนั้น แม้นิโฮ่จะไม่รู้สึกถึงการสัมผัสนั้นก็ตาม "เธอต้องรอด นิโฮ่ ฉันจะไม่ยอมให้เธอตาย เธอกับแม่ต้องหนีไป เด็กน้อยเอ๋ย คำขอชนะสงครามของเธอจะไม่มีวันเป็นจริง เธอต้องลี้ภัยเท่านั้น"

"หายากนักหนานะ ทรีซาเอล(Trexael) เด็กที่จิตใจซื่อใสขนาดนี้ ถ้าข้าได้เป็นอารักขทูตสวรรค์ของเขาเช่นท่าน ข้าก็คงทำทุกอย่างให้เขาได้เติบโต และมีชีวิตที่ดี ไม่ให้ตกในหายนะจากสงครามเช่นเวลานี้"

ทรีซาเอลเมื่อได้ยินคำทักทายของไอซาเอล ก็ยืนขึ้นกางปีกใหญ่ของเขาแผ่จนจรดผนังห้อง ปีกใหญ่นี้ไม่เพียงโบยบินได้เร็วแต่ใช้คลุมปกป้องอันตรายได้ด้วย

"เห็นว่าท่านไปขอคำชี้แนะจากเบื้องบนมา เราพอจะทำอะไรได้บ้างไหมกับหายนะนี้"

ไอซาเอลส่ายหน้าช้าๆสายตามองไปยังนิโฮ่ "เด็กที่มีรัศมีสว่างขนาดนี้ ต้องเกิดมาเพื่อเป็นคนสำคัญของโลกนี้แน่ ทูตสววรรค์ระดับท่านถึงต้องมาดูแลเขาเอง"

"ข้าจะหาทางดลใจให้ราเชลพานิโฮ่หนีไปให้สำเร็จ เราคงทำได้เพียงแค่นี้"

++++++++

รูปภาพ

กระสุนปืนใหญ่ยิงใส่เมืองท่า และลูกธนูซัดสาดไปมาเหมือนห่าฝน อัลซิเดส Alcides แม่ทัพหนุ่มใหญ่วัย46ปี แห่งมิแกรนเดีย พระอนุชาขององค์จักรพรรดิ์ ไดคูน Deicoon บัญชาสั่งการรบด้วยตนเองบนเรือรบหลวง อัลซิเดส ขึ้นชื่อเรื่องความห้าวหาญเด็ดเดี่ยว และตัดสินใจเฉียบขาด อีกทั้งมีเพลงดาบที่เก่งกาจ แม้จะดุดันในการรบ แต่มีเหตุผลและยึดมั่นในสัจจะ จึงเป็นที่เคารพรักของเหล่าทหาร

"ท่านแม่ทัพขอรับมีสารจากลามีเซีย ขอเจรจาขอรับ"

"สุดท้ายก็ยอมจำนนแล้วสินะ คงเข้าใจกันแล้วว่าสู้ไปก็ตายเปล่าเท่านั้น"

เรือรบทุกลำ แหวกทางให้เรือรบหลวงเคลื่อนเข้าใกล้เมืองท่า ทหารทั้งสองฝ่ายยังระแวดระวังคุมเชิง และเห็นว่ามีนายทหารกลุ่มหนึ่งไม่มีอาวุธรออยู่ที่ท่าเรือ

อัลซิเดส คิดว่าให้ขึ้นมาเจรจาบนเรือของตนน่าจะปลอดภัยกว่าลงไปยังท่าเรือ จึงสั่งให้ผู้ที่รอที่ท่าเรือลงเรือเล็กมาที่เรือรบหลวง ระหว่างที่เรือเล็กเริ่มเคลื่อนมาใกล้ อัลซิเดส สังเกตว่ามีชายสามคนในกลุ่มยืนขึ้น เขาสั่งให้ทหารเฝ้าระวัง ทันใดทั้งสามก็เป่าเสียงจากนกหวีดที่ทำจากกระดูกมังกรที่คาบในปาก เสียงหวีดแหลมเหมือนเสียแผดร้องของสัตว์ใหญ่ สิ้นเสียงหวีดแหลม ก็ปรากฎมวลน้ำมหึมา3มวลพุ่งขึ้นจากทะเลด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหลัง ของเรือ และเสียงร้องดังของมังกรน้ำขนาดใหญ่3ตัวก็ดังก้องไปทั่ว ตัวหนึ่งกระชากเรือจนโคลง อีกตัวหนึ่งอาละวาดอย่างคุ้มคลั่งทำลายเรือ และตัวที่อยู่ด้านหลังพุ่งตรงมายังแม่ทัพและเหล่าทหาร

"จัดการเจ้านั่นที่มีเสื้อคลุม" เสียงตะโกนจากผู้ฝึกมังกรพร้อมทำสัญญาณมือ ดวงตาใหญ่สีเขียวใต้เกล็ดสีฟ้าจ้องมองไปยังนายของมันจากนั้นก็กวาดตามองบนเรือรบ มันจ้องเขม็งไปยัง อัลซิเดส ทันใดนั้นก็พุ่งหัวของมันอ้าปากแยกเขี้ยวใหญ่เข้าใส่อย่างรวดเร็ว แม่ทัพผู้เก่งกาจเพลงดาบยกดาบใหญ่ขึ้นรับ หากแต่ไม่อาจต้านแรงของสัตว์ยักษ์ที่ใหญ่กว่าเขาหลายเท่าได้ มันกัดเข้าที่แขนและลากเขาดำดิ่งลงทะเล ถิ่นกำเนิดที่มันถนัดกว่า

"ท่านแม่ทัพตกน้ำ" เสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินก่อนที่น้ำจะเข้าหู้เข้าปากจนได้ยินแต่เสียงก้องเบาๆของการต่อสู้อลหม่านที่ผิวน้ำ เจ้ามังกรขบเขี้ยวเข้าหัวไหล่และท่อนแขน เตรียมลากเขาลงส่วนลึกของมหาสมุทร

"คราเคนข้าก็เคยสังหารมาแล้ว วันนี้ไม่ยอมเป็นอาหารมังกรหรอกเว้ย"

อัลซิเดสต่อสู้สุดกำลัง เลือดไหลแผ่ไปใต้น้ำ ลูกปืนใหญ่หลายลูกถูกยิงลงมาในน้ำ ลูกหนึ่งโดนเจ้ามังกรทำให้มังกรใหญ่คายเขาออกจากปาก อัลซิเดสตอนนี้บาดเจ็บแผลฉีกถึงอกและกลางหลัง ลมหายใจกำลังจะขาด เจ้ามังกรหันหัวไปมามองหาเขาที่กำลังว่ายหนี เขาคิดในใจว่าไม่รอดแน่ถ้ามังกรเห็นเมื่อไร มันว่ายถึงตัวเขาในพริบตาแน่นอน อัลซิเดสกระชากกระเป๋าข้างเอวที่ซ่อนอาวุธยามฉุกเฉิน ค้นหาขวดเวทย์ระเบิดลงอาคมที่หากทุบแตกมันจะระเบิดรุนแรง แต่ใต้น้ำแบบนี้เขาคงเขวี้ยงมันกระทบพื้นหรือผนังตามวิธีใช้ปกติไม่ได้ ทันใดนั้นดวงตาเจ้ามังกรก็จับไปที่ร่างมนุษย์ที่เคลื่อนไหวในน้ำห่างออกไป มันพุ่งตัวอ้าปากใส่เขาทันที อัลซิเดสตัดสินใจฉับพลัน เมื่อหัวของมังกรพุ่งเข้ามาใกล้ เขายืนมือถือขวดระเบิดเวทย์ยื่นไปข้างหน้า ฟันของมังกรกระแทกชนขวดอย่างแรง เกิดแรงระเบิดสั่นสะเทือนใต้น้ำ จนเกิดคลื่นสูงบนผิวน้ำ พัดพากองเรือบางส่วนไหลไปตามแรง แรงระเบิดรุนแรงผลักร่างทั้งสองพุ่งห่างจากกันคนละทิศทาง แรงระเบิดทำให้เขาทั้งมึน ทั้งเจ็บ ทั้งจุก เศษแก้วบาดหน้าอกและใบหน้าของเขาหลายแผล เขาเห็นว่าเขาลอยห่างกองเรือและฝั่งไปเรื่อยๆ และร่างใหญ่ของมังกรที่ค่อยๆร่วงไหลลงน้ำลึกห่างออกไปเรื่อยเช่นกันในอีกทิศทางหนึ่ง ภาพทั้งหมดฉาบสีแดงของเลือดที่ฟุ้งในน้ำ ก่อนที่สติของแม่ทัพใหญ่จะวูบหายดับไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ พุธ มี.ค. 05, 2025 4:52 am

"ลุง... ลุง เป็นไงบ้าง"

อัลซิเดสรู้สึกตัวอีกครั้ง เขาลืมตาช้าๆ ทุกอย่างตรงหน้าเบลอ และค่อยๆชัดเจน มีเสียงเล็กๆของเด็กเรียก ลุง ๆ อยู่ใกล้ๆ เขาค่อยๆเห็นเพดานไม้ และหูกระต่ายขนาดใหญ่เคลื่อนผ่านหน้าไปมา เขายันตัวขึ้น รู้สึกเจ็บและปวดไปหมดทั้งตัว อีกทั้งมึนหัวมาก พอหันไปก็เห็นเด็กชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่มีหูกระต่ายขนาดใหญ่นั่งยิ้มอยู่ห่างๆ

"ผมเจอลุงนอนสลบอยู่ที่หาด ลุงชื่ออะไรและมาจากไหนเหรอ"

เมื่อเขาหันไปมอง ก็เห็นว่ามีหญิงอีกคนมีหูกระต่ายเช่นกัน นั่งอยู่ใกล้ๆ และเธอมีดาบสั้นเล่มหนึ่งวางอยู่บนตัก มือของเธอจับด้ามของมันไว้ด้วยความเตรียมพร้อม

"ท่านชื่ออะไร มาจากไหน ฉันไม่คุ้นหน้าเลย คงไม่ใช่คนที่นี่"

อัลซิเดสก้มลงมองดูตัวเอง ชุดที่ติดมาเหลือแค่กางเกง และผ้าพันแผลทั่วตัวตั้งแต่อกจนถึงเอว สมองที่เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง เริ่มเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร แล้วสติปัญญาของผู้วางแผนการรบมามากมายก็ประมวลผลทุกอย่างอย่างรวดเร็ว

"ข้าเป็นพ่อค้าเพิ่งเข้ามาขายสินค้าที่นี่ แล้วอยู่ๆก็มีการสู้รบกัน เลยโดนลูกหลงจนคิดว่าคงตายเสียแล้ว ขอบใจแม่นางกับพ่อหนูที่ช่วยไว้นะ"

"เห็นไหม ผมบอกแม่แล้วว่าลุงน่าจะไม่ใช่คนร้ายหรอก หน้าจืดๆเหมือนลุงที่ชอบเอาปลามาขายเลย"

"เราตัดสินคนจากหน้าตาไม่ได้หรอกนะนิโฮ่ ลูกยังเด็กยังต้องเรียนรู้อีกมาก" แล้วราเชลก็หันกลับมาถามทันที "ท่านชื่ออะไร และมาจากเมืองไหน"

"ชื่อ บาล์น มาจากท่าชาเว"

"มาขายชาเหรอ ชาเว ชาอร่อยอยู่แล้วนี่นะ"

"เปล่าหรอก มาขายพลอยน่ะ แม่นางได้ยินมาจากไหนว่า ชาเวมีชาดี"

แม่ทัพใหญ่รู้ดีว่ากำลังถูกสอบสวน เขาต้องใช้ข้อมูลของเมืองหนึ่งที่ได้ศึกษามาอย่างดี ทั้งภูมิประเทศ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และความรู้รอบตัวพื้นฐาน เพราะเป็นหนึ่งในเมืองเป้าหมายในการยึดครอง

"ฉันราเชล นี่นิโฮ่ ลูกชายของฉัน" เธอวางดาบลงบนโต๊ะ และมือยังคงอยู่บนดาบนั้น

"พวกท่านเป็นเดียสปอร่าสินะ ข้าเคยเจอมาก่อนเวลาเดินทางเร่ค้าขาย แต่เพิ่งเคยเห็นสายตระกูลที่เป็นกระต่าย สวยและน่ารักมากจริงๆ"

"ท่าทางท่านจะขายของดีนะ ดูจะยอลูกค้าเก่งทีเดียว"

"โอ้ ไม่ขนาดนั้นหรอก พ่อค้าแม่ขายก็แบบนี้แหละเราอาจโม้นิดหน่อยก็จริง แต่ก็ไม่ได้ขี้โกหกหรอกนะ" อัลซิเดสสะดุดใจตัวเองเพราะกำลังโกหกเป็นไฟ เมื่อเห็นนิโฮ่เดินเข้ามาใกล้ ก็รีบปั้นสีหน้ายิ้มแย้ม

"เจ้าหนุ่มน้อยนี่ก็น่ารักจริงๆนี่นะ ชื่อนิโฮ่ใช่ไหมลูก"

นิโฮ่ยิ้มกว้าง "ใช่ครับลุง"

อัลซิเดสรู้สึกว่าประโยคล่าสุดนี้ตัวเองไม่ได้โกหก รอยยิ้มที่ไร้เดียงสา และท่าทางร่าเริงของเด็กน้อย ผ่อนคลายความเครียดทั้งหมดที่เขาเจอมาก่อนหน้านี้ และแม้แต่ในเวลานี้ที่กำลังถูกสอบสวนจากผู้เป็นมารดา

"ทางเมืองท่าเป็นไงบ้างคงต่อสู้กันรุนแรง ท่านถึงบาดเจ็บเพียงนี้"

"อะ เอ่อ ใช่ รุนแรงมาก เรือข้าโดนปืนใหญ่แตก" อัลซิเดสก้มมองตัวเอง คิดได้ว่าเสื้อและผ้าคลุมของเขาคงฉีกขาดไปหมด ทั้งจากเขี้ยวมังกรและแรงระเบิด "แรงระเบิดเข้าอกเต็มๆเลย เศษโลหะเศษไม้บาดจนเสื้อแสงขาด ข้าวของสมบัติกระจายหายไปหมด ซ้ำยังกระเด็นตกทะเล คิดว่าตายแน่แล้ว ไม่นึกว่าจะรอดมาได้ ต้องขอบคุณแม่นางและลูกอีกครั้ง"

"เรียกเรเชลเถอะ นิโฮ่เอาซุปให้ลุงเขาสิลูก" เรเชลละจากดาบบนโต๊ะเดินเข้ามาใกล้ "ท่านบาดเจ็บสาหัสมากทีเดียวอาจจะมีกระดูกหักด้วยนะ เรารักษาพยาบาลตามมีตามเกิดเท่าที่ทำได้ แล้วในเวลาสงครามแบบนี้ หมอก็ถูกเรียกไปช่วยคนเจ็บในพื้นที่สงครามกันหมด"

เด็กน้อยวิ่งเข้ามาพร้อมชามซุป "อร่อยนะลุง ซุปของแม่" อัลซิเดสรับชามซุปจากมือเล็กๆ ซุปยังอุ่นๆ เขาตักซุปข้นๆที่มีผักหลายชนิด ซดเข้าปากช้าๆ ปกติเขาไม่ชอบผัก แต่ในเวลานี้ ซุปผักนี้ช่างอร่อยมาก

"อือม์ อร่อยมากจริงด้วย ชายที่โชคดีที่ได้กินของอร่อยๆแบบนี้ทุกวันเขาอยู่ที่ไหนเหรอ ข้าอยากขอบคุณเขาที่มาอาศัยบ้านของเขา แถมยังรบกวน ลูกและภรรยาที่น่ารักของเขาด้วย"

เรเซลหน้าเศร้าลงทันที นิโฮ่สังเกตสีหน้าแม่ รีบตอบแทน "พ่อไปออกเรือแล้วไม่กลับมา มีแต่ซากเรือที่ลอยมาที่หาด ใครๆบอกว่าพ่อคงจะตายแล้ว แต่ผมน่ะออกไปดูที่หาดทุกวัน เชื่อว่าสักวันพ่ออาจจะกลับมา แล้วเมื่อวานก็เลยเจอลุงนอนอยู่ไง"

เรเชลดึงลูกชายมากอด ลูบศีรษะ อย่างอ่อนโยน

"ขอโทษด้วย ข้าเสียมารยาทจริงๆ ท่านเลี้ยงดูลูกได้ดีมาก เขาทั้งน่ารักและฉลาด โตขึ้นไปต้องเป็นชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยมทีเดียว จะเป็นที่พึงของแม่ได้อย่างดีแน่"

"ตอนนี้ผมก็ดูแลแม่นะ ดูแลบ้าน แล้วตอนนี้ดูแลลุงเพิ่มอีกคน"

แม่ทัพผู้กรำศึกถูกสั่นไหวในจิตใจ เขารู้สึกเหมือนได้กลับบ้านที่จากมาแสนนาน ชั่ววูบหนึ่งที่เขาเกือบเคลิ้มไปกับเรื่องโกหกของตัวเอง เป็นลุงพ่อค้าที่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นแต่น่าสงสารที่สูญเสียหัวหน้าครอบครัวไป แล้วพ่อค้าคนนี้ก็จะตอบแทนครอบครัวที่แสนดีนี้เท่าที่ทำได้ ฉับพลันนั้น สมองของเขาก็กลับสู่ความจริง ความเครียดวูบขึ้นหัวและหน้าทันทีที่ตระหนักว่า แท้จริงตนเองเป็นใคร และมาทำอะไรที่นี่

"เอ่อ... ขออภัยที่อาจเสียมารยาทอีกครั้ง แต่แม่นางกับลูกควรอพยพหนีไปจากที่นี่ เกาะนี้ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว ทัพใหญ่จะยึดถึงเมืองหลวงใจกลางเกาะในไม่ช้า และทั้งเกาะจะถูกสำรวจ พาลูกหนีไปที่อื่นเชื่อข้าเถอะ"

"ฉันก็คิดอยู่ แต่ว่ายังกังวลว่าเราจะหนีไปไหน แล้วเราจะไปกันยังไง"

"ผมจะไม่หนี ผมจะสู้กับพวกกระหายเลือดพวกนั้น ผมจะรักษาบ้านของเรา ปกป้องแม่ และจะรอพ่อกลับมา ผมจะจัดการไอ้พวกมิแกรนเดีย" นิโฮ่ทำหน้าขึงขัง กำหมัดพูดเสียงแจ๋ว

อัลซิเดสไม่ได้โกรธ แต่กลับเอ็นดู รู้สึกถึงตัวเองตอนเด็กเล็กๆเขาก็ไร้เดียงสา กล้าบ้าบิ่น คิดง่ายๆว่าสงครามแค่การต่อสู้แพ้ชนะ จนเติบโตขึ้นเป็นทหารเป็นแม่ทัพใหญ่ ความซื่อ ไร้เดียงสา อ่อนโยนในวัยเด็กถูกทำลายไปหมด สู่โลกแห่งสงครามที่อำมหิตโหดร้าย ไร้เมตตา

"นิโฮ่... หนูไม่รู้หรอกว่ากองทัพมิแกรนเดียทำอะไรได้บ้าง ทหารพวกนั้นผ่านสงครามมาหลายปี ดังนั้นแม้คุณธรรมอัศวินจะไม่ทำร้ายเด็กและผู้หญิง แต่หากเด็กและผู้หญิงที่ต่อสู้ขัดขืน ก็อาจไม่ได้ละเว้น"

นิโฮ่วิ่งไปหยิบดาบบนโต๊ะออกมาถือ โชคร้ายที่ดาบนั้นเล็กจนเหมือนกับมีดซะมากกว่า แต่ก็โชคดีที่มือเล็กๆของเด็กแบบนิโฮ่กำดาบได้ถนัด "ผมไม่กลัว ผมจะยอมสู้ตาย"

อัลซิเดสสะท้อนใจพูดอะไรไม่ออก ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกชายเขา เขาคงจะภูมิใจมาก เด็กกล้าหาญใจซื่อแบบนี้จะเติบโตเป็นนายทหารอนาคตไกลแน่ๆ เขาหันไปมองเรเซล ดวงตาเศร้าและวิตกของเธอก็ทำให้เขาสะท้อนใจเช่นกัน

"ดูสิ ทำคุณแม่กลุ้มใจแล้วนะ นิโฮ่ตายขึ้นมา ใครจะดูแลคุณแม่ล่ะ"

เรเชลเข้ามาโอบไหล่ลูกชายตัวน้อย ดึงดาบออกจากมือลูกชายเก็บเข้าฝัก "ถ้านิโฮ่เป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ฉันก็ไม่ขออยู่ เพราะชีวิตฉันในเวลานี้มีแค่นิโฮ่เท่านั้น"

อัลซิเดสรู้สึกตึงเครียดในใจยิ่งกว่าวันก่อนออกรบ

"นี่อาจจะซื้อเรือเล็กๆได้สักลำ หรืออาจใช้เป็นค่าโดยสารเรือ และค่าใช้จ่ายได้สักระยะ" อัลซิเดสล้วงอัญมณีเม็ดนึงออกมาจากช่องลับที่ขากางเกง มันเป็นสมบัติที่เขาซ่อนไว้ในช่องลับต่างๆของชุดที่สวมใส่ เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน

"ของล้ำค่าขนาดนี้ เรารับไว้ไม่ได้หรอก ท่านเก็บไว้เถอะท่านก็ต้องใช้รักษาตัว"

"โอ้ มันไม่เท่าหนี้บุญคุณที่ช่วยชีวิตข้าด้วยซ้ำ แล้วข้ายังพอมีซ่อนไว้อีก พ่อค้าก็แบบนี้แหละต้องมีที่ซ่อนของไว้กันโจรขโมย พวกท่านรับไว้ แล้วรีบหาทางอพยพหนีไป เดี๋ยวข้าดีขึ้นจะหาทางกลับบ้านได้เอง ไม่ต้องห่วง"

เรเซลหันไปมองนิโฮ่ ก่อนรับอัญมณีสีเขียวมรกตมา "เดี่ยวฉันจะออกไปหาเรือและหาทางอพยพ ท่านก็พักอีกสักคืนคงแข็งแรงขึ้นพอจะไปกับเราก็ได้นะ"

"ไม่เป็นไรหรอก ข้ามีเพื่อนที่มาด้วยกันหลายคน พวกเขาอาจกำลังตามหาข้า ข้ารบกวนพวกท่านมากแล้ว อย่าให้คนเจ็บไปถ่วงการเดินทางของพวกท่านเลย ข้าจะกลับไปหาพวกเขา แล้วก็จะกลับบ้านได้แน่"

นิโฮ่ดูแลลุงบาล์นด้วยนะ เย็นๆแม่ก็จะกลับ"

"ได้ฮะแม่ ไม่ต้องห่วงเลย"

ตลอดบ่ายนิโฮ่ชวนอัลซิเดสคุยราวกับรู้จักกันมานานปี นิโฮ่ขอให้เขาเล่าเรื่องที่ไปค้าขายตามที่ต่างๆ อัลซิเดสก็เเอาเรื่องที่ออกท่องเที่ยวผจญภัยตอนวัยหนุ่มบ้าง ตอนเดินทางออกรบไปเมืองต่างๆบ้าง มาตัดรายละเอียดบางอย่าง และเหลือเฉพาะเรื่องสนุกสนานเล่าให้นิโฮ่ฟัง จนตอนเย็นเรเชลกลับมาพร้อมอาหาร และบอกว่ามีคณะเดินทางที่จะอพยพหนีสงคราม และมีผู้ที่เธอรู้จักมักคุ้น จะช่วยเจรจาคณะเดินทางให้ น่าจะพอติดสอยห้อยตามกันไปได้ ตอนเช้าเธอจะออกไปหาเบาะแสและข้อมูลข่าวสารอีกครั้ง และจะขอคำตอบจากคณะเดินทางว่ามีที่สำหรับพวกเธอหรือไม่ อัลซิเดสภาวนาให้ครอบครัวนี้ได้หนีออกไปได้ทันก่อนที่กองทัพของเขาจะมาถึง และหวังว่าจะไม่ได้พบกันอีก ให้นิโฮ่จดจำเพียงว่าครั้งหนึ่งได้เคยช่วยพ่อค้าเรือแตกชื่อลุงบาล์น ไม่ใช่แม่ทัพชาติศัตรูที่เขาเกลียด
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ พุธ มี.ค. 05, 2025 6:18 am

ในมิติของจิตวิญญาณ เรื่องราวหาได้ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายเช่นโลกที่มองเห็น แต่กลับโกลาหลจากเหล่าทูตสวรรค์ที่ทำภารกิจกันวุ่นวายเพื่อในโลกจะดำเนินเรื่องราวไปตามครรลองที่มีความเป็นไปได้มากมาย

ไอซาเอลและทรีซาเอล จ้องมองยังร่างเล็กๆที่วิ่งลงไปที่ชายหาดด้วยความวิตก และเมื่อเด็กน้อยที่มีหูกระต่ายพบร่างของแม่ทัพแห่งมิแกรนเดีย ทรีซาเอลรีบลงไปหานิโฮ่ พยายามโน้มน้าวเขาให้อย่ายุ่งกับร่างที่ลอยมาเกยหาดนี้ แต่จิตใจที่ห่วงใยและอยากช่วยคนของนิโฮ่กลบเสียงของทรีซาเอลไปหมด ไอซาเอลประจันหน้าของทูตสวรรค์องค์หนึ่งที่ติดตามและเฝ้าอยู่กับร่างของอัลซิเดสมาตลอด ไอซาเอลรู้ทันทีว่า อัลทาเอล(Ultael) ผู้นี้คือทูตสวรรค์ที่อารักขาแม่ทัพแห่งมิแกรนเดีย

รูปภาพ

"บาดแผลขนาดนี้ยังไม่ตาย แสดงว่าผู้อารักขาของเขาต้องเก่งมากทีเดียว"

อัลทาเอลสีหน้าเรียบเฉย "ข้าทำหน้าที่ตามปกติ แม้แต่การต่อสู้กับมังกรทะเลที่เกิดขึ้นข้าก็ไม่ได้ยื่นมือเข้าช่วยให้เขาชนะ การที่เขาเอาตัวรอดมาได้จนมาถึงหาดนี้ คงเป็นชะตาชีวิตไม่ใช่การแทรกแซงของข้า"

"ขออภัย ดูท่านจะไม่ยินดียินร้ายกับความเป็นความตายของมนุษย์ที่ท่านมีหน้าที่พิทักษ์เขาสักเท่าไรนะ" ไอซาเอลรู้สึกว่าเขาไม่ควรประชดประชันไปก่อนหน้านั้น เพราะหยั่งรู้ได้ว่าอัลทาเอลเองไม่ได้ชื่นชอบการงานของตัวเองนัก

"ข้าเหมือนโดนสวรรค์ลงโทษ ให้ต้องมาพิทักษ์คนทรามมือเปื้อนเลือดเช่นนี้ ต้องทนเห็นมันประหัตประหารรุกรานทำลายสันติ แต่ก็มีชีวิตรอดมาได้เสมอ ให้สวรรค์ถูกด่าทอว่าอยุติธรรม นำคนดีไปเร็ว แต่ทิ้งคนชั่วช้าให้อายุยืน ใช่ละ ข้าเกลียดเจ้ามนุษย์นี่ การต้องทนดูบาปกรรมที่มันก่อ แล้วต้องดูแลไม่ให้มันตายก่อนอายุขัยเป็นภารกิจที่ข้าปรารถนาให้จบๆไปซะ"

"มันจะอยู่ไปอีกนานหรือ"

"อีกเกือบ30ปี ถูกละมันไม่นานสำหรับความเป็นนิรันดร์ของทูตสวรรค์อย่างเรา แต่การต้องอยู่กับสิ่งที่เกลียด แค่ไม่กี่นาทีก็ยาวนานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ และสำหรับเหล่ามนุษย์ที่ต้องอยู่กับคนแบบมันอยู่ไปอีก30ปี ก็เรียกว่าเคราะห์กรรมที่ยาวนานเลยจริงไหม"

ไอซาเอลรู้สึกเหมือนได้มิตรมาเพิ่ม อารักขทูตสวรรค์ที่เกลียดคนที่ตัวเองดูแลนับว่าหายากยิ่ง แต่ดูเหมือนว่าลึกๆแล้วการที่ อัลทาเอล เกลียดภารกิจนี้ จะไม่ได้มาจากการก่อบาปกรรมของอัลซิเดสเท่านั้น กระนั้นไอซาเอลไม่กล้าก้าวล่วงลงไปมากกว่านี้ เพราะจะเป็นการละเมิดกฎสวรรค์ที่จะแอบอ่านใจหรืออดีตของทูตสวรรค์อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต

"เช่นนั้นเรามาร่วมมือกันไหมเรามาหาทางทำให้เจ้านี่ไปจากที่นี่ หรือไม่ก็.....ตายซะที่นี่"

สีหน้าที่เรียบเฉยของอัลทาเอลเริ่มเปลี่ยนไป "ท่านจะละเมิดลิขิตสวรรค์หรือ ท่านไม่รู้หรือว่ามันมีโทษแค่ไหน"

"ข้ากำลังหาทางที่จะส่งผลเสียน้อยที่สุดที่จะทำการนี้"

"ท่านไม่มีทางคิดออกเพราะมันไม่มีทางออกใดที่จะเปลี่ยนลิขิตโดยไม่ต้องแลกเปลี่ยน ยิ่งความเป็นความตายของมนุษย์แล้ว มันถึงขั้นชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต และไม่เว้นแม้จิตของทูตสวรรค์นะท่าน"

ไอซาเอลหยุดการสนทนา เมื่อเห็นว่าสองแม่ลูกนำอัลซิเดสเข้าไปในบ้านของตน ทั้งสามรีบรุดตามเข้าไปดู ทรีซาเอลพยายามดลใจให้ทั้งสองแม่ลูกฉุกคิดและระแวง แต่นิโฮ่นั้นใสซื่อจนไม่ตอบสนองกับการทำให้หวาดระแวง และได้เห็นการสนทนาอันเป็นการโกหกแต่งเรื่องเอาตัวรอดของอัลซิเดส จนชนะความระแวงของเรเชล และเพราะความใจดีของสองแม่ลูก ทรีซาเอลทนไม่ได้ ก็คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง

ทรีซาเอลเสนอขึ้น "เราต้องดลใจให้สำนึกผิดชอบชั่วดีของอัลซิเดสเกิดขึ้นให้ได้ ให้เขาสำนึกบุญคุณของสองแม่ลูกนี้ อย่างน้อยให้เขาไม่คิดทำร้ายสองคนนี้ก็ยังดี อัลทาเอลท่านต้องช่วยเราทำเรื่องนี้"

"ข้าเคยพยายามดลใจให้มันมีเมตตาหรือจิตใจดีซะบ้างมาก่อน แต่ใจเจ้านี่มันแข็งกระด้างจนข้าเกลียดที่จะพยายามต่อ"

"ลำพังกำลังทูตสวรรค์องค์เดียวอาจจะเป็นเช่นนั้นนะ หากใจคนนั้นมันหยาบหนา และถูกขัดเกลาไปทางชั่วมาช้านาน แต่หากเป็นกำลังที่ร่วมมือกันของทูตสวรรค์สามองค์ ก็อาจช่วยกันปลุกความเป็นคนของเจ้านี่กลับมาได้บ้าง ทรีซาเอลเจ้ารู้ดีว่านิโฮ่นั้นมีคุณสมบัติติดตัวมาแต่เกิดที่คนจะรักและเมตตาเขาตั้งแต่แรกเห็นเจ้าจงทำให้พรนั้นเจิดจ้าขึ้น อัลทาเอลท่านจงค้นไปยังอดีตและสิ่งอ่อนไหวทุกอย่างในจิตวิญญาณของเขา ความรักใดที่เขาเคยได้รับตั้งแต่เด็ก สิ่งดีใดที่เขายังเก็บในความทรงจำ ท่านจงปลุกมันกลับมาเท่าที่จะทำได้ ส่วนข้า จะกระตุ้นคุณธรรมใดหรือค่านิยมในก็ตามที่เขามี แม้แต่เรื่องการยึดถือบุญคุณความแค้นแบบนักรบ หรือคุณธรรมแบบอัศวิน หรือหลักการจริยธรรมใดๆก็ตาม ให้มันเกิดสำนึกได้ให้มากที่สุด อาจจะไม่สามารถทำให้คนบาปกลับใจได้เต็มที่ แต่อย่างน้อยก็เพิ่มหลักประกันความปลอดภัยของสองแม่ลูกนี้"

การงานของทูตสวรรค์ทั้งสามที่ขับเคลื่อนลิขิตฟ้าให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปเล็กน้อย ไม่ทำให้จิตวิญญาณอื่นจับพบความผิดปกติใดๆ แต่ไม่อาจหลบพ้นจากญาณทัศนาของทูตสวรรค์แห่งเมืองลามีเซีย ริคูเอล(Riquel)คือทูตสวรรค์ที่ลงมาทำภารกิจเมื่อมนุษย์มาตั้งบ้านเมืองที่นี่จนสถาปนาเป็นเมืองเล็กๆ เมื่อเขามาถึงก็ได้พบทูตสวรรค์ที่สง่างามที่พิทักษ์เกาะนี้อยู่ก่อนแล้ว เขาปลาบปลื้มชื่นชมไอซาเอล และภูมิใจที่ได้ร่วมงานกันมานับพันปี แต่เวลานี้เหมือนภารกิจของเขากำลังจะจบลงเสียแล้ว ทูตสวรรค์ที่พิทักษ์เมืองท่าถูกเรียกกลับ และเมื่อเมืองหลวงนี้ถูกยึดเขาก็อาจจะต้องจากไปเช่นเธอ และต้องจากไอซาเอลไปด้วย แต่เมื่อมีพลังที่ขับเคลื่อนภารกิจอย่างแนบเนียนเช่นนี้ เขารู้ว่าไอซาเอลกำลังทำอะไรบางอย่าง เขาละจากเมืองหลวง มุ่งสู่กระท่อมริมหาด และพบทูตสวรรค์สามองค์กำลังทำภารกิจ กับชายกลางคนคนหนึ่งที่กำลังเล่าเรื่องราวที่จริงบ้างเท็จบ้างให้เด็กเดียสปอร่าที่มีหูกระต่ายคนหนึ่งฟังอย่างสนุกสนาน

"ริคูเอล ท่านละเมืองหลวงมาที่นี่ทำไม ข้าศึกกำลังประชิดเมืองไม่ใช่หรือ"

"ข้าอยากถามท่านมากกว่านะไอซาเอล ท่านกำลังวางแผนทำอะไร และ ท่านทั้งสามกำลังทำอะไรกัน"

ไอซาเอลไม่กล้าบอกความคิดของเขา เพราะยังไม่แน่ใจว่า หากริคูเอลรู้ความคิดของเขา จะร่วมมือหรือขัดขวาง

"ท่านจะไม่ชวนข้าร่วมภารกิจกับท่านเหมือนกาลก่อนหรือไอซาเอล ท่านรู้ดีว่า พลังอำนาจของข้ามีมากกว่าสององค์นี้อีกนะ" ริคูเอลถามเย้าเมื่อเห็นว่าไอซาเอลยังคงเงียบ

"ความจริงข้าคิดถึงท่านคนแรกนะ ริคูเอล แต่ข้าก็คิดว่าไม่ควรนำความเดือนร้อนมาให้ท่านจะดีกว่า"

"แต่ข้าสัมผัสได้ว่าท่านไม่เชื่อใจข้าต่างหาก เราอยู่ด้วยกันมาเป็นพันปีแล้วนะ ท่านกลับไม่ไว้ใจข้า" ริคูเอลรู้สึกน้อยใจ และรู้สึกว่าไม่ปกติที่มีทูตสวรรค์ที่ไม่เกี่ยวกับเกาะนี้อยู่ด้วย เขาใช้พลังญาณตรวจย้อนเวลาทันที และ ถึงกับทรุดตัวลงเมื่อรู้ความจริงทั้งหมด

"รู้อยู่แล้วว่าปิดท่านไม่ได้ ญาณในการรู้อดีตและอนาคตของท่านมองได้ไกลกว่าข้าเสียด้วยซ้ำ เพราะต้องดูแลเมืองของมนุษย์อันวุ่นวาย แล้วท่านยังจะอยากร่วมมือกับข้าอยู่ไหมริคูเอล เราอาจถูกสวรรค์ลงโทษได้เลยนะ"

"ทำไมอยู่ๆท่านคิดจะทำอะไรอันตรายแบบนี้ ไอซาเอลท่านไม่ใช่ผู้ที่โง่เขลาหรือบ้าบิ่น แผนที่ท่านคิดมันเป็นไปไม่ได้ เราเปลี่ยนลิขิตสวรรค์ถึงแกนประวัติศาสตร์ขนาดนั้นไม่ได้ ลำพังแค่ท่านพยายามช่วยแม่ลูกคู่นี้ ก็เกิดการกระเพื่อมตัวของกระแสพลังหลักแล้ว ถ้ามากกว่านี้ ท่านอาจสร้างหายนะให้ประวัติศาสตร์ของมนุษย์แล้วทัณฑ์สวรรค์มันจะเกินที่ท่านจะแบกนะ"

ไอซาเอลก้มตัวลงจับบ่าของริคูเอล จ้องมองที่ดวงตางดงามและทรงพลังนั้น

"กลับไปดูแลเมืองหลวงเถอะท่านอาจเหลือเวลาไม่มากที่จะได้ดูแลมัน และขออย่าขัดขวางข้า ไม่ว่าข้าจะทำอะไรข้าพร้อมแลกแล้ว"

ความเงียบปกคลุมชั่วขณะ ริคูเอลจับมือของไอซาเอลที่จับบ่าของเขา "ข้าจะอยู่กับท่าน ตั้งแต่แรกที่มาที่เกาะนี้ เราทำอะไรมากมายมาด้วยกัน และในเมื่อท่านตัดสินใจเช่นนี้ ข้าจะอยู่ข้างท่านเหมือนเคย ขอจงเชื่อใจข้าเถอะ"

ไอซาเอลยิ้ม พยักหน้าเบาๆ ริคูเอล คือผู้ที่เขาภูมิใจที่ได้เป็นสหายและร่วมภารกิจเสมอมา

อัลทาเอลมองดูทั้งสองก็คิดถึงผู้ที่ตนเองต้องจากมาเพื่อทำภารกิจเช่นกัน การงานที่ต่างกันทำให้ไม่อาจร่วมมือกันทำสิ่งใดได้แบบนี้ เขาคิดว่าถ้าภารกิจที่เขาได้รับมอบหมายอยู่นี้จบลงได้เร็วเขาจะได้กลับไปอยู่กับผู้ที่เขาพรากจากมาเช่นกัน แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร นอกจากว่า...
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 09, 2025 11:08 pm

"ลุงยังไม่นอนอีกเหรอ" นิโฮ่ถามเดินเข้ามาใกล้พร้อมตะเกียงในมือ เขาเห็นลุงบาลน์นั่งเหม่อไปที่หน้าต่าง มองดาวบนท้องฟ้า

"อ้อ ลุงยังไม่ง่วงน่ะ คงเพราะนอนมาเป็นวันแล้วล่ะมั้ง"

นิโฮ่นั่งบนเก้าอี้ วางตะเกียงบนโต๊ะ "ลุงมีลูกมีภรรยาหรือเปล่า"

"อะ อือม์ มีสิ มีลูกสาว สองคนแม่ลูกเขาอยู่ดีมีสุขที่บ้านเกิดของลุง ไม่ต้องห่วงเขาหรอก"

"พอหายดี ลุงต้องรีบกลับบ้านนะ ผมน่ะรู้ดีเลย เวลาผมกับแม่รอพ่อกลับบ้าน ต่อให้รู้ว่าพ่อกลับมาเมื่อไร แต่แม่ก็มองไปที่ทะเลไกลๆทุกวัน แม่คงเป็นห่วงพ่อมาก จนวันหนึ่ง ที่พ่อไม่กลับมา แล้วเจอแค่ซากเรือ แม่ก็ร้องไห้ทุกวัน จนวันหนึ่งแม่บอกผมว่าพ่อคงไม่กลับมาแล้ว และไม่ร้องไห้อีก แล้วบอกให้ผมเข้มแข็ง และเป็นเด็กดี ผมก็บอกตัวเองว่าต้องไม่ร้องไห้ และจะทำให้แม่ยิ้มให้ได้ในทุกๆวัน แม้พ่อจะไม่อยู่กับเรา"

"นิโฮ่ เป็นเด็กดีจริงๆนะ เก่งมากเลยตัวนิดเดียวก็รู้จักคิดเหมือนผู้ใหญ่แล้ว พ่อของนิโฮ่ก็ต้องภูมิใจในตัวนิโฮ่มากแน่ๆ"

ดวงตาแป๋วกลมโต ดูวาวระยับ ด้วยความมืดไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำตา หรือเพราะแสงไฟจากตะเกียง

"ลุงรับปากผมนะว่าถ้าหายดีแล้วจะรีบกลับบ้านเลย ไม่แวะเถลไถลที่ไหน ลูกกับเมียของลุง ถ้าเขาได้ข่าวว่าลุงอยู่ในเมืองที่มีสงคราม พวกเขาต้องเป็นห่วงลุงมากแน่ๆ เหมือนผมกับแม่ที่ห่วงพ่อนั่นแหละ"

อัลซิเดสสะกดกลั้นอารมณ์ เพราะเมื่อพูดถึงครอบครัวตนเองที่รู้เต็มอกว่าตัวเขาเองที่นำทัพออกรบ ลูกสาวและภรรยาของเขาก็ร้องไห้ทุกครั้งที่เขาออกสงครามคราวละหลายเดือน วันนี้ที่กระท่อมนี้ ที่เขารู้สึกคิดถึงบ้านมาก เพราะแม้ที่นี่จะเล็กกว่าจวนของแม่ทัพใหญ่ แต่มันคือบ้านจริงๆ มีความรัก ความห่วงใย และความอบอุ่น แล้วยังมีเด็กที่น่ารัก และจิตใจดีแบบนิโฮ่ เขาลุกขึ้นเอื้อมมือไปลูบหัวเด็กน้อย มือสัมผัสไปถูกขนขาวละเอียดที่หูกระต่ายคู่นั้น ความรู้สึกของเขาแปลกไปอย่างบอกไม่ถูก

"ลุงสัญญา จะรีบกลับบ้านแน่นอน นิโฮ่ไม่ต้องห่วงนะ หนูไปนอนเถอะ ลุงว่าจะนอนแล้วเหมือนกัน"

เด็กน้อยยิ้มสดใส "ราตรีสวัสดิ์ หลับฝันดีนะครับ"

"ราตรีสวัสดิ์..." อัลซิเดส อยากพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เขาพูดอะไรไม่ออก เมื่อคิดว่า เป็นเขาเองนี่แหละที่นำอันตรายใหญ่หลวงมายังสองแม่ลูกนี้ เขามองตามหลังนิโฮ่ ร่างเล็กๆและหูหระต่ายคู่นั้นที่แกว่งไปมาลับหายไปจากประตู เขาเอนตัวลงนอน แม้ตาหลับแต่ในหัวยังครุ่นคิดสิ่งต่างๆมากมาย

++++++++++++

"พวกท่านรู้สึกเหมือนที่ข้ารู้สึกไหมว่าเรื่องนี้มันมีอะไรแปลกๆ" ริคูเอล เอ่ยถามเหล่าทูตสวรรค์

"ใช่ ทำไมสองคนนี้มาเจอกัน อะไรนำพาชะตากรรมเช่นนี้ มันราวกับถูกกำหนดไว้แล้ว แม้แต่อารักขทูตสวรรค์ของเขา ไม่ทำสิ่งใด ที่เป็นการช่วยเหลือ แต่เขาก็ยังรอดจากอันตราย โดยไม่ตาย และยังลอยมาที่นี่ มาเจอนิโฮ่" ทรีซาเอลกล่าวด้วยกังวล

"ถ้าทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ทั้งสายน้ำสายลมและกาลเวลา พัดพาชะตากรรมมาเช่นนี้ นี่ย่อมเป็นแผนที่เบื้องบนกำหนดไว้ นั่นแปลว่าการพบกันของสองคนนี้ยังไงก็เกิดขึ้น หลีกเลี่ยงไม่ได้" ไอซาเอลพูดโดยมองไปยังเบื้องบน "ข้าอยากรู้นักว่าแผนการนี้คืออะไรกัน"

"แผนการศักดิ์สิทธิ์ในระดับสูงจะถูกซ่อนพ้นจากทั้งเทพและมาร และแม้แต่ โหราพยากรณ์ใดๆก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ ลำพังญาณทัศนาของข้าลอบดูแผนการศักดิ์สิทธิ์ในระดับสูงไม่ได้มากนัก แต่ถ้าได้พลังอำนาจของทูตสวรรค์อีก4องค์ช่วยหนุน ก็อาจจะข้ามขีดจำกัดนั้นได้" ริคูเอลหันไปมองไอซาเอล

"ท่านจะให้เราทำยังไงได้บ้าง ตอนนี้ เรามีกันแค่4องค์ รวมท่านด้วย" ไอซาเอลถาม

"เราต้องมีพลังของทูตสวรรค์อย่างน้อย4องค์ที่จะเปิดประตูมิติกาลเวลาทั้ง4ทิศ ในขณะที่ข้ามองทุกความเป็นไปได้ในอนาคต ให้นานมากพอ แต่ถ้าลำพังเราตอนนี้ มีกันแค่4องค์ แปลว่า ข้าต้องร่วมเปิดประตูมิติเอง และดูอนาคตไปด้วย ถ้าต้องทำพร้อมกันทั้ง2อย่าง ข้าอาจยังพอมองเห็นได้ แต่อาจจะไม่ปะติดปะต่อ และอาจเห็นได้ไม่ไกลมาก ที่สำคัญ พลังที่ไม่เสถียร จะส่งผลให้มิติมีความแปรปรวนจนอาจถูกล่วงรู้ได้จากเบื้องบน พวกเราอาจถูกจับได้ว่ากำลังทำอะไร พวกท่านยังจะลองเสี่ยงดูไหม" ริคูเอล เอ่ยถามเหล่าทูตสวรรค์

"ข้าเป็นห่วงนิโฮ่มาก แต่ถ้ามันเสี่ยงขนาดนี้ ข้าเองก็..." ทรีซาเอลรำพันด้วยความวิตก

"ทรีซาเอล ท่านเป็นอารักขทูตสวรรค์ของนิโฮ่ ท่านไม่รู้อนาคตของเขาอยู่แล้วหรือ" อัลทาเอลถาม

"ข้ารู้แค่วันต่อวัน ข้าไม่ได้รับการเปิดเผยอนาคตของเขาได้ไกล เขาเป็นชีวิตที่มีเจตจำนงเสรีเป็นตัวแปร"

"พวกที่มีอนาคตกำหนดไว้หลายทางอย่างงั้นหรือ เด็กคนนี้พิเศษกว่าที่คิดซะอีก" ไอซาเอลมองทะลุตัวบ้านลงไปยังเด็กน้อยที่หลับอยู่บนเตียง "เราน่าจะรอดูสถานการณ์ไปก่อน แปลว่าการเลือกใดๆของเด็กคนนี้ อาจเปลี่ยนอนาคตของเขาได้ทุกเมื่อ"


++++++++++++

"เรเชล เมื่อวานตอนเธอกลับไปแล้ว มีพวกหนีตายจากเมืองท่ามาที่นี่ ฉันได้ข่าวมาจากพวกเขาว่า ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่เพราะแม่ทัพคนเก่าที่ตกทะเลหายไป หาร่างไม่เจอ ทำให้พวกมิแกรนเดียบ้าคลั่งซะยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากจะเร่งตามหาร่างของแม่ทัพเพราะคิดว่าอาจรอดชีวิต ยังแถมโกรธแค้นที่มีการแสร้งเจรจาแต่กลับทรยศหักหลัง ทำให้ไม่มีการอ่อนข้อหรือปราณีแล้ว รองแม่ทัพที่ขึ้นมาแทน มันโหดซะยิ่งกว่าคนเก่า สั่งการให้พวกทหารเร่งโจมตีเพื่อบุกประชิดเมืองหลวง ใครขัดขืนมันฆ่าหมด และไล่ตามหาร่างของแม่ทัพที่หายไปตามชายหาด แล้วมีพวกเรือเล็กออกตามหาด้วย เมื่อค่ำชาวบ้านจากฟากโน้นหนีมาทางนี้กันเยอะเลย ทางกลุ่มเดินทางของฉัน เลยปรึกษากันว่าจะรีบออกเดินทางเร็วกว่าเดิม ถ้าเราเก็บข้าวของกันเสร็จเร็ว บ่ายนี้เราอาจจะออกเดินทางกันเลยจากแผนเดิมที่จะหนีกันตอนค่ำ เรากลัวว่าพวกมันจะมาถึงละแวกนี้ก่อนค่ำแล้วน่ะสิ"

"ตายแล้ว ฉันต้องรีบกลับบ้าน ให้นิโฮ่รีบเก็บข้าวของ แล้วจะรีบมาทันที ช่วยบอกคณะเดินทาง โปรดรอฉันกับลูกด้วย"

"ได้ๆ ยังไงพวกเธอต้องมาให้ถึงก่อนบ่ายนะ เพราะฉันอาจให้พวกเขารอกันได้ไม่กี่ชั่วยาม แต่ถ้าพวกสุนัขมิแกรนเดียมันบุกมา ฉันก็ไม่รับประกันนะว่าเขาจะยอมรอ ยังไงก็รีบมาเถอะ ขอให้เธอกับลูกโชคดี มาให้ทันล่ะ"

เรเชลกล่าวขอบคุณภรรยานายเรือ เพื่อนของสามีที่จากไปของเธอ แล้วรีบมุ่งหน้ากลับบ้าน

"นิโฮ่ รีบเก็บของเร็ว บอกลุงบาล์นด้วยเราต้องไปเดี๋ยวนี้เลย"

"ทำไมล่ะแม่ เกิดอะไรขึ้น"

"ในเมืองบอกว่า พวกทหารมิแกรนเดีย ตามหาแม่ทัพของพวกมันที่ตกทะเลว่าอาจรอดชีวิต เขาบอกว่ามันออกเรือเล็กตามหา และไล่ตามหาแถวชายหาดด้วย มันอาจมาถึงหาดนี้ในอีกไม่นาน เราต้องรีบหนีตอนนี้!" ราเชลตะโกนเสียงดัง

"ลุงบาล์นจะไปกับเราไหมแม่"

"แม่ก็ไม่รู้ ลูกถามเขาดูว่าจะไปกับเราไหม ยังไงถ้าเขาไปกับเรา แม่จะลองขอให้คนเจ็บขึ้นเรือเพิ่มอีกคน ตอนนี้เราต้องไปจากที่นี่ก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันนะลูก"

"ลุง ลุง..." นิโฮ่วิ่งเข้ามาในห้องอาหารที่ดัดแปลงเป็นห้องพักคนเจ็บชั่วคราว พบแต่ความว่างเปล่า

"แม่ ลุงบาล์นหายไปแล้ว ผมว่าน่าจะอยู่แถวนี้ เดี๋ยวผมออกไปตาม"

"เดี๋ยว นิโฮ่.. ข้างนอกอันตราย อาจมีพวกทหารศัตรูนะ"

"ผมจะระวังตัว ไม่ต้องห่วงนะแม่ เดี่ยวผมก็กลับมา" นิโฮ่ วิ่งไปกระโดดคว้าดาบสั้นที่แขวนไว้ ชูขึ้น หันมายิ้มให้แม่ ก่อนกระโดดแผล๋ว ออกไปทางหน้าต่าง

"นิโฮ่!!! ยังไงให้หนีกลับมานะลูก อย่าสู้" เรเชลตะโกนเสียงดังไล่หลัง ร่างเล็กนั้นพุ่งไปไกลอย่างรวดเร็ว เธอคิดในใจว่าจุดเด่นของชาวเดียสปอร่า ตระกูลที่เป็นกระต่ายอย่างเธอและลูก คือความเร็วที่เหนือมนุษย์ทั่วไป ดังนั้นถ้าตั้งใจหนีจากมนุษย์จริงๆน่าจะรอดได้แน่

++++++++++++

อัลซิเดสพยายามวิ่งให้เร็วที่สุด แต่สังขารที่บาดเจ็บยับเยินแค่เดินยังลำบาก ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมากที่พยายามวิ่ง เสียงของเรเชลที่ตะโกนดังได้ยินทั่วบ้าน ทำให้อัลซิเดสรู้ว่า เขาต้องตื่นจากฝันดีชั่วขณะนี้ ก่อนความจริงที่โหดร้ายจะตามมา เขาภาวนาให้สองแม่ลูกหนีไปได้ทันโดยไม่ต้องสนใจเขา แล้วเสียงที่คุ้นหูแต่เขาไม่อยากได้ยินตอนนี้เลยก็ดังไล่หลัง

"ลุง ลุงจะไปไหน"

"เอ่อ ลุงได้ยินว่า พวกทหารกำลังจะมา เลยจะรีบไปหาเพื่อน"

"ลุงแต่ทางที่ลุงไปมันคือเมืองท่า จะยิ่งเจอพวกทหารที่มาจากทางนั้นนะ อีกอย่าง อาการลุงยังไม่ค่อยดีเท่าไรเลย ลุงไปกับผมเถอะ"

"ไม่ๆ เธอสองคนรีบหนีไป นิโฮ่กลับไปดูแลแม่เธอรีบพาแม่หนีไปให้ไกล ไม่ต้องห่วงลุง ลุงดูแลตัวเองได้ เดี๋ยวจะซ่อนแถวนี้ให้พวกทหารไปก่อนแล้วจะเดินทางต่อ เด็กดีทำตามที่ลุงบอกนะ"

"ลุงมันอันตรายนะ ลุงบาดเจ็บแล้วจะอยู่คนเดียว..."

"บอกให้ไปไงล่ะ ทำไมดื้อจริง เอานี่ รับไปซะตอบแทนที่เธอกับแม่ช่วยฉันนะ"

อัลซิเดสหยิบก้อนทองที่ซ่อนไว้ออกมา ยื่นให้นิโฮ่

"ผมไม่เอา ผมช่วยลุงไม่ได้หวังสมบัติของลุงนะ แม่บอกว่า ถ้าเราพอจะช่วยใครได้ก็ต้องช่วย ลุงมากับผมเถอะ"

นิโฮ่วิ่งเข้าไปจับมือของแม่ทัพใหญ่ สัมผัสจากมือเล็กๆนั้น ทำให้ความรู้สึกของเขาปั่นป่วนไปหมด เขายืนฝืนการดึงของเด็กน้อย กัดปากจนเลือดซึมออกมา รสเลือดที่ไหลเข้าปาก ทำให้เขาตัดสินใจได้ว่าต้องทำให้สิ่งที่ต้องทำ

"เด็กโง่นี่ บอกให้ไปไง อยากตายนักเหรอ"

เขาผลักร่างเล็กๆจนถลาล้มลงไป แม่ทัพผู้กรำศึกสงครามก้มลงดึงมีดพกที่ซ่อนอยู่ในขากางเกงออกมา

"ไปซะถ้าไม่อยากตาย มีดนี่ทำจากแร่ลงอาคม แข็งแกร่งกว่าดาบกระจอกของแก กลับไปซะหรือจะตายตรงนี้"

"ฮือ ทำไมลุงทำแบบนี้" นิโฮ่น้ำตาคลอ

อัลซิเดสเห็นน้ำตาของนิโฮ่ ก็ยิ่งคิดว่า จะใจอ่อนไม่ได้ ต้องจัดการไล่เด็กน้อยไปให้ได้ เพื่อชีวิตของพวกเขาเอง

"ข้าไม่ใช่ลุงอะไรของแก ข้าไม่ได้ชื่อบาล์น ข้าคืออัลซิเดส แม่ทัพแห่งมิแกรนเดียที่พวกทหารตามหาไงละ ดังนั้น แกรีบไปซะ ก่อนที่จะตายกันทั้งแม่ลูก"

"มะ ไม่จริง ลุง.."

"ปัดโถ่เว้ย พูดไม่รู้เรื่อง ข้าไม่ใช่ลุงบาล์นงี่เง่าอะไรของแก เรื่องโกหกทั้งนั้น เพื่อให้แกช่วยชีวิตฉัน จะมาสำออยบีบน้ำตาทำไม รีบไสหัวไปซะ เร็วเซ่"

"ทุกอย่างที่ลุงเล่าโกหกหมดเลย เหรอ ที่เราคุยกัน เรื่องลูกเมียของลุง เรื่องการค้าขาย การผจญภัย..." นิโฮ่ถามเสียงเบา ใจของเขาแหลกสลาย

"เออ สิวะ ข้อตอแหลเอาตัวรอดไปงั้นแหละ ฟังนิทานสนุกพอแล้วใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวพวกลูกน้องของข้าที่ตามหาข้าจะมาถึง ข้าจะกลับไปแล้วนำทัพกลับมายึดเมืองนี้ไง พวกแกสองคนแม่ลูกรีบหนีไปซะ เห็นแก่ที่ช่วยชีวิตข้า ข้าก็จะไว้ชีวิตพวกแกเป็นการตอบแทน รีบไป ไป๊ ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ"

นิโฮ่ยันตัวลุกขึ้นช้าๆ ดวงตาของเขาเปล่งประกายคมกล้า ชักดาบสั้นออกมาช้าๆ

"ถ้าแกคือแม่ทัพของมิแกรนเดีย ข้าก็ปล่อยแกไปไม่ได้ ชาวเมืองมากมายจะตายเพราะแก"

"นะ.. นิโฮ่ เด็กโง่! อย่าทำแบบนี้!" อัลซิเดสหน้าถอดสี ไม่คาดคิดว่านิโฮ่จะตัดสินใจแบบนี้

"ข้าจะหนีไปได้ยังไง ถ้าแกกลับมาฆ่าชาวเมือง ข้ากับแม่ก็มีความผิดที่ไปช่วยชีวิตแก ข้าต้อง... ต้องช่วยชีวิตชาวเมือง"

ดาบสั้นในมือของเขาสั่น ไม่ใช่เพราะขาดเรี่ยวแรง แต่เพราะกำดาบแน่นจนมือสั่น

"คิดว่าจะสู้กับข้าได้เหรอ แค่เด็กตัวกะเปี๊ยก คิดว่าตัวเองเก่งนักเหรอ ข้าน่ะแม่ทัพเชียวนะเว้ย รีบไสหัวหนีไปซะ ก่อนจะตายตรงนี้"

"ข้าจะแลกชีวิตกับแก!!!" นิโฮ่พุ่งเข้าหาชายร่างใหญ่เร็วปานสายลม
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ จันทร์ มี.ค. 10, 2025 2:46 am

"มะ ไม่นะ" ทรีซาเอลทรุดลงกอดตัวเองแน่น ดวงตาเบิกโพลง เทพสังหรณ์ของเขาบอกเรื่องที่เขากลัวที่สุด

"เกิดอะไรขึ้นทรีซาเอล" ไอซาเอลปราดเข้าไปพยุง

"ความรู้สึกที่ทุกอย่างจะจบสิ้น ความรู้สึกที่พันธกิจจะจบลง สำหรับอารักขทูตสวรรค์อย่างเรา มันเป็นไปได้อย่างเดียว คือการหมดอายุขัยของคนที่เราอารักขา..."

ทูตสวรรค์ทั้ง4พุ่ง ไปยังชายหาด นิโฮ่กำลังพุ่งเข้าใส่อัลซิเดสด้วยดาบสั้นๆ

"การตัดสินใจของนิโฮ่ จะทำให้เขาตาย" ทรีซาเอลร้องไห้ออกมา

ไอซาเอลระเบิดพลังออกมา ปีกทั้งสี่ของเขากางออก กระแสพลังปกคลุมเกาะ เวลาทั้งเกาะช้าลงนับร้อยเท่า ตอนนี้ภาพของนิโฮ่กำลังพุ่งเข้าหาอัลซิเดสดูเหมือนหยุดนิ่ง

"จริงสินะ เพราะอายุขัยของอัลซิเดสที่กำหนดไว้ แปลว่าเขาจะไม่ตายในการต่อสู้นี้ นั่นแปลว่า...." อัลทาเอลรำพึง

"ทางเดียวคือให้นิโฮ่เลิกสู้ แล้วหนีไปกับแม่" ริคูเอลหันไปบอกทรีซาเอล ทรีซาเอลรีบลงไปดลใจนิโฮ่ แต่มันไม่มีช่องว่างเลย เขาตัดสินใจแนวแน่มาก ไม่มีความลังเลของการเปลี่ยนใจเลย

"ไม่ได้เลย ใจของเขามันหมดจดชัดเจนมาก เขาไม่เลือกทางอื่นเลย โธ่เอ๊ย เจ้าเด็กน้อยของข้า" ทรีซาเอลกอดนิโฮ่ ปีกใหญ่ของเขาโอบคลุมร่างเด็กน้อย หวังว่า มันจะช่วยปกป้องเขา

"ถ้ารูปการณ์มาเป็นแบบนี้ แปลว่าจะมีคนชั่วลอยนวล แล้วเด็กเล็กๆที่ไร้เดียงสาต้องตายงั้นเหรอ แผนการบ้าอะไรกัน ริคูเอล ถึงเราจะมีกันแค่4องค์ คงต้องทำแล้ว ถ้าคิดจะช่วยคน เราต้องรู้เหตุการณ์นี้ให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่านิโฮ่จะตายยังไง"

"ทำเถอะ ริคูเอล ถึงมีแค่4องค์ นิโฮ่จะตายแบบนี้ไม่ได้นะ" ทรีซาเอลกล่าวทั้งน้ำตา

ทั้งสี่บินไปยังสี่ทิศเป็นสี่เหลี่ยมครอบคลุมเหตุการณ์เบื้องล่าง ริคูเอลสวดบทภาวนาด้วยภาษาของทูตสวรรค์ ทั้งสามสวดภาวนาตามกัน แล้วกระแสแห่งมิติเวลาก็ไหลเปลี่ยนทิศเปิดมิติออกมา ริคูเอลพยายามเพ่งมองภาพเหตุการณ์ในอนาคตที่เริ่มไหลแปรปรวนสลับกันไปมา เขาพยายามมองหาความเป็นไปได้ทั้งหมดของเหตุการณ์นี้ ทันใดนั้นกระแสพลังของอัลทาเอลก็หยุดลงไป ริคูเอลกลับสู่มิติปัจจุบัน พบว่ามีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขัดขวางอัลทาเอลโดยโอบกอดเขาไว้

"นีวิเอล Neviel เจ้ามาได้ยังไง" อัลทาเอลตกตะลึง

"อัลทาเอล เจ้ากำลังจะทำอะไร เจ้าจะทำความผิดใหญ่หลวงนะ" นีวิเอลจับไหล่อัลทาเอล จ้องมองเขา ร่างงดงามเล็กบอบบาง ของเขาต่างกับร่างกายที่สูงใหญ่แข็งแรงของอัลทาเอลอย่างชัดเจน แต่อัลทาเอลดูจะไม่พยายามต้านทานเขาเลย

"กระแสพลังจากสิ่งที่พวกท่านทำมันรับรู้ไปถึงเบื้องบนแล้วนะ ท่านผู้ทรงปรีชาญาณทั้งสามส่งข้ามาห้ามท่าน อย่าทำในสิ่งที่ท่านกำลังคิดกัน เด็กคนนี้เลือกทางนี้แล้ว ผลย่อมจะเป็นไปตามที่เขาเลือก" นีวิเอลลอยตัวท่ามกลางทูตสวรรค์ทั้งสี่

"ข้า นีวิเอลผู้รับใช้ ณ แท่นบูชาแสงสว่างแห่งสวรรค์ลำดับที่สอง ขอเตือนพวกท่านพวกท่านหยุดแค่นี้ปล่อยให้ชะตากรรมนำพาไป เถิด"

"นีวิเอล ท่านน่ะอยู่แต่บนสรวงสวรรค์ ไม่เคยมาช่วยเหลือดูแลสิ่งมีชีวิตในโลกเช่นพวกเรา ท่านไม่เข้าใจหรอกว่าเราทำเพื่ออะไร" ไอซาเอลพอจะรู้จักทูตสวรรค์องค์นี้อยู่บ้าง ก่อนที่เขาจะลงมาทำหน้าที่บนโลก

"จริงอยู่ ข้าอาจไม่เคยทำหน้าที่แบบพวกท่าน แต่ข้าเองก็คอยมองดูการทำภารกิจของผู้อารักขาดูแลสิ่งมีชีวิตในโลกอยู่เสมอนะ" นีวิเอลหันไปมองอัลทาเอล อัลทาเอลยิ้มออกมาด้วยความดีใจ "ข้าดีใจที่เจอเจ้านะ นึกว่าต้องรอจนอัลซิเดสหมดอายุขัยเราจึงจะได้พบกันอีก"

"ข้าก็ดีใจนะ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าควรดีใจไหม เพราะข้าถูกส่งมาเพื่อขัดขวางสิ่งที่ท่านกำลังจะทำ"

"แค่ส่องดูจากข้างบน อย่าพูดเลยว่าเข้าใจเรา เจ้ารู้หรือไงว่าข้าเสียใจแค่ไหนในเวลานี้" ทรีซาเอลกล่าวด้วยความขุ่นเคือง

"ที่จริงท่านเองไม่ควรเสียใจนะ เด็กน้อยที่ท่านดูแล พอเขาตายแล้วเขาจะพบท่านคนแรกเลยทีเดียว ไม่ดีใจหรือว่าจะได้เห็นหน้าและคุยกันสักที"

"ข้าอยากเห็นเขาเติบโต มีชีวิตและมีอนาคตที่ดีมากกว่าจะให้เขาตายเพื่อจะได้เจอกัน ข้าไม่คิดอะไรเห็นแก่ตัวแบบนั้นหรอก ข้ารอได้ ให้เขาอยู่จนแก่เฒ่า ข้าจะคอยดูแลเขาให้ถึงวันนั้น"

นีวิเอลรู้ว่าถูกว่ากระทบ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ "เชื่อข้าเถอะกลับไปทำหน้าที่ของตน ทุกอย่างตรงนี้หยุดไว้แค่นี้"

ริคูเอลจ้องมองนีวิเอลไม่วางตา อัลทาเอลสังเกตเห็นไม่พอใจ จึงถามขึ้น "ท่านจ้องมองเขาทำไม"

"ข้าไม่ได้จ้องมอง ข้าใช้ญาณทัศนาอยู่ต่างหาก"

"เสียมารยาทเกินไปไหม ท่านผู้พิทักษ์เมือง พลังท่านควรใช้พลังพิเศษของท่านดูแลมนุษย์และใช้มันทำให้วิถีทางของพวกเขาเป็นไปตามครรลองที่ถูกต้อง ไม่ใช่ใช้บิดเบือนชะตากรรมมนุษย์ หรือเที่ยวสอดส่องทูตสวรรค์อื่นแบบนี้นะ" นีวิเอลบินไปอยู่ข้างอัลทาเอล ครานี้ถ้าใครจะทำอะไรกับเขาจะไม่พ้นสายตาอัลทาเอล

"พวกท่านทั้งสองจากกันมานาน อัลทาเอลทำเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากกลับไปอยู่กับท่านเหมือนแต่ก่อนนะท่านผู้คุมกฎ ดูสิเขายังติดชอบดูแลท่านอยู่เลย นี่คงเอียนงานดูแลมนุษย์บาปหนาเต็มทีแล้วล่ะ" ริคูเอลกระเซ้า

นีวิเอลหันไปมองอัลทาเอลซาบซึ้งในความรักและห่วงใยของเขา ริคูเอลได้จังหวะสำทับต่อทันที "ตอนนี้เรามีทูตสวรรค์ห้าองค์แล้วนะ ถ้าจะทำอะไรตอนนี้ อาจจะแนบเนียนจนกระแสพลังไม่ไหวติงให้เบื้องบนรู้ได้เลย

นีวิเอลหันขวับกลับมา "ท่านช่างกล้าชวนข้าทำเรื่องผิดกฎ หรือญาณทัศนาของท่านคงจะเพี้ยนไปแล้วกระมัง เพราะไม่หยั่งรู้ว่ากำลังชวนผิดคน"

"นั่นสินะ ข้าคงเผลอคิดไปว่าท่านจะเหมือนข้า เพราะข้าเลือกอยู่ข้างสหายเมื่อไอซาเอลร้องขอความช่วยเหลือ ข้าไม่ลังเลที่จะช่วยเขา แม้จะเสี่ยงก็ตาม แต่ท่านสองคนเป็นสหายรักกันยิ่งกว่าพวกข้า ก็ไม่นึกว่าจะเลือกทิ้งเพื่อน"

นีวิเอลเหมือนถูกฟาดเข้าจุดอ่อน พยายามสะกดกลั้นความโกรธ "อัลทาเอล เจ้าเชื่อข้าเถอะ ปล่อยพวกนี้ทำผิดไป เจ้าอย่าไปมีส่วนกับเขา"

"ไม่ได้หรอก ข้าคือผู้อารักขาอัลซิเดส แผนการของพวกเขาจะไม่สำเร็จถ้าข้าไม่ร่วมมือ"

"นี่ เจ้า..."

"เจ้าก็มาร่วมกับเราเถอะ ข้าตัดสินใจแล้ว และอยากขอให้เจ้าช่วยด้วย" อัลทาเอลจับมือของนีวิเอล

"ข้าไม่มีทางทำแบบนั้น เจ้าก็รู้" นีวิเอลดึงมือออก

"เมื่อครู่มันพลาดไปเพราะคนไม่พอ แต่ถ้าเจ้าช่วยเราคราวนี้มันต้องสำเร็จ"

"ข้าไม่ช่วย อัลทาเอลเจ้าจะเลือกทำผิดกับสหายใหม่แบบพวกนั้น หรือเลือกสหายเก่าอย่างข้า" นีวิเอลยื่นคำขาดที่เขาเชื่อว่าอัลทาเอลจะไม่กล้าปฏิเสธ

อัลทาเอลกล่าวเสียงเศร้า "เอาเถิด ถ้าเจ้าไม่เข้าใจข้า ข้าก็ขอเจ้าอย่าขัดขวางเราเลย"

นีวิเอลโกรธ "เจ้ามันบ้า ถ้าทำอีกครั้งคราวนี้เจอทัพสวรรค์ลงมาแน่"

"งั้นเจ้าช่วยเราสิ ถ้ามีสี่องค์เปิดมิติเวลา แล้วริคูเอลดูอนาคต จะไม่มีการสั่นไหวของมิติที่มากพอที่เบื้องบนจะรู้ได้" ไอซาเอลขอร้อง

"เมื่อครู่ข้าเห็นหนทางบางอย่างในความเป็นไปได้ มันมีทางที่ต่างออกไป ขอข้าดูอีกที เพราะความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากการตัดสินใจของนิโฮ่ ถ้าเขาเปลี่ยนการตัดสินใจ อนาคตเขาจะเปลี่ยนใช่ไหมล่ะ ทรีซาเอล เจ้าบอกเราเอง" ริคูเอลหันไปพูดกับทรีซาเอล

"หมายความว่ายังไง ก็ข้าไม่สามารถทำให้นิโฮ่เปลี่ยนใจ หนีไปกับแม่ ได้"ทรีซาเอลงุนงง

"ก็ไม่ต้องเปลี่ยนใจเรื่องนั้น ข้าจะดูว่าเปลี่ยนใจเรื่องอื่นได้อีกไหมไงล่ะ เรามาเปิดมิติอีกครั้งไม่นานเท่าครั้งแรกแล้ว ยิ่งถ้ามีห้าองค์พิธีกรรมจะสมบูรณ์ไม่มีใครจับได้ว่าเราทำซ้ำ ข้าขอดูอีกนิดเดียวเท่านั้น" ริกูเอลกล่าวอย่างมั่นใจ

"ถ้าเราทำให้นิโฮ่เปลี่ยนใจเอง แบบนี้พวกเราจะไม่ผิดจริงไหม ถ้าท่านช่วย แล้วสำเร็จ อัลทาเอลก็จะไม่ผิดด้วย" ไอซาเอลสำทับ

นีวิเอลหันไปมองอัลทาเอลที่มองเขาอย่างเศร้าสร้อย "เพราะเจ้าขอร้องนะ อัลทาเอล ข้าจะแค่เปิดมิติให้แค่ชั่วกระพริบตาเท่านั้นนะ ถ้าเจ้าดูไม่ทันก็ช่างพวกเจ้าแล้ว และข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับแผนบ้าบอของพวกเจ้าอีก"

ทูตสวรรค์ทั้งห้าเริ่มพิธีกรรมอีกครั้ง กระแสพลังมิติเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย ในเสี้ยวพริบตาเท่านั้นก็กลับสู่สภาพเดิม ทุกคนเห็นว่านีวิเอลไม่อยู่ที่นั่นแล้ว

"แย่ละถ้าเขากลับไปฟ้องเบื้องบน พวกเราแย่แน่" ไอซาเอลกังวล

"เขารับปากข้าแล้ว ต่อให้โกรธแค่ไหน แต่เขาก็ไม่หักหลังข้าแน่" อัลทาเอลกล่าวเสียงเศร้า

"ข้ารู้ว่าเขารักท่านเกินกว่าจะปล่อยให้ท่านเดือดร้อน แต่ข้ามีข่าวดีบอกทุกคน ข้าเห็นแล้วแค่เสี้ยวพริบตา ความเป็นไปได้ในการตัดสินใจของนิโฮ่ที่จะเปลี่ยนเรื่องนี้"
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ จันทร์ มี.ค. 10, 2025 7:16 am

นิโฮ่พุ่งเข้าใส่อัลซิเดส ความเร็วเหนือมนุษย์นั้น ทำให้อัลซิเดสตกตะลึง และรู้ตัวว่า เขาประมาทเด็กน้อยมากเกินไป ดาบสั้นตวัดจนเขาหลบแทบไม่ทัน ยิ่งในสภาพที่ร่างกายบาดเจ็บเช่นนี้ เขาเชื่อว่า เขาสู้แรงเด็กอย่างนิโฮ่ได้ แต่ด้วยความเร็วระดับนี้ ดาบสั้นอันเล็กๆที่ซื้อถูกๆมาจากตลาด ก็อาจฆ่าเขาได้เหมือนกัน

"หยุดนะนิโฮ่" อัลซิเดสตะหวัดมีด ปัดดาบของนิโฮ่ ร่างเล็กลอยไปตามแรง แล้วตีลังกากลับมายืนได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะถีบพื้น พุ่งตัวเข้าใส่อีกครั้ง อัลซิเดสรีบเบี่ยงตัวหลบ ดาบเล็กบาดต้นขาเขา แผลไม่ลึก อัลซิเดสรีบเตะสวนด้วยขาอีกข้าง แต่ร่างเล็กนั้นหลบรวดเร็วมาก อัลซิเดสคิดว่านี่คือคู่ต่อสู้ที่ประมาทไม่ได้เลย เขามองเด็กน้อย ที่หอบเบาๆ ถือดาบเตรียมพร้อมเข้าใส่เขา ถ้าเด็กคนนี้ได้ฝึกการต่อสู้และเติบใหญ่ เขาต้องเป็นนักสู้ที่เก่งกาจมาก ด้วยพรสวรรค์ของสายตระกูลและเผ่าพันธุ์

"มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้" อัลซิเดสตะโกน

"มันจำเป็น" นิโฮ่พุ่งเข้าใส่อีกครั้ง การเข้าโจมตีของนิโฮ่นั้นมีความเร็วเหนือมนุษย์ แต่สิ่งที่เขาขาดคือชั้นเชิงเพลงดาบ อัลซิเดสจับทางได้ หมุนตัวหลบและฟันศอกสวน ร่างเล็กกระเด็นไปกลิ้งลงกับพื้น อัลซิเดสใจหาย พอเห็นร่างนั้นลุกกลับมาได้ช้าๆ เขาก็ถอนใจ เขาไม่เคยโล่งใจที่ศัตรูกลับยืนได้มาก่อน

"เจ้าแพ้แล้วนิโฮ่กลับไปซะ"

"ไม่ ผมไม่แพ้"

คราวนี้นิโฮ่พุ่งตัวลงต่ำแทบติดดินพ้นจากรัศมีที่มือและมีดพกจะเอื้อมถึง พอใกล้ตัวอัลซิเดส ก็ตีลังกา เอามือยันพื้นดีดตัวเตะเข้าปลายคาง แล้วถีบอกจนซ้ำจนอัลซิเดสล้มลงบนทราย ก่อนจะกระโดคร่อม และฟาดดาบลงไป อัลซิเดสรีบยกมีดรับ

++++++++++++

อีกครั้งที่ในมิติจิตวิญญาณภาพนี้กลายเป็นภาพช้าจนเกือบจะนิ่ง

"จุดเปลี่ยนจะอยู่ที่นี่" ริคูเอลมองร่างทั้งสองที่ชุลมุนบนพื้น

"นิโฮ่ไม่อยากฆ่าคน การตัดสินใจของเขาจึงช้าลง นั่นทำให้เขาลงดาบช้ากว่ามีดสั้นที่สวนมา มันปักอกเขาพอดี"

"โธ่เอ๊ย เธอตายเพราะความใจดีของตัวเองเหรอ" ทรีซาเอลน้ำตาไหล

"ท่านต้องลงไปทำให้เขาตัดสินใจเฉียบขาดไม่ลังเล แล้วดาบของเขาจะลงไปถึงก่อน"

ทรีซาเอลพุ่งลงไปหานิโฮ่ทันที

"นั่นหมายความว่าอัลซิเดสจะโดนดาบของนิโฮ่" อัลทาเอลถาม

"ท่านจะเสี่ยงดูไหมล่ะ ท่านแค่ไม่ต้องทำอะไร ถ้าเจ้านี่ถูกกำหนดให้อีกนานกว่าจะตาย คราวนี้มันอาจไม่ตาย อาจจะแค่บาดเจ็บก็ได้" ไอซาเอลถามอัลทาเอล และมองอัลซิเดสด้วยสายตาเย็นชา

"ปกติข้าก็ไม่ค่อยได้ช่วย ก็เห็นรอดตายเองมาตลอด คราวนี้ก็คงอย่างนั้น" อัลทาเอลมองอัลซิเดสด้วยสายตาเย็นชาเช่นกัน

ทรีซาเอลทุ่มพลังลงไปยังการตัดสินใจของนิโฮ่ให้เขากล้าหาญ และเด็ดเดี่ยว และปิดความใจอ่อนของเขา


++++++++++++

เลือดของอัลซิเดสสาดเข้าหน้าของนิโฮ่ เขามองนิโฮ่ ปากเหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดาบที่เสียบลงไปที่คอของเขา ทำให้เลือดทะลักเข้าคอและไหลออกจากปาก จนไม่อาจเปล่งเสียง มีดของเขาเฉียดไหล่ของเด็กน้อย ก่อนที่ตาของเขาจะมองภาพสุดท้ายคือเด็กน้อยที่มีหูกระต่ายสีขาว ตอนนี้เต็มไปด้วยสีแดงของเลือดที่ชะโลมทั่ว น้ำตาเอ่อออกมาและเลือดที่ทะลักออกจากปากก้อนใหญ่ และลมหายใจสุดท้ายที่หมดลง

"กรี๊ด นิโฮ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น" เรเชลวิ่งออกมาตามลูกชายเห็นภาพตรงหน้า กรีดร้องด้วยความตกตะลึง ทันใดนั้น ก็มีทหารกลุ่มหนึ่งจำนวน 5 คน วิ่งออกมาจากแนวโขดหินริมหาด

"พวกแกหยุดอยู่ตรงนั้นนะ"

"เฮ้ย นั่นใช่ท่านแม่ทัพไหม"

พวกทหารวิ่งเข้ามาใกล้ คนหนึ่งก็ร้องว่า "ใช่! ท่านแม่ทัพ ไอ้เด็กนี่ มันฆ่าท่าน"

"ฆ่ามัน"

หนึ่งในทหารนั้นยกธนูยิงใส่นิโฮ่ เด็กน้อยดวงตาแข็งกร้าวราวกับไร้วิญญาณ พุ่งหลบลูกธนูอย่างรวดเร็ว และกระโดดปาดคอทหารที่ยิงธนูมา หลบดาบของอีกคนและแทงสวนเข้าที่ลำตัว ร่างเล็กนั้นเคลื่อนด้วยด้วยความเร็วที่แทบมองตามไม่ทัน ร่างของทหารร่วงลงนอนตายทีละคน จนดาบสั้นของเขาปักอกทหารคนสุดท้าย เรเชลนั่งกองบนพื้นตัวสั่น นิโฮ่ที่เดินมาหาแม่ของตนยื่นมือที่เต็มไปด้วยเลือดพยุงร่างแม่ของเขา หน้าชุมโชกไปด้วยเลือดกล่าวเสียงเด็ดเดี่ยว "แม่ไม่เป็นไรนะ ผมจะปกป้องแม่เอง"

++++++++++++

ในมิติแห่งจิตวิญญาณ ท้องฟ้าสั่นสะเทือนและเปิดออก กองทัพอัศวินสวรรค์ลงมา เต็มชายหาด และคุมตัวทูตสวรรค์ทั้งสี่ ไปยังการพิพากษา

หน้าบัลลังก์ความเที่ยงธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ทำหน้าที่พิพากษา5องค์ และลูกขุนอีก7องค์ และสักขีพยานเป็นทูตสวรรค์มากมายมหาศาล

ทูตสวรรค์ทั้งสี่ไม่คาดคิดว่า จะมีทูตสวรรค์อีกองค์คือนีวิเอล ที่ต้องถูกพิพากษาด้วย

"พวกเจ้ามีความผิดมหันต์ พวกเจ้าได้สร้างหายนะให้ผู้คนมากมาย จะยอมรับความผิดไหม"

"ข้าไม่ยอมรับ เราแค่ช่วยเด็กคนหนึ่ง และเป็นผลให้คนชั่วคนหนึ่งตายก่อนอายุขัย ถ้าเราจะผิดก็มีเท่านี้"ไอซาเอลตะโกน

"ข้ายอมรับผิด ข้ารับผิดทั้งหมด นีวิเอลไม่ผิด เขาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ โปรดลงโทษข้าแทน ลงโทษข้าคนเดียวเถอะ" อัลทาเอลก้มกราบวิงวอน

เสียงดังจากบัลลังก์
"อัลทาเอล เจ้าผิดแน่อยู่แล้วในการไม่พิทักษ์ชีวิตของคนที่เจ้าดูแล ปล่อยให้เขาตายก่อนอายุขัย แต่สิ่งที่เจ้าละเลยไปมันส่งผลยิ่งกว่านั้นมาก ซึ่งพวกเจ้าทุกองค์รับผิดชอบไม่ไหวและแก้ไขไม่ได้"

"ผลสืบเนื่องจากความผิดบาปงั้นหรือ" ริคูเอลรำพึงเบาๆ

"แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าผลที่พวกเจ้าทำได้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โลกไปอย่างไร"

ทั้งห้านิ่งเงียบ โดยเฉพาะทรีซาเอลที่พูดอะไรไม่ออกเลย เขายังคงติดในความทรงจำที่เห็น นิโฮ่ กลายเป็นเด็กที่โหดร้ายเลือดเย็น เหมือนไม่ใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาคนเดิมที่เขารู้จัก

เสียงจากบัลลังก์ดังอีกครั้ง "พวกเจ้าคงยังไม่เข้าใจว่าตนเองมีความผิดอะไร และผิดเพียงไร จนกว่าจะได้รู้ว่าพวกตนได้ทำสิ่งใดลงไป เราจะขอให้ทูตสวรรค์เครูบิมผู้ทรงปรีชาญาณทั้งสาม เปิดเผยประวัติศาสตร์ที่ถูกกำหนดไว้ว่าแท้จริงแล้วต้องเป็นเช่นไร"

ทูตสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามปรากฎกายขึ้นกลางโถงของศาล พลังแผ่พุ่งไปทั่ว ทุกคนที่นั่นได้เห็นนิมิตของสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นอย่างแจ่มชัดและพร้อมเพรียงกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ จันทร์ มี.ค. 10, 2025 8:19 am

ภาพของนิโฮ่ที่ชายหาดกำลังต่อสู้กับอัลซิเดส ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่เมื่อถึงตอนที่พวกไอซาเอลชะลอเวลาเพื่อเปลี่ยนการตัดสินใจของนิโฮ่นั้นไม่ได้เกิดขึ้น เหตุการณ์ยังดำเนินต่อไป

นิโฮ่พุ่งตัวลงต่ำแทบติดดินพ้นจากรัศมีที่มือและมีดพกจะเอื้อมถึง พอใกล้ตัวอัลซิเดส ก็ตีลังกา เอามือยันพื้นดีดตัวเตะเข้าปลายคาง แล้วถีบอกจนซ้ำจนอัลซิเดสล้มลงบนทราย ก่อนจะกระโดคร่อม และฟาดดาบลงไป อัลซิเดสรีบยกมีดรับ จังหวะนั้นที่นิโฮ่เห็นหน้าของอัลซิเดสชัดเจน ความสับสนที่เข้ามา ชายที่เขาเรียกลุงบาล์น ที่คุยสนุก ใจดี คือแม่ทัพศัตรูที่เข่นฆ่าชาวเมืองงั้นหรือ ในชีวิตนิโฮ่เป็นแค่เด็กน้อย เขาไม่เคยแม้แต่จะฆ่าสัตว์สักตัว แรงเหวี่ยงดาบของเขาเบาลง และชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่มีดของอัลซิเดสซึ่งปัดป้องสุดแรงจะปัดดาบกระเด็น แล้วมีดนั้นก็ปักที่หัวใจน้อยๆของนิโฮ่ หูสีขาวตกลู่ลง ร่างเล็กๆล้มลงกับพื้นทราย

"นิโฮ่!!! ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนี้" อัลซิเดสอุ้มร่างเด็กน้อย พยายามเขย่าหน้าของเขา "อย่าตายนะ อย่าตาย ลุงไม่ได้ตั้งใจ โธ่ เว้ยยย" น้ำตาของแม่ทัพใหญ่ ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

"กรี๊ด นิโฮ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น" เรเชลวิ่งออกมาตามลูกชายเห็นภาพตรงหน้า กรีดร้องด้วยความตกตะลึง "แก แกทำอะไรลูกฉัน" เธอคว้าดาบสั้นที่กระเด็นอยู่ไม่ไกลวิ่งเข้าใส่อัลซิเดส อัลซิเดสมองเรเชลวิ่งถือดาบสั้นเข้ามา ภาพพร่ามัวด้วยน้ำตาที่เอ่อเต็ม สมองของเขาไม่สั่งการตอบโต้ใดๆ พึมพำเพียงว่า "ข้าจะชดใช้ชีวิตให้" ทันใดนั้นธนูดอกหนึ่ง ก็ปักเข้าที่ร่างของเรเชลจนเธอชะงักไป ก่อนที่อีกดอกหนึ่งจะพุ่งมาปักที่ร่างของเธอจนล้มลงสิ้นใจ

"ท่านแม่ทัพ" ทหารกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามา

"เรามาช่วยแล้วขอรับ" หนึ่งในนั้นร้องตะโกน

อัลซิเดสหันไปในอ้อมแขนของเขายังอุ้มร่างน้อยๆของนิโฮ่ ตะโกนสุดเสียง เส้นเลือดแทบแตกด้วยความโกรธ

"พวกแกทำบ้าอะไร ไอ้พวกโง่ ไอ้..." แล้วอัลซิเดสก็ล้มลง หมดสติ ในอ้อมแขนของเขายังกอดร่างของเด็กที่มีหูกระต่ายคนหนึ่งไว้แน่น


ในฉับพลันก็มีเสียงสอดแทรก "นี่ไงล่ะ แผนสวรรค์อะไรกัน เด็กกับผู้หญิงต้องมาตาย แม่กับลูกต้องมาตายอย่างอนาถ ในขณะที่คนชั่วก็ก่อกรรมทำชั่วต่อไป แต่เราช่วยพวกเขากลับมาต้องโทษ" ไอซาเอลตะโกนขึ้น ทำให้ภาพนิมิตหายไปเพราะสมาธิของทุกคนถูกรบกวน

"เรื่องนี้แค่จุดเริ่มต้น แต่ยังไม่จบหรอกนะ เจ้าจงสงบปากเจ้าก่อนเถอะ" เสียงดังกึกก้อง รวบรวมความสนใจของทุกคนกลับมาอีกครั้ง


ภาพนิมิตเกิดขึ้นอีกครั้ง

อัลซิเดสที่ได้สติฟื้นขึ้นในค่าย ทหารที่เฝ้าได้รีบตามรองแม่ทัพรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น และแจ้งว่าตอนนี้ใกล้ยึดเมืองหลวงได้แล้ว และบอกว่า แพทย์ทหารแนะนำให้รีบส่งเขากลับไปรักษาที่เมืองหลวง อัลซิเดสดูเหมือนไม่สนใจผลการรบ แต่สิ่งแรกที่เขาอยากรู้คือ เด็กที่มีหูกระต่ายกับแม่ของเขาเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อรู้ว่าทั้งสองเสียชีวิตแล้ว และทหารทิ้งศพไว้ที่เกิดเหตุนั้น อัลซิเดสสั่งให้ทหารนำเขาไปที่นั่น ร่างทั้งสองยังคงนอนไร้ลมหายใจบนชายหาด ภาพเหตุการณ์เสียชีวิตของทั้งสองกลับมา สะเทือนใจจนอัลซิเดสแทบยืนไม่อยู่ แต่ด้วยความที่ในเวลานี้เขาคือแม่ทัพต่อหน้าเหล่าทหาร เขาจำต้องสะกดท่าที และความรู้สึก เขากลั้นน้ำตาจนดวงตาแดงก่ำ และกัดฟันจนปวดกรามไปหมด สั่งให้ทหารนำศพทั้งสองไปฝังที่ข้างกระท่อมริมหาด อัลซิเดสให้ฝังทั้งสองในหลุมเดียวกัน และสั่งให้ทำป้ายชื่อของทั้งสองไว้ด้วย เขาสั่งให้ทหารไปลาดตระเวณความปลอดภัยรอบๆให้ห่างจากกระท่อมนี้ ก่อนจะเดินดูในกระท่อม และนั่งบนเก้าอี้ในห้องอาหาร ที่นิโฮ่เคยนั่งคุยกับเขาแล้วซบหน้าลงร้องไห้อย่างเงียบที่สุด แต่ขมขื่นใจยิ่งนัก

เมื่อกลับมาอัลซิเดสสั่งให้พักการรบ โดยให้รองแม่ทัพควบคุมเมืองไว้ แต่ยังไม่ต้องรุกคืบไปจนกว่าเขาจะรักษาตัวและกลับมา เขารู้ดีว่า รองแม่ทัพนั้นเหี้ ยมโหดถ้าให้บัญชาการรบเองจะรุนแรงบางครั้งอาจถึงกับไร้คุณธรรม ชาวเมืองลามีเซียบาดเจ็บล้มตามมากกว่าครึ่งในช่วงที่เขาหายไป บางส่วนอพยพหนีไป และเหลือเพียงผู้ที่ไม่สามารถหนีไปและหลบซ่อนตัวไม่ถึงร้อยคนจากเดิมที่มีคนนับหมื่นบนเกาะแห่งนี้ บ้านเมืองก็เสียหายจนยากฟื้นฟู

เมื่อกลับถึงเมืองและรักษาตัวเขากราบทูลจักรพรรดิ์ไดคูนผู้เป็นพี่ชายในการลดการขยายจักรวรรดิ์ด้วยการรบ แต่ให้ใช้วิธีการทูตแทน ซึ่งไดคูนไม่เห็นด้วยและไม่เชื่อว่าจะนำความยิ่งใหญ่มาสู่จักรวรรดิ์ได้ อัลซิเดสกลับไปยังสนามรบ เขาพยายามตรึงกำลังไว้ที่เกาะลามีเซีย โดยไม่รุกคืบ และพยายามดำเนินการเจรจากับเกาะที่เหลือ ถ่วงเวลาการรบให้ยืดเยื้อ เขามักไปที่กระท่อมริมหาดเพื่อเคารพศพของเรเชลและนิโฮ่ บางครั้งก็นำดอกไม้ไปวาง และเล่าเรื่องราวต่างๆให้นิโฮ่ฟัง ราวกับว่าเด็กน้อยยังมีชีวิตและนั่งฟังเขาอย่างสนุกสนานเหมือนวันนั้น

2ปีต่อมา ไดคูนป่วยเป็นโรคผิวหนังเป็นฝีพุพองทั่วตัว อัลซิเดสได้โอกาสยกทัพกลับเมืองหลวง ไดคูนไม่มีรัชทายาท จึงยกราชสมบัติให้อัลซิเดสผู้เป็นน้องชาย ก่อนจะตายด้วยความทุกข์ทรมาน

อัลซิเดสขึ้นครองราชย์ ประกาศเจรจาสันติภาพกับเมืองต่างๆ และหลีกเลี่ยงสงครามให้มากที่สุด เขากลับไปที่เกาะลามีเซียเริ่มฟื้นฟูเมืองขึ้น เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น ซานนิโฮ เขาได้ให้ทำการสร้างรูปสลักของนิโฮ่และเรเชล เป็นรูปสลักหินอ่อนสีขาว เป็นแม่ที่นั่งบนเก้าอี้ มีลูกชายวัย6ขวบของเธอนั่งบนตัก ทั้งสองมีหูเป็นกระต่าย เด็กน้อยยกมือขึ้นในท่าโบกมือให้ผู้คนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เรื่องราวของนิโฮ่และแม่ของเขา ถูกเล่าขาน และบันทึก เป็นอัตชีวประวัติบุคคลสำคัญ เป็นเรื่องที่สอนในโรงเรียน ในฐานะของผู้ที่ทำให้แม่ทัพผู้โหดร้ายได้กลับใจกลายเป็นจักรพรรดิ์ที่แสวงหาสันติ มีการตั้งโบสถ์ซานนิโฮขึ้นที่หลุมศพของทั้งสอง และได้นำรูปของทั้งสองมาประดิษฐานไว้ใกล้กระท่อมริมหาด ที่ถูกอนุรักษ์เป็นโบราณสถานและแหล่งเรียนรู้ ผู้คนเริ่มเดินทางแสวงบุญมาที่นี่ เพราะความเคารพนับถือที่ประชาชนมีต่อนิโฮ่และเรเชล มีการนำดอกไม้มาตกแต่ง และจัดงานระลึกถึงในวันเสียชีวิตของทั้งสอง ภาพของแม่ที่อุ้มลูกไว้บนตักโดยเด็กน้อยยกมือขึ้นให้ผู้คน กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักบุญแห่งสันติภาพของชาวเมืองซานนิโฮและรวมถึงทั้งทวีปโทร่า เป็นแรงบันดาลใจในการรักษาสันติภาพของผู้คน ที่ได้แสดงให้เห็นว่า สงครามนั้นโหดร้ายและทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างไร มิแกรนเดียและเมืองน้อยใหญ่ปลอดสงครามและมีสันติภาพต่อมานับร้อยปี

แต่สิ่งเหล่านี้ ไม่อาจเกิดขึ้นเสียแล้ว....

ทรีซาเอลน้ำตาไหลพูดอะไรไม่ออก คำพูดของนีวิเอลที่ว่านิโฮ่ตายในเวลานี้ เป็นเรื่องดีแล้ว ไม่ใช่การพูดแบบเห็นแก่ตัวหรือไร้หัวใจ แต่เขารู้แน่แก่ใจแล้วว่า นิโฮ่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ตั้งแต่เขาดูแลนิโฮ่มาก็รู้สึกเสมอว่า เด็กคนนี้ดีเกินกว่าจะอยู่ในโลกที่มีความโหดร้ายและความบาปต่างๆเช่นนี้ เขาเองต่างหากที่คิดถึงแต่ความต้องการของตัวเองอยากเห็นนิโฮ่ไปนานๆอยากอยู่กับนิโฮ่ตัวน้อยโดยลืมนึกไปว่านิโฮ่ไม่ได้เป็นเด็กไปตลอดกาล การที่นิโฮ่จากโลกนี้ไปต่างหากที่ภาพในความทรงจำของทุกคน เขาจะเป็นภาพของเด็กน้อยที่แสนดีคนเดิมไปตลอดกาล

ริคูเอลนั่นก้มหน้านิ่ง การมีญาณทัศนาเหนือกว่าทูตสวรรค์บางองค์ ทำให้เขาหลงตัวเองไปว่าตนเองนั้นเก่งและทรงปัญญาพอ แต่การหยั่งรู้ของเขาเมื่อเทียบกับเหล่าทวยเทพชั้นสูง เหมือนแสงตะเกียงกับดวงอาทิตย์ ตะเกียงที่ส่องสว่างเพียงแสงสลัวได้ในยามค่ำเห็นห่างไปไม่กี่คืบกี่ศอกจากตัวเอง ไม่ชัดเจน และไม่ไกล แต่เหล่าผู้อยู่เหนือกาลเวลาที่เห็นจนจรดวันสิ้นจักรวาล ก็เหมือนแสงอาทิตย์ที่ไล่ความมืดหายไปจนสุดสายตา แผนของเขากลายเป็นความผิดพลาดที่ไม่อาจให้อภัยเมื่ออยู่ต่อหน้าลิขิตสวรรค์

ปีกทั้งสี่ของไอซาเอลลู่ลงกองบนพื้น ใจของเขายอมรับว่า เขาอยากเห็นนิมิตนี้เกิดขึ้นจริง มันมีสันติสุขที่ยาวนานเป็นร้อยปี ที่สำคัญ ถ้านิโฮ่และแม่จะได้รับการเคารพขนาดนี้ ทั้งสองตอนนี้คงอยู่ในสวรรค์ในฐานะผู้ที่จะเป็นนักบุญของชาวโลกในไม่ช้า และเขาเองก็จะดูแลเกาะที่ตั้งสักการะสถานของทั้งสองเป็นอย่างดี จะช่วยดลบันดาลให้คำอธิษฐานของคนมากมายที่มาที่นี่ได้สำเร็จเป็นจริง

อัลทาเอลมองไปยังนีวิเอล ซึ่งอยู่ห่างออกไปและเมินหน้าจากเขาด้วยความโกรธ เขาทั้งเสียใจที่ทำให้นีวิเอลเดือดร้อนไปด้วย ก็ยังเสียใจว่าสวรรค์ได้มอบโอกาสในภารกิจที่พิเศษมากและหายากยิ่ง คือการที่เขาจะช่วยให้คนบาปมหันต์คนหนึ่งกลับตัวกลับใจและกลับสร้างคุณูปการแก่ส่วนรวมเพื่อชดเชยบาป แม้มันจะไม่อาจชดเชยได้ทั้งหมด แต่สิ่งดีที่เขาทำก็ยิ่งใหญ่มากและส่งผลต่อผู้คนมากหลาย มันจะน่าภูมิใจสักแค่ไหน ถ้าเขาได้มีส่วนช่วยให้อัลซิเดสกลับใจ และคอยช่วยให้คนผู้นี้ทำคุณงามความดี แต่ทว่าตอนนี้ ชายคนนี้ไม่มีโอกาสจะกลับตัวกลับใจ และสร้างคุณความดีใดๆเสียแล้ว


ภาพนิมิตอนาคตของสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ ก็ปรากฎขึ้น

เมื่อนิโฮ่ฆ่าคนเป็นครั้งแรก มโนธรรมของเขาก็แปดเปื้อน การฆ่าคนที่มีเหตุผลรองรับ และยังได้รับการชื่นชมจากผู้คน จิตใจของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย และเมื่อทุกคนยกย่องให้เขาเป็นวีรบุรุษจากการฆ่าแม่ทัพอัลซิเดสแห่งมิแกรนเดีย เขากลายเป็นเด็กที่มีภาระต้องแบกนั่นคือการกอบกู้และป้องกันบ้านเมือง นิโฮ่ไม่อาจจะทำตัวอ่อนแอ หรือทำตัวแบบเด็กๆ เขาต้องเตือนตัวเองให้เย็นชา และเด็ดขาด อีกทั้งใช้กำลังสร้างความรุนแรงตัดสินปัญหาต่างๆง่ายขึ้น เขาเริ่มฝึกดาบอย่างจริงจัง และเก่งกาจรุดหน้ารวดเร็ว

และในปีต่อมา รองแม่ทัพแห่งมิแกรนเดียผู้ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพแทน ตัดสินใจบุกยึดลามีเซียอีกครั้ง แต่คราวนี้ชาวลามีเซียฮึกเหิม และมีกำลังใจมากขึ้น นิโฮ่ผู้เป็นวีรบุรุษผู้สังหารแม่ทัพแห่งมิแกรนเดียแม้อายุยังน้อยเป็นขวัญและกำลังใจของชาวเมือง และเป็นผู้มีชื่อเสียงไปทั่ว เขาเดินทางขอความช่วยเหลือจากเกาะต่างๆในหมู่เกาะตะวันตกให้รวมเป็นปึกแผ่นต่อสู้กับจักรวรรดิ์มิแกรนเดีย สงครามจึงขยายวงกว้าง และการรบดุเดือดยิ่ง

ในปีต่อมา จักรพรรดิ์ไดคูนแห่งมิแกรนเดีย ป่วยด้วยโรคร้ายน่าขยะแขยง จนตายอย่างทุกข์ทรมาน เพราะไม่มีรัชทายาท จึงเกิดการแย่งชิงราชสมบัติ ขุนนางใหญ่น้อยต่อสู้เข่นฆ่ากันเอง จนเกิดสงครามกลางเมือง แม่ทัพใหญ่ยกทัพกลับเมืองหลวง และได้ใช้เวลา 2 ปีในการรวบรวมอำนาจ และสถาปนาตนขึ้นเป็นจักรพรรดิ์ไดคูนที่2 และเริ่มออกรบเพื่อกำหราบหัวเมืองน้อยใหญ่ที่แข็งข้ออีกครั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีผู้คนล้มตายนับหมื่นคน จักรวรรดิ์มิแกรนเดียในยุคไดคุนที่2จึงได้ชื่อว่าปกครองด้วยความโหดร้ายยิ่งกว่ายุคไดคูนที่1

ผ่านไป3ปี ที่รวบรวมความเข้มแข็งของอาณาจักรด้วยการรีดนาทาเร้น และสงครามการเข่นฆ่า เมื่อจักรวรรดิ์กลับมีเสถียรภาพและมั่นคงแล้ว ก็ถึงคราวของการยึดครองหมู่เกาะตะวันตกอีกครั้ง ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากผู้ถูกขนานนามเป็นดังเทพสงคราม มือสังหารไร้ปราณีที่มีความเร็วราวภูติผีปีศาจ เดียสปอร่ากระต่ายหนุ่มผู้เคยสังหารแม่ทัพแห่งมิแกรนเดียด้วยวัยเพียง6ขวบ ตอนนี้หนุ่มน้อย นิโฮ่ วัย13ปีเป็นวีรบุรุษของลามีเซียที่หาญต่อกรกับมิแกรนเดียมาตลอด จนทัพใหญ่ของมิแกรนเดียมาประชิด นิโฮ่รวบรวมชาวหมู่เกาะทำสงครามใหญ่กับมิแกรนเดียสงครามยาวนาน2ปี ผู้คนล้มตายมากมายหลายหมื่นคน จนพันธมิตรเกาะตะวันตกเอาชนะทัพมิแกรนเดียได้ นิโฮ่เห็นว่าต้องบุกมิแกรนเดียให้เด็ดขาดสิ้นซาก ระดมทัพขึ้นบุกแผ่นดินใหญ่ หมายยึดมิแกรนเดีย แม่ทัพหนุ่มวัย15ปีที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพปีศาจสงคราม เพราะดำเนินการรบอย่างดุดันไร้ปราณี จนถึงเมืองในเครือจักรภพของมิแกรนเดียคือฟลาราแลนด์ ผู้ปกครองคือเลดี้เกรนด้า ธิดาของแม่ทัพอัลซิเดสผู้วายชนม์ด้วยมือของปีศาจสงครามนิโฮ่ เลดี้แกรนด้าไม่เพียงปกครองเมืองทั้งที่เป็นสตรีในฐานะแกรนดัชเชสแห่งฟลาราแลนด์ แต่เธอเป็นปราชญ์หญิงผู้มีพลังเวทย์สูง และนำทัพออกรบด้วยตนเอง ในที่สุด เลดี้เกรนด้า ก็แก้แค้นให้พ่อของเธอได้สำเร็จ และเผาทั้งเป็นปีศาจสงครามนิโฮ่ด้วยเพลิงเวทย์วอลเคนิค

ทัพของหมู่เกาะตะวันตกต้องถอยร่นเมื่อสูญเสียวีรบุรุษสงคราม และทัพมิแกรนเดียตีโต้กลับมาอีกครั้ง ชาวหมู่เกาะขาดขวัญและกำลังใจ จึงได้มีการสร้างรูปของนิโฮ่ เป็นรูปแกะสลักจากหินอ่อนสีดำ เป็นรูปหนุ่มน้อยนิโฮ่ถือดาบ ใบหน้าดุดัน ชาวเมืองเล่าวีรกรรมของนิโฮ่ในฐานะแรงบันดาลใจเพื่อเกิดความรักชาติและกล้าหาญในการทำสงคราม เรเชลมารดาของนิโฮ่หลังจากฝังศพลูกชาย เธอก็เริ่มตรอมใจ ล้มป่วยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา มิแกรนเดียและเหล่าชาวหมู่เกาะตะวันตก ทำการรบกันยาวนานถึง8ปี โดยเรื่องราววีรกรรมของวีรบุรุษนิโฮ่ เป็นสิ่งปลุกใจในการทำสงครามของชาวเมือง ให้ยอมสละชีวิตเพื่อชาติ และยอมตายแต่ไม่ยอมแพ้แก่ศัตรู ก่อนที่หมู่เกาะตะวันตกจากแตกพ่าย รูปสลักของนิโฮ่ถูกทำลาย ผู้คนก็ล้มตายนับแสนจากสงคราม8ปี และเรื่องราวของเขาก็เป็นตำนานของอสูรสงคราม ผู้ไร้หัวใจ และมีเพลงดาบที่รวดเร็วดังภูติผี ลามีเซียถูกกวาดล้างราบคาบก่อนสถาปนาเมืองใหม่คือ แกรนดาเซีย เพื่อเป็นเกียรติแก่เลดี้แกรนด้า ผู้ปราบอสูรสงครามนิโฮ่ และนำทัพกำหราบชาวเกาะตะวันตก เธอได้ฟื้นฟูเมือง และ สร้างอนุเสาวรีย์ให้แก่อัลซิเดสบิดาของเธอ ผู้ถูกสังหารที่เกาะนี้ และใช้ความพยายามในทางปัญญาและทางการทูต เพื่อปราณีปราณอม และเจรจาสงบศึกให้ทุกฝ่ายยอมรับการปกครองจากจักรวรรดิ์มิแกรนเดีย และปกครองตนเองได้ในฐานะประเทศราช ไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้น หลังจากพยายามกว่าสิบปี ความสงบสุขและสันติของปวงชนก็ดำเนินต่อไปนับร้อยปี
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: Attainder Angel ผู้ต้องเทวทัณฑ์

โพสต์โดย เซนต์ แมกนัส เมื่อ จันทร์ มี.ค. 10, 2025 9:59 pm

ความเงียบสงัดในศาล ย้ำความสลดของเหล่าชาวสวรรค์

เสียงจากผู้พิพากษาทั้ง5 อ่านคำตัดสินแก่ผู้ละเมิด

"ไอซาเอล ริคูเอล ทรีซาเอล และอัลทาเอล ด้วยหายนะแก่โลก และชีวิตมนุษย์มากมายที่ทูตสวรรค์ทั้ง4ได้ร่วมกันก่อขึ้น พวกเจ้าสมควรถูกขับออกจากการเป็นทูตสวรรค์ หากแต่ว่า เพราะความที่พวกเจ้าไม่ได้มีเจตนาให้เกิดหายนะใหญ่ แต่มีเจตนาที่ดีเมื่อแรกเริ่ม จึงจัดว่าเป็นผลกรรมที่เกิดจากความผิดพลาดมากกว่าเจตนาจงใจ พวกเจ้าจึงจะไม่ถูกเรียกว่า ปีศาจ หรือมารซาตาน(ผู้เป็นศัตรูของมนุษย์) เราจะมอบโทษ ของผู้ถูกประณามด้วยเลือด ต้องโทษเทวทัณฑ์ (Attainder Angel) ถูกปลดจากทุกตำแหน่ง เป็นดุจทูตสวรรค์จรจัด

การลงโทษของพวกเจ้าจะมาจากโลหิตของผู้บริสุทธิ์นับหมื่นที่ฟ้องร้องต่อสวรรค์เพราะเขาตายอย่างไม่สมควรเพราะการกระทำของพวกเจ้า เลือดของพวกเขาจะลงโทษพวกเจ้า ดุจแผลร้ายที่เจ็บปวดตลอดเวลา โลหิตของพวกเขาจะเป็นรอยจารึก(stigma)โลหิตทั่วร่างของพวกเจ้า ความเจ็บปวดที่พวกเจ้าได้รับจากรอยจารึกโลหิตนี้จะมาจากความเจ็บปวดทนทุกข์ทรมานที่เหล่าผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับเพราะพวกเจ้า และ ด้วยความที่ใช้ญาณศักดิ์สิทธิ์ในทางที่ผิด สวรรค์จะริบการเห็นแสงสว่างของพวกเจ้า จากนี้ไปจะเห็นทุกอย่างเหมือนยามค่ำคืน โลหิตที่กล่าวโทษร้องทุกข์จะปิดบังดวงตาของพวกเจ้าทุกคน

พวกเจ้าจะต้องโทษนี้ไปตลอด จนกว่าจะชดใช้ไถ่โทษ โดยทำความดีชดเชยบาปคนละ 10,000 ครั้ง จึงจะกลับมารับหน้าที่ใหม่ในสวรรค์

เราตัดสินเช่นนี้ พวกเจ้าจะยอมรับหรือไม่"

"ข้ายอม" "ข้ายอม" "ยอมรับขอรับ"

"ไอซาเอล เจ้าเงียบอยู่ไม่ตอบ ก็จะถือว่ายอมรับนะ"

ไอซาเอลก้มคำนับจรดพื้นเขาละอายใจจนไม่กล้าเอื้อนเอ่ย และเหล่าจิตศักดิ์สิทธิ์ก็รู้ดีจึงไม่คาดคั้น

"นีวิเอล เจ้าได้รับมอบหมายให้ไปตักเตือนสหาย เราใช้เจ้า เพราะหนึ่งในนั้นคือสหายรักของเจ้า เจ้ากลับเอนเอียงไปตามเขา เจ้าเพิกเฉยต่อหน้าที่ที่ควรทำ ความจริงหากเจ้าพยายามมากกว่านี้ เพียงเจ้าห้ามอัลทาเอลแค่ผู้เดียวได้สำเร็จ แผนนี้ก็ล้มเหลวแล้ว แต่เจ้ากลับเลือกทำไม่รู้ไม่เห็น เพราะเจ้ากลัวอัลทาเอลจะโกรธเจ้า สุดท้ายเจ้าเลือกเอาใจสหายรักมากกว่าจะเห็นแก่ความเสียหายและความสูญเสียของมวลมนุษย์มากมายทั้งที่เจ้าสามารถป้องกันได้ เจ้ากลัวสูญเสียผู้ที่เจ้ารัก แต่ไม่เห็นแก่ผู้คนมากมายก็ต้องสูญเสียคนที่ตนรัก และญาติสนิทมิตรสหายเช่นกัน"

"ข้าผิดไปแล้ว ข้ายินดีรับโทษ" นีวิเอลคุกเข่าลง

"ไม่ขอรับ ได้โปรดลงโทษข้าเถอะ ข้าผิดเอง ทั้งหมดเพราะข้าเอง เขาไม่ได้เต็มใจทำเลย โปรดเอาโทษของนีวิเอลมาลงโทษข้าแทน ข้ายินดีรับโทษของเขาทั้งหมด ข้าขอร้อง" อัลทาเอลคุกเข่าร้องวิงวอน

"อัลทาเอลเอ๋ยหากเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ไร้มลทินบาป หรืออยู่ในศีลในสัตย์ แล้วขอรับบาปเคราะห์แทนคนอื่น อาจจะพอเป็นไปได้ ด้วยกฏของการแลกเปลี่ยน แต่นี่เจ้ามีมลทินบาปยิ่งกว่าเขาอีก จะเอาศักดิ์และสิทธิ์อะไรมาขอเรื่องนี้" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากฟากของลูกขุน

"พอเถอะ อัลทาเอล ถ้าเจ้าต้องรับทัณฑ์ทรมานสาหัสยาวนาน เพื่อข้าสุขสบาย คิดว่าข้าจะอยู่อย่างเป็นสุขใจได้หรือ ข้ายินดีร่วมทุกข์กับเจ้ามากกว่า" นีวิเอลจับบ่าของอัลทาเอลที่มองเขาด้วยน้ำตาแห่งความรู้สึกผิด

"นีวิเอล ความผิดของเจ้าไม่ร้ายแรงเท่าพวกเขา แต่ด้วยร่วมในคดีเดียวกัน จึงต้องรับโทษแบบเดียวกัน เจ้าก็ต้องโทษเทวทัณฑ์ (Attainder Angel) ต้องเจ็บปวดจากรอยโลหิตอันเจ็บปวดของเหล่าผู้บริสุทธิ์ที่ต้องหลั่งเลือดเพราะการนี้ แต่เราจะไม่ริบแสงสว่างของเจ้า เพราะเจ้ายังมีสำนึกอยู่บ้าง เจ้าจะยังเห็นแสงสว่าง แต่จะยังคงเจ็บปวดจากรอยโลหิตที่ร้องทุกข์ในดวงตาของเจ้า เจ้าจะต้องประกอบคุณความดี 5,000 ครั้ง จึงกลับมารับหน้าที่ในสวรรค์อีก เจ้าจะยอมรับไหม"

"ข้ายอมรับ"

ทูตสววรค์ทั้ง5เริ่มเสื่อมสง่าราศี ผิวและผมที่มีสีสันสว่างงดงามซีดเผือดลงจนดูราวรูปปั้น มีเสียงที่เหมือนเสียงร่ำไห้คร่ำครวญของผู้คนมากมายมากมายดังขึ้น เกิดโลหิตสีแดงไหลเลื้อยตามร่างกาย เหมือนรอยแผลเป็นที่นูนขึ้นตามร่างขาวโพลน เลือดนั้นไหลและไหวเคลื่อนไปมาเหมือนยังมีชีวิต มันยังไหลไปเป็นเหมือนผืนผ้าปิดบังดวงตาของแต่ละองค์ ยกเว้นนีวิเอล ที่เลือดนั้นซึมเข้าไปในดวงตาและความเจ็บปวดที่สัมผัสกับรอยจารึกโลหิตครั้งแรก ทำให้เขาหลั่งน้ำตาออกมา

พวกเขาละจากสรวงสวรรค์ ต่างแยกย้ายกันออกไปประกอบความดีไถ่โทษ บางครั้งก็มาร่วมภารกิจกัน แต่นีวิเอลและอัลทาเอลมักจะร่วมกันทำภารกิจเสมอ

++++++++++++

เรื่องของเหล่าผู้ต้องเทวทัณฑ์(Attainder Angel)ทั้ง5 กลายเป็นบทเรียนสำคัญของมิติแห่งจิตวิญญาณ ว่าการละเมิด ฝืนแหกกฎสวรรค์ เปลี่ยนแปลงลิขิต และบิดเบือนชะตากรรมตามใจตน หายนะอาจไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะใครคนหนึ่ง แต่อาจลุกลามบานปลายเดือดร้อนไปอีกหลายชีวิต กระทบเป้นวงกว้าง และกว่าจะกลับคืนสู่วิถีทางก็อาจยาวนานเกินจะคาดคิด

เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกบันทึกในหนังสือต้องห้ามของเนโครแมนเซอร์ เมฟิส เท่านั้น จึงมีน้อยคนจะรู้จักพวกเขา

แต่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกเทอร์ร่าที่เรื่องนี้ถูกพาดพิงถึง ปรากฎในเหตุการณ์ก่อการร้ายและอาชญกรรมของเนโครแมนเซอร์ในตำนานอีกคน เมื่อเซอร์เซส พร้อมสมุนภูติผีและปีศาจจากนรก บุกเข้ามาขโมยละอองดาว ที่เก็บรักษาชั่วคราวไว้ที่สถาบันเซนต์อไควนัสอคาเดมี่ ที่ไรน์ เด็กเลี้ยงมังกรที่รับปากกับเหล่าเงือกแห่งเลมูเรียว่า เขาจะเพียงขอยืมละอองดาวแห่งมหาสมุทรไปใช้เพื่อสมัครเข้าสถาบันการศึกษาและจะนำมาคืนเมื่อเสร็จธุระ

ไรน์และเพื่อนๆ จึงต้องเข้าทำภารกิจสุดพิศดาร ด้วยความที่โลกวิญญาณเป็นสถานการณ์ที่เขาและเหล่ามังกรไม่อาจต่อกรได้ง่าย แล้วยิ่งต้องเปิดนรกลงไปเช่นนี้ ทูตสวรรค์ผู้อารักขาของฟีโลมีน่าเพื่อนของไรน์ จึงแนะนำให้พวกเขาขอความช่วยเหลือจาก5ทูตสวรรค์ต้องโทษที่กำลังเก็บแต้มความดีกันอยู่ เพราะด้วยความที่อยู่นอกสังกัดสวรรค์ มีอิสระในการทำภารกิจ จึงแน่ใจว่า พวกไรน์จะได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาอย่างแน่นอน ในเมื่อมีผู้ใช้ผีปีศาจนอกกฎนรก ก็ต้องใช้ทูตสวรรค์นอกกฎสวรรค์เข้าต่อกร

ในประวัติของไรน์ในตอนการตามหาละอองดาว พาดพิงถึงเหล่าผู้ต้องเทวทัณฑ์(Attainder Angel)ทั้ง5 ไว้ไม่มาก และไม่ได้ให้รายละเอียดว่าพวกเขาต้องโทษอะไร แค่บอกว่า พวกเขามาช่วยไรน์ต่อสู่ผีปีสาจอย่างไรบ้าง นักประวัติศาสตร์และผู้ที่สนใจอยากรู้จึงต้องพยายามค้นหาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ และมีไม่กี่คนที่รู้ว่ามันมีบันทึกไว้ในหนังสือต้องห้ามของเนโครแมนเซอร์ เมฟิส
ภาพประจำตัวสมาชิก
เซนต์ แมกนัส
0
 
โพสต์: 1407
Cash on hand: 333.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)


ย้อนกลับไปยัง Summoner Novel

ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน

cron