[เซนต์ แมกนัส]

~@ ไฟ @~



-อิสฮาน

Sire Ishan บุตรแห่งซาดินและเนริมอร์ เป็นเด็กที่จิตใจดีงาม มีความอ่อนโยนและไม่ชอบสงคราม เวลาที่เขาเกิดมานั่น ดวงอาทิตย์แห่งซาโลมไร้ซึ่งเมฆบัง เปล่งประกายเจิดจ้า เป็นสีทองสองครั้ง ในเวลายามเช้าและเย็น จากการทำนายของนาซาอี เทพพยากรณ์สาว ว่าเค้าจะเป็นดั่งดวงอาทิตย์ และคำยุยงของ บลาสเซจ ทำให้ซาดินตีความหมายว่าบุตรของเขาจะครองโลก และกลายเป็นอีกแรงผลักดันให้เขาสงครามกวาดล้างดินแดน เพื่อปูทางไปสู้ความรุ่งเรืองในอนาคต ของบุตรชาย

ในวัยเด็ก อิสฮานอยู่กับเนริมอร์ ซึ่งเวลา เนริมอร์อยู่กับบุตรเธอเป็นดั่งไฟที่ให้แต่ความอบอุ่น อ่อนโยนและแสงสว่าง ในขณะที่ซาดินออกไปทำสงคราม มารดาจึงกลายเป็นสิ่งหยึดเหนี่ยวที่สำคัญที่สุดของเจ้าชายน้อย

รักแม่ แต่เก็บกด โชคดีที่ถูกดูแลจากแม่ที่รักมาก กับนาริสที่เป็นครูที่ประเสริฐ เลยไม่มีนิสัยพ่อกระเด็นมาเลย มีปมความเศร้าใหญ่หลวงที่พ่อเป็นอาชญากรสงคราม และแม่ที่รักที่สุดถูกฆ่าต่อหน้า

เมื่อไปอยู่ฟูดินัน ได้ซึมซับวิถีชีวิตอันสุขสงบ และปรัชญาเชิงธรรมชาติ กล่อมเกลาให้จิตใจอ่อนโยนและเป็นคนดี จนพบเจ้าหญิงอลาน่า ได้พบวิถีทางแห่งความรัก และความศรัทธาในพระเจ้า จึงเป็นคนดีที่อ่อนโยนและเข้มแข็งขึ้นมา

ดวงอาทิตย์ย่อมเผาผลาญตัวเองก่อนที่จะให้ความสว่างแก่สิ่งอื่นได้ ดังนั้น เขาจึงได้ถูกหล่อหลอมอย่างหนักก่อนจะมาเป็นศาสดาใหม่แห่งซาโลม อิสฮานจะชอบเล่นกับเด็กๆ เพราะสมัยเด็กไม่มีใครเล่นด้วย ชอบผู้หญิงอายุมากกว่าเพราะติดแม่ มีความเป็นผู้นำอยู่ในตัวเพราะเป็นเจ้าชายมาก่อน แต่ขณะเดียวกันก็มีจิตใจดี และเอาใจใส่ความรู้สึกคนอื่น และมักแฝงความเศร้าไว้ในดวงตา

อิสฮานคิดว่าสงครามนี้มีสาเหตุจากตน แต่ครั้นจะเอาชีวิตตัวเองชดใช้ ต้องตายกี่ครั้งกันจึงจะสาสม เมื่อพบซิสเตอร์อลาน่า เขาจึงได้พบหนทางใหม่ หนทางที่จะชำระล้างจิตใจ และวิญญาณของตน คือเป้าหมายที่จะสร้างสันติสุขให้ทวีปนี้ เพื่อทดแทนให้ลูกหลานของผู้ที่ต้องประสบภัยสงครามทุกคน จะได้เกิดและเติบโตในโลกใหม่ที่สวยงามและมีสันติสุข และพยายามกระทำสิ่งดีทุกอย่าง เพื่อหวังให้พระเจ้าทรงเมตตาและทรงยกโทษบาปให้เขา และเมื่อพระเจ้ายกโทษให้เขาและเขาเป็นคนชอบธรรมในสายตาพระเจ้าแล้ว เขาจะขอทำสิ่งที่ดีต่อเพื่อไถ่บาปความผิดของพ่อและแม่ต่อไป



Naris Sulaiman

คนเก่าแก่ของตระกูล มหาอำมาตย์ แห่งซาโลมเป็นผู้ปกครองเมืองแทนเวลาออกรบ ดังนั้นนาริสจึงทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล อิสฮาน ด้วย นาริส รัก อิสฮาน ดั่งลูกตัวเอง ในขณะเดียวกันก็เทิดทูลดั่งเจ้าชีวิต เค้าพยายามเลี้ยงดู อิสฮาน อย่างดีเพื่อไม่ให้เด็กน้อย เดินทางโหดร้ายดั่งพ่อเขา เมื่อณาจักร ซาโลม สามารถตีดินแดนลงล่างเรื่อยๆ นอร์ริเมอร์ต้องออกมาช่วยบัญชาการรบด้วย ซาดิน นั้นมิได้กลับไปหาบุตรมีเพียงแต่ นอร์ริเมอร์เท่านั้น ที่กลับไปดูแลอิสฮานในบางเวลา จากการที่อิสฮานต้องห่างเหินจากมารดาที่เขารัก ความรู้สึกต่อต้านสงคราม ได้ก่อเกิดขึ้นในจิตใจของเขาที่ละน้อย




-บลาสเซจพูริก้า

เป็นนักเวทย์ที่บลาสเซสสร้างขึ้นจากเวทย์มนต์ ทำตามออเดอร์คือคอยคุมทหาร และกองทัพไม่ให้หือ ข้างในกลวงๆเป็นควัน เลยใส่เสื้อผ้ามิดชิดให้เห็นรูปร่าง มีดวงไฟตรงตา ภาพที่มองจะส่งตรงไปที่บลาสเซส


~@ ดิน @~



-ฮาริสัน

หัวหน้าเผ่าฟูดินัน เป็นคนพูดน้อย ยิ้มแย้ม และอ่อนโยน ชอบปกป้อง มีเหตุผลและหนักแน่น จึงเป็นสไตล์ผู้ชายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากจะแต่งงานด้วย เป็นคนเข้ากับคนง่าย และนอบน้อม คิดว่าอยากให้สงครามสงบเร็วๆ เพื่อวิถีชีวิตอันเรียบง่ายจะได้กลับมา การดูแลคนในเผ่า เหมือนเป็นพี่ใหญ่ที่ดูแลน้องๆ ไม่ชอบระบบระเบียบเคร่งครัด



-วานาอัน

ถูกดูแลและทนุถนอมแต่เด็ก เป็นคนขี้สงสาร ปรกติจะยิ้มตลอดเวลายกเว้นเวลาเศร้า มักเออออตามคนอื่น ถ้าไว้ใจใครก็จะเชื่อเขาหมด ไร้เดียงสา และออกจะซื่อๆ มองโลกในแง่ดี ชอบสื่อกับธรรมชาติรอบตัว และมีพรสวรรค์ในการสื่อกับธรรมชาติโดดเด่น

เมื่อก่อนชอบเดินตามพี่ชาย ต่อมาเก็บอิสฮานมาเลี้ยงจนอิสฮานมาเป็นเด็กที่คอยตามตน เลยรู้สึกว่ามีสิ่งที่ต้องดูแลทำให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา จนวันนึง อิสฮานเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มที่เป็นฝ่ายปกป้องตน ก็เลยกลายเป็นคนที่เธอไว้ใจและเชื่อใจ

และเมื่ออิสฮานรู้ใจตนเองเผยความรักที่มีต่อเธอ เธอจึงเกิดสับสนลึกๆในใจ แต่แล้วมันก็เปลี่ยนแปลงเป็นการยอมรับอย่างช้าๆโดยเธอไม่รู้ตัว ก็ผู้ชายที่เธอไว้เนื้อเชื่อใจมีแค่3คนคือท่านปู่ พี่ชาย แล้วก็อิสฮานเท่านั้นนี่



-วูจิน

ผู้เฒ่าแห่งฟูดินันที่ดูภายนอกอาจจะดูเงียบขรึม แต่แท้จริงแล้วท่านเป็นเหมือนคุณปู่ใจดีที่ชอบสั่งสอนลูกหลาน และเด็กๆชาวฟูดินันทุกคน อยากให้ลุกหลานได้ดี เป็นหมอยาของเผ่า รักษาได้ด้วยทั้งยาและเวทย์ มีทั้งณาญและตบะแก่กล้า เสมือนเป็นผู้วิเศษก็ว่าได้ เข้าใจในธรรมชาติ ป่าไม้ภูเขา สายลม และ สายน้ำ อย่างลึกซึ้ง คำพูดของท่าน อาจจะเข้าใจยากซักนิด แต่ทุกคำแฝงไปด้วยปรัชญา เป็นคำคมที่ลึกซึ้ง

แก่แต่ไม่ใช่แก่เพราะอยู่มานาน แต่แก่วิชาความรู้ และปรัชญาธรรมชาติ มองทุกอย่างลึกซึ้ง เป็นคนที่ชอบเล่าชอบสอน ชอบพูดอะไรเป็นปรัชญา ชอบเดินเล่นฟังเสียงนกร้องแมลงร้อง เจ้าตัวบอกว่าฟังนกคุยกัน แมลงซุบซิบกัน หลายๆคนในฟูดินันเชื่อว่าแกคงฟังออกจริงๆ

รักหลานสองคนมาก และเป็นคนสำคัญของเผ่าที่ใครๆก็ต้องมาถามความเห็น ราวกับเป็นที่ปรึกษากิติมศักดิ์ของเผ่า ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องอยู่ทนดูวันสงครามสงบให้ได้ ไม่ยอมแก่ตายในสงครามเด็ดขาด ที่แกกล้าตั้งเป้าแบบนี้ เพราะแกแน่ใจว่าอยู่ถึงจริงๆ เพราะคำนวนคร่าวๆถึงสถานการณ์ทุกอย่างไว้แล้ว

คอยสอนอิสฮานเมื่อตอนกระเด็นมาตกที่ฟูดินัน และไว้วางใจให้ดูแลหลานสาว เป็นคนที่ทำให้อิสฮานรู้สึกว่าตัวเองเป็นชาวฟูดินันขึ้นมาได้ เป็นคนที่ทุกเผ่าในป่าฟูดินันเกรงใจ แม้แต่เผ่าที่เคยเป็นศัตรูอย่างป่าทมิฬ



-ฟูมิน

หัวหน้ากองโจรแห่งป่าทมิฬ อดีตเผ่าป่าทมิฬเคยทำสงครามกับเผ่าฟูดินันมาก่อน จนสงบศึกลงไปได้ หลังการตายของพ่อของฮาริซัน แต่หลังจากสงบสุขกันได้ไม่นาน ดันโดนซาโลมบุกเผา ในครั้งนั้นป่าทมิฬเสียหายมากที่สุด

เมื่อฮาริซัน ตั้งประเทศตามคำแนะนำของเจ้าหญิงอลาน่า ป่าทมิฬแตกออกเป็นสองความเห็น คือยอมรับ นำโดยพวกคาน กัส ดามิกา และพวกไม่ยอมรับ หนีเข้าไปเป็นโจรป่าคอยก่อปัญหาในฟูดินัน นำโดยฟูมิน ซึ่งเจ็บแค้นที่บ้านตัวย่อยยับ ช่วยกันทำสงครามต้าน แต่ฟูดินันดันชิงขึ้นเป็นผู้นำ เป็นคนที่เคยอยู่ในสงครามครั้งก่อนด้วยเลยฝังใจหลายอย่าง

รักพวกพ้องมาก คิดถึงพวกตัวเองก่อน ต่อให้พวกตัวผิดก็จะเข้าข้างและร่วมรับผิดชอบ ลูกน้องเลยจงรักภัคดีแบบถวายชีวิต สาบานเป้นพี่น้องกับเอนช่า และทากะ จึงเป็นกองโจรที่น่ากลัวมาก แต่สุดท้ายพ่ายแพ้อิสฮานที่ฉลาดกว่า เลยฆ่าตัวตาย



-เอนชา

บ้าพลังไม่มีสมองเท่าไหร่ จงรักภัคดีกับฟูมินมาก ตายแทนฟูมินได้ ทำทุกอย่างตามที่ฟูมินสั่ง เมื่อฟูมินตายก็สู้จนตายตาม



-โจซาน

ขี้คุย ขี้โม้ ขี้อวด ไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ชอบโฆษณาเกินจริง รู้สึกสนุกสนานเวลาขายของได้เยอะๆ ประมาณยิ่งขายยิ่งมันส์ พูดถูกใจลดแหลกแจกแถม



-ดามิกา

เป็นพวกป่าทมิฬระดับผู้นำ มีความสามารถเลี้ยงสัตว์ได้หลากหลาย เป็นชาวป่าทมิฬที่เป็นมิตรกับเผ่าอื่น และมีความคิดว่าอยู่ป่าเดียวกันจะกัดกันทำไม นับถือในตัววูจิน กล้าหาญ และชอบลืมว่าตัวเองเป็นผู้หญิง



-โทนิม่า

ลูกน้องดามิกา


~@ น้ำ @~


-อันดีน

เทพี่แห่งสายชล อยู่ในทะเลสาปนีรันดา ไม่ใช่ใครก็จะเจอตัวได้หรอก เจอตัวจริงๆก็ไม่พูดหรอกพวกเทพน่ะ นอกจากเขาจะมีเรื่องที่ต้องการบอก เขาถึงจะพูดกับมนุษย์กัน



มารีน่า

เธอปรากฎตัวตั้งแต่ภาคที่แล้ว(Secondary) เธอโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำแกล้งคร่ำครวญจนลูกเรือของฮาริซันที่กำลังเดินทางไปแอนดิซองเคลิบเคลิ้มเสียสติ หากแต่ฮาริซันเจรจาในความต้องการของเธอ จึงได้รู้ว่าได้ทอดสมอขวางทางเข้า
ถ้ำของเธอ และเมื่อได้พูดคุยไถ่ถามสาเหตุของการเดินทางเธอเองนึกชอบในน้ำใจและความซื่อตรงของเจ้าชาย เธอ จึงได้แนะนำเส้นทางที่จะหลีกเลี่ยงภัยอันตรายให้



Rufus,Annedisonge Trader
1ใน3อาชีพใหม่ของภาคSecondary Edition
รูฟัสก็เหมือพ่อค้าทั่วๆไปที่หาผลประโยชน์เข้าตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีหัวหน้าสมาคมพ่อค้าแห่ง แอนดิซอง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่เผ่าและเมืองต่างๆ ตลอดจนการซื้อผู้อพยพไฟสงครามมาเป็นทาส ด้วยอำนาจเงินทำให้เขามีอิทธิพลในทางการเมืองด้วย สำหรับเขาสงครามคือจังหวะเวลาที่ต้องแสวงหาประโยชน์




Etienne&Coralie,king and Queen of Annedesonge
ราชาและราชินีแห่งแอนดิซอง ปกครองผืนแผ่นดินใหญ่ของแอนดิซอง ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองท่าAnnedisonge Portland แม้ไม่มีบทบาทอะไรมากนัก แต่ท่านเป็นผู้ส่งองค์หญิงอลาน่า และองค์รักษ์ อองเดร มาดูแลที่Portlandซึ่งเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ด้านการค้าและนำเงินตราเข้าประเทศ



-เมลานี

แนะนำให้ไปอ่านเรื่องซาโลมอนอาคาเดมี่


~@ ลม @~


-ชาลส์

เป็นนักดาบรุ่นพี่คอยเป็นพี่เลี้ยงซิกมันด์ เป็นตระกูลขุนนาง



-ทีโมธี

1ใน3 อาชีพใหม่ของภาคSecondary Edition ที่มีชื่อว่าScientist ประดิษฐ์อัจฉริยะแห่งเฟลิเซีย เป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้มีความสามารถทางด้านเครื่องยนตร์กลไกเป็นเลิศ เนื่องจากเขามีความสนใจในเครื่องจักรต่างๆ ทำให้เขาสนใจวัฒนธรรมตกค้างจากอดีตและอารยธรรมต่างๆของทวีปเมอร์ริเซีย Delta-Dเป็นหุ่นตรวจการที่เขาซ่อมแซมจากซากอารยธรรมโบราณ เขาชอบประดิษฐ์สิ่งของแปลกๆใหม่ๆ เช่นเครื่องยิงหินระยะไกล เขามีความคิดที่ว่า พระเจ้าให้สองมือมนุษย์มาเพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่างๆเพื่อความเจริญของมนุษย์ชาติ หาใช่เพื่อพนมมือสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้าเพียงอย่างเดียว

แนะนำให้ไปอ่านเรื่องเพื่อนรัก เพื่อนแค้น ในกระทู้ เรื่องปลีกย่อย


~@ แสง @~


-เกรกอรี่

แนะนำให้ไปอ่านเรื่องเพื่อนรัก เพื่อนแค้น ในกระทู้ เรื่องปลีกย่อย



-มาสิลิโอ้

เป็นคาดินัลของแอนดิซอง ยึดถือคุณธรรมเคร่งครัด และเข้มงวดกับกฎ และบทบัญญัติต่างๆมาก



-เอมม่า

หัวหน้านักบวชหญิงที่ส่งมาประจำกองทัพศาสนจักร แต่ไม่ได้เป็นแม่ชีในคณะของซิสเตอร์โรซาน่ากับอลาน่าหรอกนะ คณะของซิสเตอร์โรซาน่านั้นเน้นกิจเมตตา ส่วนเอมม่าเน้นภารกิจราชการ ประมาณเหมือนพระวัดป่า กับพระในเมือง เน้นคนละจุดกัน



Martin,the General of Ekklesia
แม่ทัพแห่งกองทัพที่ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
“ดาบของข้าจะชำระแผ่นดินให้ศักด์สิทธิ์ดังเดิม ความเมตตา พึงมีต่อประชาชนผู้ทุกข์เข็ญเท่านั้น หากแต่เหล่าปีศาจ และอริศัตรู มีเพียงความตาย และความพินาศที่ข้าจะมอบให้!”


~@ มืด @~



-แบล็คไวเซอร์

แนะนำให้ไปอ่านเรื่องเพื่อนรัก เพื่อนแค้น ในกระทู้ เรื่องปลีกย่อย

[เซนต์ แมกนัส]

Felasia Kingdom
ฟีเลเซีย “ศักดิ์ศรีแห่งสายลมศักดิ์สิทธิ์”
พระเจ้า ความดี
ศักดิ์ศรี เกียรติยศ

Sigmund III
สายลมพัดเหนือผืนดิน เหนือผืนน้ำ เหนือเปลวไฟ ลมยิ่งอยู่สูงยิ่งพัดกล้า ศักดิ์ศรีแห่งฟีเลเซียคือศักดิ์ศรีแห่งสายลม

Regina Aretha
สายลมไร้รูปร่าง อิสระ มิอาจกักขัง หากเราไร้อิสระ เราก็ไม่ใช่ลมหากแต่เป็นเพียงนกในกรงเท่านั้น

Gregory,the Bishop of Felasia
สิ่งที่คั้นระหว่างสวรรค์และแผ่นดินคือ ลม หากฟีเลเซียคือลม ฟีเลเซียก็เปรียบดังที่รองบาทแห่งพระเจ้า

Charles Clarence, the General of Felasia
หากฟีเลเซียต้องการป้องกัน ข้าจะเป็นโล่ที่คอยปกปักษ์รักษา
หากฟีเลเซียต้องการสู้ ข้าจะเป็นดาบที่ประหัตศัตรู



Zalom Empire
ซาโลม “กองทัพเพลิงทมิฬ”
เมื่อผืนธงแห่งวิหกเพลิงโบกสะบัดความวิบัติจะบังเกิด

Zadin Ybrid
ชีวิตของข้าเองก็เหมือนไฟ วันนี้สว่างไสว แต่ไม่รู้วันใดจะดับมอด…..หากข้าจะหาความสุขให้มากที่สุดตราบที่มีชีวิตมันก็เป็นเรื่องสมควรแล้วมิใช่หรือ

Nerimor Ybrid
ในใจข้าไม่เคยสงบเหมือนมีเชื้อไฟที่รอคอยการคุกกรุ่น เมื่อใดมีสิ่งสะกิดเร้าให้มันไหม้ลุกแรงขึ้น มันจะเผาผลาญทุกสิ่งเป็นเปลวเพลิง ที่แม้แต่ตัวข้าเองก็มิอาจดับห้ามได้

Blaze Sage,the Viceroy of Zalom
เมื่อไฟให้พลังให้ประโยชน์ใดใดแก่ท่านมันย่อมต้องเผาผลาญบางสิ่งเพื่อเป็น
เชื้อเพลิง ดังนั้นการที่แผ่นดินประเทศผู้คนถูกเผาผลาญเพื่อสร้างยุคใหม่อัน
ยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรืองแห่งซาโลม.....มันเป็นเรื่องธรรมดา

Nazae,the Oracle of Zalom
หากซาดินเป็นได้ถึงจักรพรรดิ์บุตรของเขาจะใหญ่ยิ่งกว่า ซาดินคือมหาเพลิงที่น่ากลัวแต่บุตรของเขา........คือ ดวงอาทิตย์



Annedisonge Portland
แอนดีซอง “มหาสมุทรกว้างไกล สายน้ำสงบนิ่ง”
ความมั่งคั่งไม่อาจซื้อสรวงสวรรค์ แต่อาจใช้สร้างสรวงสวรรค์

Andre Honore'
น้ำเป็นน้ำแข็งด้วยความเยือกเย็น เมื่อความเยือกเย็นทำให้น้ำที่อ่อนเหลวแกร่งแข็งขึ้น มันก็ทำให้คนแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน

Alana Marie Charite'
ธรรมชาติของน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำแผ่ขยายกว้างใหญ่และให้ชีวิตแอนดีซองก็ควรเป็นเช่นนั้น

Marsilio,Cardinal of Annedisonge
หากมือของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาปก็จงตัดมันทิ้งเสียเพราะท่านขึ้นสวรรค์โดยปราศจากมือยังดีกว่าต้องตกนรกพร้อมมือทั้งสองข้าง

Vioria, the Frigid Witch
ภายใต้หน้ากากอันเยือกเย็นของท่านมีเพียงแววตาที่เย็นชาของท่านเท่านั้นที่ข้ามองเห็นแต่ความเย็นชานี้มันช่างสร้างความร้อนรุ่มให้ใจข้าอย่างประหลาด....อองเดร ออเนอร์เร่ ให้ความเร่าร้อนของข้าช่วยละลายความหนาวเย็นของท่านเถิด


( ฉบับในหนังสือ )
"ภายใต้หน้ากากอันเยือกเย็นของท่านข้าไม่อาจรู้ได้เลย ว่าขณะที่ท่านเพ่งมองข้าอยู่ ท่านได้มีสีหน้าเช่นชายอื่นที่พิศมัยในความงามของข้าหรือไม่ มีเพียงแววตาที่เย็นชาของท่านนี่เท่านั้นที่ข้ามองเห็น แต่ความเย็นชานี้มันช่างสร้างความร้อนรุ่มให้ใจข้าอย่างประหลาด......อองเดร ออเนอร์เน่ ให้ความเร่าร้อนของข้า ช่วยละลายความหนาวเย็นของท่านเถิด"



Fudenun Tribe
ฟูดีนัน “จิตวิญญาณแห่งผืนดิน”
ผืนแผ่นดินมิใช่สมบัติของผู้ใดหากแต่เป็นมารดาผู้มีแต่ให้กับทุกสรรพสิ่ง

Harison Bandara
ที่เรานิ่งเฉยใช่ว่าเพราะเราโง่งม ที่เราอดกลั้นไม่ใช่เพราะเราขลาดกลัว แต่การที่เราอดทนและปกป้องนั่นต่างหากคือการเข้มแข็งที่ประเสริฐสุด

Wanaan Bandara
เมื่อสัมผัสผืนดิน ท่านจะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบอุ้มท่าน เมื่อกลิ่นหอมของดอกไม้โชยมาท่านจะรู้สึกได้ถึงความปรารถนาดีที่ธรรมชาติมอบแด่ท่าน

Woojin,the Elder
แม้จะมีทรัพย์สมบัติทั้งโลกมาอยู่ในมือเจ้าแต่เมื่อวันตาย เจ้าหยิบอะไรไปได้บ้างแม้แต่ร่างเจ้ายังต้องกลับกลายเป็นธุลีดินจะมีประโยชน์อะไรหากทั้งโลกอยู่ในมือเจ้าแต่เจ้ากลับต้องเสียวิญญาณไป

Yggdrasill
…..ลูกเอ้ย จงหลับอย่างสบายในอ้อมแขนแม่ อ้อมแขนแม่คือคีรีบันดาที่โอบกอดเจ้า
ลูกแม่ จงหลับอย่างอบอุ่นในอ้อมอกแม่ อ้อมอกแม่คือพุ่มไม้สีเงินอ่อนนุ่มของอิกดราซิล
ลูกรักจงวางใจหลับสบายอย่างกลัวอะไรเพราะแม่อยู่เคียงเจ้าปกป้องเจ้าดั่งดวงใจ…..
(ตอนหนึ่งจากเพลงกล่อมเด็กของชาวฟูดีนัน)

[เซนต์ แมกนัส]

13 Valkries


Brigitte (บริจิตต์)
ความหมาย แข็งแรงมาก มีอำนาจมาก
เกิดจากส่วน ขาขวา

อาวุธ หอกทองคำไลท์แลนท์ (Light Lance)
ทำหน้าที่ เฝ้าเขาทางเข้าภูเขาวาลฮาล (Valhal) ที่เทพแห่งสายฟ้า Thor อาศัยอยู่ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่สวรรค์ตกลงมา อีกทั้งบนภูเขานี้นอกจากจะเป็นที่อยู่ของ Thorแล้วยังมีความลับอื่นแอบแฝงอยู่มาก



Bryna (ไบรนา)
ความหมาย พลังประกอบกับคุณงามความดี
เกิดจากส่วน ลูกตาซ้าย

อาวุธ ดาบศักดิ์สิทธิ์อเล็กซานไดรท์(Alaxandrite)
ทำหน้าที่ ปกป้องดาบแห่งชัยชนะที่อยู่ใน วิหารแมคนาร์ด (Magnard)
ดาบแห่งชัยชนะ [Sword of Adamas] เป็นดาบที่เทพเจ้าได้ประทานแด่วีรบุรุษใช้ในการขับไล่ปีศาจให้กลับสู่นรก



Daniella (แดนิเอ็ลลา)
ความหมาย พระเจ้าคือผู้พิพากษาของฉัน
เกิดจากส่วน ศรีษะ
อาวุธ ขลุ่ยเซราฟิค ซิมโฟนี (Seraphic Symphony)
ทำหน้าที่ เฝ้าโลกแห่งความฝันเพื่อป้องกันการพลัดหลงของจิตมนุษย์กับร่างของตนเอง จะใช้เสียงขลุ่ยในการนำทางเข้าสู่โลกแห่งความจริง



Geraldine (เจอรันดีน)
ความหมาย แข็งแกร่งด้วยหอกด้ามหนึ่ง
เกิดจากส่วน โล่ห์
อาวุธ พลองยาวคาร์เนเลี่ยน(Carnalian)
ทำหน้าที่ เก็บรักษาลูกแก้วเจนนะวีฟที่ในแกนกลางของโลก

ลูกแก้วเจนนะวีฟ [GenevieveOrb] ลูกแก้ววิเศษที่เกิดจากกลั่นตัวของ Life Steam พลังงานชีวิตของโลก จะเกิดการหลอมและกลั่นตัวทุกๆ 1,000ปี จะตกผลึกมาเป็นลูกแก้ว คนที่มีไว้ครอบครองจะปลอดภัยจากพิษทุกชนิด ไม่เจ็บป่วย ไม่แก่ชรา แต่เมื่อเจ้าของตายมันจะสลายตัวไป



Grace (เกรซ)
ความหมาย งดงาม,เมตตา,กรุณา,คุณธรรม
เกิดจากส่วน แขนซ้าย

อาวุธ แส้ทองคำซาร์คุน(Zargun)
ทำหน้าที่ เก็บรักษาตราเทพมารไว้ในวิหารเอเร่ (Arie) คอยป้องกันไม่ให้ใครได้ไป ที่หน้าวิหารจะมีสัตว์เทพทั้ง3รักษาอยู่คือ เรคดอว์น(Ragdawn) พาโกด้า(Pagoda) เซฟเฟอร์(Zephyr)

ตราเทพมาร [Emblem of Unholy Gods] ตราสัญญาลักษณ์ระหว่างเทพกับปีศาจ มีพลังพิเศษในการอัญเชิญได้ทั้งเทพและมารให้มาช่วยเหลือ แต่ผู้ใช้ต้องสูญเสียอายุไขเป็นการแลกเปลี่ยน



Brenda (เบรนด้า)
ความหมาย เหมือนไฟ,ราวกับไฟ
เกิดจากส่วน ลูกตาขวา
อาวุธ คฑาเพลิงแมกม่าเทียร์ (Magma Tear)
ทำหน้าที่ ปกป้องไฟชีวิตนับล้านในภูเขาไฟบาเดีย (Badia) เพื่อป้องกันการดับของไฟและผู้ที่จะมาดับ ถนัดเวทย์มนต์สายไฟ

ไฟชีวิต [Flare of Soul] เหล่าดวงไฟที่เป็นจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตบนโลกถ้าดับ 1 ดวงหมายความว่า ต้องมีสิ่งมีชีวิตตาย 1 สิ่ง และถ้าเกิดแสงสว่างขึ้น 1 ดวงแสดงว่ามีเกิดชีวิตใหม่ 1 ชิวิต



Maya (มายา)
ความหมาย มนตราศักดิ์สิทธิ์
เกิดจากส่วน ขาซ้าย
อาวุธ ดาบทาพาส(Tapas)
ทำหน้าที่ ปกป้องวิหารศักดิ์สิทธิ์ไรเนีย(Rainie) เป็นวิหารที่เก็บกระจกมันดารา

กระจกมันดารา [Mirror of Mandara] กระจกแห่งสรวงสวรรค์ มีพลังพิเศษสามารถสะท้อนภาพจิตใจส่วนลึกของผู้ส่องได้



Josslyn (จอสสลิน)
ความหมาย ยุติธรรม
เกิดจากส่วน ดาบ
อาวุธ หอกแห่งเกฮาน่า(Gahana)
ทำหน้าที่ เฝ้าดูวงแหวนแห่งกาลเวลาในอีกมิติหนึ่งเพื่อป้องกันการผกผันแห่งเวลาในโลกมนุษย์

วงแหวนแห่งการเวลา [Circle Of Time] วงแหวนของเทพแห่งการเวลาจะหมุนตามเวลาในโลก



Anita (อานิต้า)
ความหมาย คุณธรรม
เกิดจากส่วน หัวใจ
อาวุธ คฑาครัสโตรอส(Krustallos)
ทำหน้าที่ เฝ้ารักษา จอกแห่งพระพรศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ใน วิหารทวยเทพแต่วิหารนี้จะ ปรากฏให้เห็นเฉพาะแต่ผู้ที่มีจิตดี

จอกแห่งพระพรศักดิ์สิทธิ์ [Cup of Bless] ถ้วยแห่งเทพที่พระเจ้าทรงประทานให้มนุษย์เพื่อดับทุกข์ มีความวิเศษตรงที่ว่าถ้ามีคนมาจับแล้วอธิฐานจะมีน้ำไหลออกมา สามารถใช้ในการรักษาได้ทุกโรคแต่น้ำจะไหลมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับความดีที่ผู้ที่อธิฐานนั้นเคยกระทำ



Dahna ดาห์นา
ความหมาย ทะเลทราย
เกิดจากส่วน เส้นผม
อาวุธ ธนูสายฟ้าเรดอน (Raydon)
ทำหน้าที่ ปกป้องวิหาร อัสมันด์ (Asmand) อยู่ในทะเลทราย ซาคารัฟ (Fakarabh) วิหารตั้งอยู่ใจกลางพายุทะเลทราย เป็นที่เก็บหนังสือต้องห้ามไว้

หนังสือต้องห้าม [The Forbidden Book] เป็นหนังสือที่บันทึกเวทย์มนต์ชั้นสูงที่รุนแรง วิธีใช้อาวุธวิเศษ พิธีกรรมต่างๆ ตลอดจน แผนที่เก็บของวิเศษต่างๆตามคำบอกเล่าของเทพเจ้า



Feodora (ฟีโดร่า)
ความหมาย ของขวัญจากพระเจ้า
เกิดจากส่วน แขนขวา
อาวุธ ดาบคู่คริมสันและคีน(Crimson&Keen)
ทำหน้าที่ เก็บรักษาหมวกรู้แจ้งที่วิหารเดน่อน มีมังกรวิเศษอยู่ 4 ตัวเฝ้าทางเข้าทั้ง 4 ทิศอันประกอบด้วย คอสมอส (Cosmos), เคออส (Chaos), ไรออท (Riot), เฟท (Faith)

หมวกรู้แจ้ง [Hemet of Absolute Knowledge] หมวกวิเศษที่จะทำไห้ผู้สวมสามารถเรียนรู้เวทย์มนต์ กระบวนท่า กลไก ฯลฯ ได้ทันทีเพียงแค่เห็นครั้งเดียว



Cynthia (ซินเธีย)
ความหมาย เทพีดวงจันทร์
เกิดจากส่วน กระดูก
อาวุธ เคียวคร่าวิญญาณ ( Soul Scythe )
ทำหน้าที่ เฝ้าทางเข้าสู่ยมโลกเพื่อป้องกันคนเป็นเข้าไปและป้องกันไม่ให้วิญญาณร้ายกลับสู่โลกมนุษย์



Amber (แอมเบอร์)
เกิดจากส่วน เลือด
อาวุธ แส้ซอร์โรว์โซล (Sorrow Soul)
ทำหน้าที่ ขัดขวางภารกิจของวาลคิวเร่อื่นๆ

[เซนต์ แมกนัส]

4 Nagas



Zechariah Zenas, the Elder

"มาวิน...อย่ากลัว ยังมีทางช่วยอาจารย์ของเจ้าได้ เจ้าต้องนำ "ปิ่นแห่งการครอบครอง" คืนมาจาก รามอน ศิษย์พี่ของเจ้า"

จอมปราชญ์แห่งมิราบิลิส จบมาจากโซโลมอนอาคาเดมี่ และถูกเชิญให้เป็นอาจารย์สอนในสถาบันอันทรงเกียรติดังกล่าว แต่เขากลับมีใจรักที่อยากได้ลูกศิษย์เป็นเด็กที่ด้อยโอกาสมากกว่าเด็กพิเศษที่ถูกคัดเข้าสถาบันอันทรงเกียรติของฟิเลเซีย

เป็นอาจารย์ที่เข้มงวด แต่นอกเวลาเรียนแล้วกลับเป็นคนแก่ที่ชอบเล่าเรื่องตลก และเรื่องการผจญภัยในวัยหนุ่มของตน ยามว่างชอบนั่งอ่านหนังสือเป็นที่สุด มีความคิดว่า การที่สร้างศิษย์ที่ดีขึ้นมาได้คนหนึ่งนั้นคือคุณค่าสูงสุดของคนเป็นครู


Zechariah Marvin

"อาจารย์ไม่เคยอนุญาตให้เราเข้ามาที่นี่เลย แต่มันอาจเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวเมื่อครู่นี้"

เด็กหนุ่มที่นิสัยร่าเริง เข้ากับคนง่ายและไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า เพราะมีอาจารย์ที่เป็นเสมือนพ่อแม่อยู่แล้ว ความสามารถด้านเวทย์มนต์ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น เป็นเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง และแม้จะชอบฟังเรื่องราวการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นจากอาจารย์อยู่เสมอ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าชีวิตของตนจะต้องพลิกผันและต้องออกผจญภัยด้วยตัวเอง โดยมีความหายนะใหญ่หลวงที่ต้องแก้ไข แต่ทว่าการได้มีเพื่อนใหม่ๆ ตลอดการเดินทางได้เปลี่ยนแปลงให้เขาได้มีความฝันความหวังและความเข้มแข็งมากขึ้น


Zechariah Marvin, the Guardian Shaman ผู้ใช้พลังธรรมชาติ

"ไม่มีประเทศไหนในเมริเซียที่สามารถสร้างเครื่องจักรที่สมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้ เจ้านี่ต้องเป็นหุ่นยนต์ของรามอนแน่!!"

เนื่องจากเป็นพลังจากเทพธิดาที่รักสงบที่สุดในหมู่เทพธิดาทั้งสี่ เธอจึงมอบพลังการป้องกันอันสูงสุดให้มาวิน อาชีพนี้จึงเป็นอาชีพที่ใช้เป็นตัวตั้งได้ดี และยังสนับสนุนกลุ่มได้ดีเช่นกัน

ไม้เท้าเปลี่ยนรูปร่างไปลอยได้ด้วยพลังวิเศษ ในความนิ่งและสงบคือพลังยิ่งใหญ่ที่คุกรุ่นอยู่ภายใน


Zechariah Marvin, the Swords Magician นักดาบเวทย์

แม้อาชีพนี้สังกัดธาตุไฟ แต่ด้วยเทพธิดาผู้มีไหวพริบ และฉลาดเป็นเลิศที่สุดในบรรดาเทพธิดาทั้งสี่ จึงรวบรวมการใช้ดาบ และการใช้เวทย์เข้าไว้ด้วยกัน นักเวทย์อย่างมาวินจึงได้ใช้ดาบเวทย์มนตร์ แม้ว่าจะไม่ใช่ดาบจริงๆ ก็ตาม แต่พลังทำลายนั้นรุนแรง และยังสามารถใช้เวทย์สนับสนุนเพื่อนในกลุ่มให้สามารถต่อสู้ได้อีกครั้งด้วย

เมื่ออยู่ในอาชีพนี้คทาของมาวินถูกฝังเข้าไปในมือซ้าย สามารถเนรมิตดาบเวทย์มนต์ออกมามากมาย


Zechariah Marvin, the Wonderer ผู้วิเศษ

"ไม้เท้า "บาร์นาบัส" ของเราก็เปลี่ยนรูปร่างด้วย!!"

ผู้วิเศษ เป็นอาชีพที่สร้างความปั่นป่วนให้ฝ่ายตรงข้ามอย่างมาก เพราะสามารถสะท้อนภาพการใช้เวทย์ทำให้เวทย์เกิดผลอีกครั้งได้ เป็นอาชีพที่ใช้เวทย์สนับสนุนได้อย่างดี โดย ซารินดรา เทพธิดาแห่งเงาสะท้อนเป็นผู้มอบพลังอันน่าพิศวงนี้แก่มาวิน


Zechariah Marvin, the Summoner ผู้ใช้มนต์อสูร

"นาคาแห่งความกลัว ได้รับพรให้มีเสียงกรีดร้องที่สามารถทำลายความกล้าหาญทั้งสิ้นของศัตรูได้ หากแต่นาคานั้นก็มีจุดอ่อนอยู่ เจ้าจงฟังให้ดี..."

ด้วยความที่นาคาแห่งความกลัวมีพลังที่ส่งผลต่อจิตใจของคู่ต่อสู้ ดังนั้นสัตว์หรือเทพที่ถูกเรียกอัญเชิญด้วยเวทย์มนต์จะไร้จิตใจ จึงเป็นทางเดียวที่จะเอาชนะ

พลังและความสามารถที่จะช่วยให้มีซิลในสนามมากมายาขึ้นอย่างรวดเร็ว


Shanyu Han

"จากนี้ไปก็เข้าเขตป่าทมิฬแล้ว เราต้องระวังเป็นพิเศษเพราะมีมอนสเตอร์มากมาย"

เซนทอร์เด็กอายุ 27 ปี (เทียบกับมนุษย์คือ 14) ที่มีความสามารถด้านการยิงธนูอย่างหาตัวจับยาก เป็นเซนทอร์สอดแนม (Centaur Scout) ออกมาสำรวจสาเหตุของแผ่นดินไหว และได้พบกับมาวินที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน จึงเป็นเพื่อนคนแรกในการเดินทางตามภารกิจที่เทพเจ้ามอบหมาย ชอบการผจญภัยและกระตือรือร้นในการหาสิ่งแปลกใหม่ให้ชีวิต ใฝ่ฝันที่จะออกไปท่องเที่ยวนอกเขตป่ามานานแล้ว ซึ่งทำให้มาวินพลอยกระฉับกระเฉงไปด้วย เขาออกจะใจร้อนสักหน่อย แต่เมื่อเวลาเล็งเป้า กลับมีสมาธิเป็นคนละคน


Vivian Law

นักแม่นปืนสาว ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ไม่กลัวใคร เป็นนักล่าหัวเงินรางวัลที่โจรขยาด โดยถ้าเป็นคดีที่เจ้าทุกข์เป็นผู้หญิง และคนร้ายเป็นผู้ชาย เธอยินดีทำงานให้ฟรีเลยทีเดียว ฝักใฝ่เรื่องสิทธิสตรีและเกลียดที่สุดถ้าโดนผู้ชายดูถูก เธอรังเกียจผู้ชายที่ชอบใช้กำลังและความก้าวร้าวข่มผู้หญิง เธอเป็นคนคลั่งไคล้ปืนมาก เพราะคิดว่า เมื่อใช้ปืน ความเหลื่อมล้ำเรื่องกำลังที่ผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิงก็หมดความหมาย และมองว่าปืนเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชายยอมรับว่าเธอเท่าเทียม แม้จะแอนตี้ผู้ชายเอามากๆ แต่ที่จริงเธอเป็นคนมีน้ำใจ และมักเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเสมอ เธอมีปืนมากมายหลายกระบอกซุกซ่อนอยู่ทั่วตัว และมักงัดเอาออกมาใช้ให้ผู้ร่วมทีมแปลกใจอยู่เสมอ


Ursa Ashley

"ถ้าเป็นป่าทางเหนือล่ะก็...ชั้นรู้จักดีรองจากบ้านของตัวเองเลยล่ะ"

สาวน้อยวัย 9 ขวบจากตระกูลผู้ฝึกสัตว์ที่มีชื่อเสียงทางตอนใต้ของเกาะอัสโซเลน และแมวน้อยคู่ใจของเธอ ปุ๊กกี้ เธอพบปุ๊กกี้ที่ผ่ายผอมและใกล้ตายจากข้างกองขยะ เธอได้อุ้มมันขึ้นมาด้วยมือเล็กของเด็ก 5 ขวบ และประคบประหงมจนมันรอดชีวิต ปุ๊กกี้ก็รักเธอเหมือนว่าเธอเป็นแม่ของมัน หลังจากนั้นปุ๊กกี้ก็โตวันโตคืนและอยู่เคียงข้างแอชลี่เสมอ จนมันเริ่มโตขึ้นคับห้องของเธอ เธอจึงต้องเอาไปฝากให้มันนอนที่โรงนาใกล้ๆ ด้วยความเจ็บปวด เพราะไม่ว่าอย่างไร มันยังคงเป็นแมวน้อยขี้อ้อนในสายตาเธอเสมอ เธอร่วมทางกับพวกมาวิน เพราะต้องการหาทุนเพื่อสร้างบ้านให้ใหญ่ขึ้นให้ปุ๊กกี้อยู่กับเธอได้เหมือนเดิม


Trixie, the Ornament Trader

ทริ๊คซี่ สาวขายเครื่องประดับที่ขอร่วมทางไปกับกลุ่มของมาวิน ด้วยข้ออ้างว่าต้องการเดินทางหาซื้อหินสีแปลกๆ แต่แท้ที่จริงเธอเป็นนักล่าสมบัติที่มีอาชีพขายของบังหน้า ดังนั้นเป้าหมายแท้จริงของเธอคือสมบัติมีค่าจากโบราณสถานต่างๆที่พวกมาวินจะต้องไป ดังนั้น แม้ความสามารถของเธอสูงเกินกว่าแม่ค้าธรรมดา แต่ความกะล่อนของเธอก็ช่วยให้เอาตัวรอดไปได้ แม้เธอจะร่วมเดินทางกับมาวินในช่วงสั้นๆ แต่เธอผู้มีเรื่องสนุกเล่าได้ตลอดก็สร้างบรรยากาศที่สนุกสนานให้กับกลุ่มผจญภัยนี้ได้ดีทีเดียว


Horror Face & Lucia Cilla

อดีตนักวิจัยจากเกาะแห่งกองขยะ ที่โดนกัมมันตรังสีจากโบราณวัตถุชิ้นหนึ่ง จนมีรูปร่างหน้าตาพิกลพิการ แม้ถูกรังเกียจจากทุกคน แต่ว่าลูเซียหญิงวณิพกตาบอด กลับเป็นคนเดียวที่ทำให้อารมณ์เขาสงบเย็นลงได้ ดังนั้นเขาจึงมีชีวิตอยู่เพื่อทำทุกอย่างให้เธอมีความสุข

การที่ลูเซียจะมองเห็นโลกที่สวยงามอีกครั้ง เป็นสิ่งที่ฮอร์เร่อร์เฟซพยายามทำเพื่อเธอ แม้เธอจะไม่ได้ใส่ใจในสิ่งนี้มากนัก แต่เขาก็รู้ดีว่าในส่วนลึกเธอก็หวังจะมองเห็นเหมือนเดิม ซึ่งแม้จะหมายถึงการเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของเขาด้วยก็ตาม แต่เขาก็พร้อมที่จะถูกเธอเกลียด เพื่อความสุขของผู้ที่เขารัก


Sanhedrin Observatory

"นี่ไม่ใช่หอดูดาวธรรมดา แต่ถูกสร้างจากวิทยาการโบราณ แท้จริงมันคือป้อมปืนที่สร้างแรงดึงดูดมหาศาล"

โบราณสถานที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ และนักสำรวจเข้าใจว่าเป็นหอดูดาวในสมัยโบราณ แต่เมื่อรามอนได้รู้ประโยชน์ที่แท้จริงของมันจากบันทึกโบราณ เขาก็เข้าครอบครองและดัดแปลงให้มันเป็นสิ่งที่มันเคยเป็นอย่างแท้จริง


Zenas Ramon

ศิษย์ที่เก่งที่สุด และน่าสงสารที่สุดของเซคาริยาห์ มีดวงตาข้างขวาเป็นสีแดงน่ากลัว มีชีวิตที่อาภัพ และต้องอยู่อย่างหวาดระแวงไม่อาจสนิทสนมกับใคร และไม่สามารถไว้วางใจใครได้

ในที่สุดเมื่อได้ล่วงรู้ความลับของดวงตาสีแดงของตน และความสามารถทางด้านเวทย์มนต์ที่เหนือมนุษย์และความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ระดับอัจฉริยะ เขาจึงได้พบว่าไม่ใช่เขาไม่คู่ควรกับโลก โลกนี้ต่างหากที่ไม่คู่ควรกับเขา


Damita Queen

นักรบสาวที่จงรักภักดีต่อรามอนมาก หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน ในฐานะแม่ทัพฝ่ายขวาในสงครามกลางเมืองของสาธารณรัฐ โครโรเซีย บ้านเกิดของเธอ เธอได้สูญเสียทุกสิ่ง และถูกทรยศจากผู้ที่เธอถวายชีวิตรับใช้มาตลอด เธอได้หมดความเชื่อถือในความเป็นชาติ ความหวัง และอนาคต ทำให้เธอหันหลังให้กับทุกสิ่งที่เธอเคยเชื่อในอดีต และมองหาโลกใหม่ อันไร้ซึ่งพรมแดน ไร้ศาสนา ไร้เชื้อชาติ อยู่ภายใต้ผู้นำที่ไม่มีใครในโลกจะโค่นลงได้ และรามอนเป็นผู้ที่ทำให้อุดมคติอันสูงส่งของเธอเป็นจริงขึ้นมาได้


Lady Red Rose

สาวสวยผู้ทรงเสน่ห์ ในคฤหาสน์หลังงาม ที่ปลูกดอกกุหลาบไว้มากมาย หลากสี หลายพันธุ์ แต่กุหลาบสีแดงที่เธอรักมากต้องขึ้นอยู่ทุกหนทุกแห่ง และทุกห้อง หลายร้อยปีที่ไม่เคยมีใครที่เข้ามาแล้วได้กลับออกมาอีก ผู้อยู่ใกล้เคียงรู้ดีว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ และความงามอันอมตะของเธอต้องสังเวยด้วยชีวิตคนมากมาย แต่กระนั้นข้อเสนอที่รามอนยื่นให้เธอ ก็ทำให้ปีศาจสาวแสนสวย พร้อมจะร่วมมือกับแผนการโหดที่สร้างความประทับใจให้เธออย่างยิ่ง


Miss Joker

หญิงงามไร้รอยยิ้ม ผู้อยู่ภายใต้หน้ากากที่ปิดบังใบหน้าอันแท้จริงของเธอ เธอผู้ซึ่งดูราวกับเกลียดชังทุกสิ่งทุกอย่าง ได้ทิ้งความสุขของตัวเองไปจนหมดสิ้น และหันไปสร้างความสุขอันโหดร้ายแก่ผู้อื่นแทน ด้วยความว่องไวที่หาตัวจับยาก และด้วยลูกไม้อันแพรวพราวทำให้เธอเป็น 1 ใน 4 หัวหน้า ของรามอน หลังหน้ากาก คือ ใบหน้าอันเย็นชา แต่หลังใบหน้านั้น คือ การโหยหาความสุขอันไม่สิ้นสุด ประกายแห่งอดีตอันแสนสุขที่เป็นดั่งหยดน้ำค้างกลางทะเลทรายที่กำลังเหือดแห้งลงช้าๆ ในห้วงลึกที่สุดของจิตใจเธอ เป็นเพียงสิ่งยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวที่ทำให้เธอคงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้


Madam Lamenta

สุภาพสตรีแสนสวยและลึกลับ ภรรยาหม้ายของขุนนาง พ่อค้า และผู้มีตระกูล 6 คน ที่ทุกคนล้วนเสียชีวิตหลังจากการแต่งงานได้ไม่นาน แม้กระนั้น สตรีผู้ต้องเผชิญกับเรื่องเศร้าโศกในชีวิต ก็ยังคงถูกเคราะห์กระหน้ำซ้ำเติม เมื่อเกิดโรคระบาดขึ้น และลูกๆ 3 คนของเธอต้องเสียชีวิตลง ผู้คนรอบข้างเริ่มซุบซิบนินทา รังเกียจเหยียดหยามเธอว่าเป็นแม่มด หรือมีผีสิง จนจิตใจของเธอด้านชากับ โลกแห่งความจริง และความเป็นมนุษย์ จนได้พบกับรามอน ผู้มอบหนังสือโบราณเล่มหนึ่งซึ่งเปิดประตูโลกแห่งความตายให้เธอ และแล้วเธอก็ได้ครอบครองความตาย และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน...อย่างน่าสยดสยอง


Baalzebub

"เจ้าเด็กอมมือเอ๊ย! ถ้าคิดว่ารถลากกริฟฟินของแกจะไล่ตาม "บาอัลเซบับ" ที่บินเร็วกว่าเสียงได้ทัน ก็ลองดู..."

ยานขนาดมหึมา ที่รามอนพบพร้อมแผ่นจารึกภาษาโบราณ หลังจากการซ่อมแซมและดัดแปลงมันก็บินได้เร็วกว่าเสียง และมีพลังทำลายล้างสูงเกินกว่าพาหนะใดๆ และเทคโนโลยีใดๆ ในยุคสมัยเดียวกันจะเทียบเท่าได้

[เซนต์ แมกนัส]

Merrisia Familiy

ในทวีปเมอร์ริเซียที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ประกอบด้วยอาณาจักรต่างๆมากมายตลอดทั่วทั้งทวีป
แต่ละอาณาจักรนั้นก็มีตระกูลต่างๆทั้งน้อยใหญ่ พร้อมกับเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของแต่ละตระกูลที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้ผ่านยุคต่างๆจากรุ่นสู่รุ่น
ในบรรดาตระกูลต่างๆเหล่านั้นมีหลายตระกูลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญและโดดเด่นต่ออาณาจักรที่ตนสังกัดอยู่ และนี่คือเรื่องราวของตระกูลชั้นแนวหน้าบางตระกูลที่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง






ตระกูล Inzu
ตราสัญลักษณ์ประจำตระกูล Inzu นั้นมีสัญลักษณ์ตัว Therion ประดับอยู่ตรงกลาง เริ่มแรกนั้นชาวฟูดินันยังไม่มีระบบตระกูล หรือ สร้างตราประจำตระกูลขึ้นมา ต่อมาภายหลังจากได้ก่อตั้งนครมิราบิลิสขึ้นมา จึงเริ่มมีตระกูลต่างๆเกิดขึ้น ตระกูล Inzu ก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังได้รับราชการที่มิราบิลิส ก็ได้เกิดผู้ฝึกสัตว์ที่มีชื่อเสียงที่สามารถควบคุมได้แม้ กระทั่ง Therion ที่ดุร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับวงศ์ตระกูลอย่างยิ่งยวด ตั้งแต่นั้นมาตระกูล Inzu จึงได้บรรจุสัญลักษณ์ Therion ลงในตราประจำตระกูล แม้ว่าสมาชิกในตระกูลบางคนจะไม่ได้รับราชการในมิราบิลิสหรือมีอาชีพเป็นผู้ฝึกสัตว์ แต่ก็ยังคงใช้ตราสัญลักษณ์นี้อยู่


Akamu นักสู้มือเปล่าผู้เต็มเปี่ยมด้วยความกล้าหาญ



Akamu Inzuเป็นนักสู้มือเปล่า (Pugilist) ชาวฟูดินันแต่กำเนิด และยังเป็นต้นตระกูลของตระกูล Inzu ด้วย หลังจากสิ้นสุดสงครามเขาได้ติดตามฮารีซันไปสู่นครมิราบิลิสร่วมกับชาวฟูดินันคนอื่นๆ ที่นั่นเองเขาได้เข้ารับราชการและได้แต่งงานกับสตรีชาวฟีเลเซีย จนให้กำเนิดธิดามาคนหนึ่งนาม Kalena ซึ่งภายหลังเป็นผู้ก่อตั้งตระกูล Inzu แห่งมิราบิลิสในที่สุด


Kalena ผู้ฝึกสัตว์ที่สยบได้แม้ Therion อันดุร้าย



Kalena เป็นผู้ฝึกสัตว์หญิง (Tamer) เป็นธิดาของ Akamu ผู้เป็นต้นตระกูลInzu เธอเข้ารับราชการที่มิราบิลิสในสมัยของกษัตริย์ เอลียาห์ และทำงานเป็นผู้ฝึกสัตว์ตั้งแต่นั้นมา แต่ด้วยพรสวรรค์ในการสื่อสารกับสัตว์ของเธอนี่เอง ทำให้ไม่เพียงสัตว์น้อยใหญ่เท่านั้นที่ยอมสยบต่อเธอ แม้แต่ Therion ที่ดุร้ายเธอก็ยังสามารถสยบลงได้ ทำให้ชื่อเสียงของเธอแผ่ขยายไปทั่วมิราบิลิส เป็นผลให้ตราประจำตระกูลบรรจุสัญลักษณ์ Therion ลงไปด้วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


Kimberly ราชครูผู้เพียบพร้อมด้วยปัญญา



ในสมัยต่อๆมา ตระกูลInzu ก็ได้มีนักเวทย์หญิงถือกำเนิดขึ้น เธอเป็นนักเวทย์ผู้มีความสามารถเชี่ยวชาญทางเวทย์ดิน และเป็นปราชญ์ผู้มากด้วยความรู้และทักษะทางเวทย์ที่ยากจะหาตัวจับได้ เธอได้เข้ารับราชการที่มิราบิลิส แต่ด้วยทักษะและความรู้ที่ยากหาใครเสมอเหมือนของเธอนี่เอง ทำให้เธอได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติ เป็นราชครูประจำราชสำนักแห่งมิราบิลิส ทำหน้าที่สอนสั่งกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์โดยตรง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหน้าที่อันทรงเกียรติสูงสุดที่คนในตระกูล Inzu เคยได้รับมาเลยทีเดียว



Ascensiano



ตระกูล Ascensiano เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงซึ่งรับราชการทำหน้าที่รับใช้ฟีเลเซียมายาวนานหลายต่อหลายชั่วคน ตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลแสดงถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และ คุณธรรมแห่งสายลมบริสุทธิ์ ประดับด้วยสีขาวบริสุทธิ์ของดอกเอเดอไวท์ โดยมีคติประจำตระกูลว่า “Virtus est Mater Actus” ซึ่งมีความหมายว่า “คุณธรรมเป็นมารดรแห่งการกระทำ” เพราะเชื่อว่า การกระทำใดก็ตาม หลักคุณธรรมความถูกต้องจักต้องมาก่อนเสมอ สำหรับสัญลักษณ์เปกาซัสที่อยู่ตรงกลางกับมงกุฎดอกไม้นั้นได้เพิ่มลงไปในภายหลัง หลังจากที่มีอัศวินเปกาซัสหญิงคนแรกของตระกูลได้สร้างชื่อเสียงจนได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีคนหนึ่งของอาณาจักร


Eurig เปกาซัสผู้จงรักภักดีต่อนายของตน



Eurig เป็น เปกาซัสของ วีรสตรี Brunilda โดยที่ Eurig เป็นเปกาซัสที่มีทั้งความงดงาม และ ความเก่งกาจอยู่ในระดับชั้นแนวหน้าเหนือเปกาซัสตัวอื่นๆในอาณาจักร แต่เหนือสิ่งอื่นใด Eurig นั้นมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อ Brunilda ยิ่งกว่าชีพของตนเสียอีก เพราะวีรกรรมความกล้าหาญของ Eurig ที่ได้ทำร่วมกับ Brunilda นี่เอง ทำให้ Eurig ได้ถูกบรรจุเป็นสัญลักษณ์ปรากฏในตราประจำตระกูล Ascensiano ด้วย


Brunilda อัศวินเปกาซัสสาวผู้เป็นวีรสตรี



Brunilda เป็นอัศวินเปกาซัสหญิง (Pegasus Knight) คนแรกของอาณาจักรฟีเลเซีย เธอเข้ารับราชการเป็นอัศวินเช่นเดียวกับทุกคนในตระกูลรุ่นก่อนๆ แต่ความสามารถของเธอกลับโดดเด่น และได้สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมเกินกว่าใคร จนได้เป็นอัศวินเปกาซัสหญิงคนแรกของตระกูลและของอาณาจักรฟีเลเซียด้วย ซึ่งทำให้ตระกูลAscensianoโด่งดังไปทั่วเพราะเป็นตระกูลที่มีนักรบเปกาซัสเป็นผู้หญิง เธอได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีคนหนึ่ง เพราะเหตุนี้เองเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ จึงได้มีการเพิ่มเปลี่ยนแปลงตราประจำตระกูล โดยการใส่สัญลักษณ์เปกาซัสคือ Eurig ม้าประจำตัวของเธอลงไปตรงกลาง และได้เพิ่มมงกุฎดอกไม้ลงไปด้านบนเพื่อสื่อถึงเธอ


Bevan นักรบหนุ่มผู้รักอิสระ

Bevan เป็นสมาชิกคนหนึ่งในตระกูล Ascensiano เป็นลูกคนกลางในบรรดาพี่น้อง 7 คน แต่ตัวเขากลับแปลกแยกจากญาติพี่น้องคนอื่นๆ โดยแทนที่เขาจะเข้ารับราชการรับใช้ราชสำนักฟีเลเซีย และดำเนินรอยตามบรรพบุรุษเป็นอัศวินผู้เปี่ยมด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีเยี่ยงคนอื่นๆ เขากลับเลือกที่จะออกผจญภัยเป็นทหารรับจ้างซึ่งเป็นงานที่ไร้ซึ่งเกียรติยศ การกระทำของเขาได้สร้างความอับอายเสื่อมเสียให้กับตระกูล Ascensiano
เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งหมดที่เขาทำไปก็เป็นการซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเองดั่งสายลมอิสระที่มิอาจกักขังได้

[เซนต์ แมกนัส]

ตระกูล Azar



ตราประจำตระกูล Azar แห่งลาซาลนั้นเป็นรูปหมาป่า เป็นเครื่องหมายตีตราของตระกูลที่มีมาแต่ช้านานตระกูล Azar นี้เป็นตระกูลที่ลึกลับ ซ่อนเร้น ไม่เปิดเผยตัวต่อสาธรณชนภายนอกทั่วไปหากไม่มีความจำเป็น สิ่งเดียวที่ช่วยให้คนนอกรู้ว่าเป็นคนในตระกูล Azar นั้นมีเพียงรอยตีตรารูปหมาป่าที่ประทับที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้น โดยที่รอยตีตรานี้เป็นรอยที่เกิดจากเหล็กร้อนที่ประทับลงบนร่างคนในตระกูลทุกคนตั้งแต่ยังเด็ก

Baraz
จอมเวทย์เพลิงผู้บุกเบิกตระกูล

จอมเวทย์แห่งลาซาลผู้เป็นต้นตระกูลแห่งตระกูล Azar ตัว Baraz นั้นเป็นจอมเวทย์ที่มีพลังเวทย์กล้าแข็งมาก แต่คาถาที่เขาถนัดที่สุดนั้นเป็นคาถาในสายเพลิง เขาได้ทำการศึกษาค้นคว้าและทุ่มเทให้กับเรื่องเวทย์สายนี้อย่างจริงจังจนสามารถประสบความสำเร็จเป็นจอมเวทย์เพลิงชั้นแนวหน้าและได้รับการยกย่องให้เป็นจอมเวทย์ชั้นแนวหน้าของลาซาล ในที่สุดเขาก็ได้ก่อตั้งตระกูล Azar ตระกูลแห่งจอมเวทย์ไฟนี้ขึ้นมาในลาซาล

Clamerenos
อัศวินปีศาจจากขุมนรก


อัศวินปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรกเพื่อทำสัญญาปีศาจร่วมกับตระกูล Azar เดิมที Clamerenos เป็นอัศวินปีศาจที่อยู่ในขุมนรกอันมืดดำ เป็นนักรบแห่งความมืดที่เต็มเปี่ยมด้วยความชั่วร้าย แต่ Zareen ผู้ใช้เวทย์แห่งความตายแห่งตระกูล Azar ได้ไปศึกษาค้นคว้าศาสตร์มนต์ต้องห้าม และได้ทำการเปิดประตูนรกเรียก Clamerenos ขึ้นมาจากนรก เพื่อทำสัญญาปีศาจร่วมกันในนามของตระกูล Azar ตามสัญญานั้น Clamerenos ต้องให้ความช่วยเหลือตระกูล Azar ในทุกๆด้านเพื่อให้ได้มาซึ่งความยิ่งใหญ่แห่งตระกูลโดยไม่สนวิธีการ ซึ่งสิ่งที่ตระกูล Azar เสนอแลกเปลี่ยนตามสัญญานั้นคือโลหิตสดๆของมนุษย์ในฐานะเครื่องสังเวยนั่นเอง

Zareen
ผู้ใช้ความตายผู้หลงใหลในความมืด


Zareen เป็นจอมเวทย์หญิงแห่งตระกูล Azar ผู้เป็นผู้ใช้เวทย์แห่งความตาย (Necromancer)
เธอเป็นจอมเวทย์ที่มีความเก่งกาจด้านเวทย์ที่สุดคนหนึ่งของตระกูล แต่สิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นๆในตระกูลคือแทนที่เธอจะสนใจศึกษาพัฒนาเวทย์ไฟเช่นคนอื่นๆ เธอกลับสนใจในศาสตร์ของเวทย์ด้านมืดและความตาย เธอเป็นผู้ชักนำหนทางของตระกูล Azar ให้ดำดิ่งเข้าสู่ด้านมืดที่แสนชั่วร้าย หลังจากการศึกษาศาสตร์มืดมาเป็นเวลานาน เธอได้ทำการเปิดประตูนรกเรียกอัศวินปีศาจ Clamerenos มาจากขุมนรก และทำสัญญาปีศาจร่วมกับมัน





ตระกูล Odilon




ตระกูล Odilon เป็นตระกูลที่นับว่ามีความเก่าแก่มากตระกูลหนึ่งในแอนดิซอง มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยแรกๆของการก่อตั้งประเทศ มีที่ดินและอาณาเขตอยู่มากมาย ทั้งเขตภาคพื้นสมุทร เขตภาคพื้นน้ำแข็ง จนถึงบนแผ่นดิน

ตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลนั้นเป็นสัญลักษณ์รูปเงือก ด้วยเชื่อว่ามีนางเงือกจำแลงกายมาเป็นมนุษย์ขึ้นมาอยู่กินกับคนในตระกูลคนหนึ่ง และได้ทิ้งพรสวรรค์ด้านเวทย์น้ำไว้ในสายเลือดของคนในตระกูลOdilon ทำให้คนในตระกูลรุ่นต่อมามีความเชี่ยวชาญทางเวทย์น้ำ และนิยมที่จะรับราชการในแอนดิซอง

Elvira
เงือกสาวผู้หลงรักมนุษย์

เงือกสาวผู้ได้จำแลงกายเป็นมนุษย์และอยู่กินกับมนุษย์จนเกิดเป็นสายเลือดลูกผสมขึ้นมาในตระกูล Odilon ตลอดเวลาที่อยู่กินกับสามีเป็นเวลานานหลายสิบปีแต่กลับหามีร่องรอยแห่งความชราภาพตามวัยที่ร่วงโรย ความงามของเธอนั้นนับวันกลับยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะธรรมชาติของเงือกที่ยิ่งมีอาคมเก่งกล้าเท่าไหร่ก็ยิ่งงามขึ้นเท่านั้น
ภายหลังสามีของเธอเสียชีวิตลง ศพของเขาได้ถูกนำไปใส่เรือเล็กและลอยไปในทะเลตามคำสั่งเสียสุดท้ายของเขา ตอนนั้นเองที่ Elviraได้กระโจนลงจากบนฝั่งหายไป แต่เพียงครู่เดียวทุกคนก็ได้เห็นนางเงือกผู้งดงาม ผมสีฟ้า และมีใบหน้าคล้ายกับElviraไม่มีผิดกระโดดขึ้นเรือพร้อมกับคว้าศพของสามีกระโจนหายไปในท้องทะเล และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย


Nicholas
เด็กชายอัจฉริยะผู้สืบทอดพรสวรรค์แห่งวารี


หลังจากเวลาร่วงเลยผ่านไปหลายร้อยปีทำให้ตำนานเรื่องนางเงือกของตระกูล Odilon ถูกผู้คนลืมเลือนและคิดว่าเป็นเพียงแค่ตำนานเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งในตระกูลได้กลับกลายเป็นเรื่องที่ถูกเล่าขานอีกครั้ง เพราะการกำเนิดมาของ Nicholas เด็กชายผู้มีดวงตาและผมสีฟ้าพร้อมกับพรสวรรค์ในการใช้เวทย์น้ำที่เก่งกาจ ทำให้ผู้คนในตระกูลต่างสันนิษฐานว่า Nicholas เป็นเด็กที่ได้รับสายเลือดเงือกส่งผ่านมาอย่างเข้มข้นกว่าคนอื่นๆ เพราะNicholasเป็นเด็กที่เกิดมาจากการแต่งงานภายในเครือญาติ Nicholas ได้รับราชการกับแอนดิซองตั้งแต่ยังเยาว์วัยและสามารถสำเร็จเป็น Wonderer ได้ด้วยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แอนดิซอง


Muirgheal
อารักขเทวดาผู้พิทักษ์รักษาตระกูล

อารักขเทวดาประจำตระกูล Odilon แต่แรกนั้นไม่มีใครรู้ถึงการดำรงอยู่ของเธอ หรือรู้ว่าเธอปกปักษ์คุ้มครองตระกูลนี้มานานเท่าไหร่แล้ว จนกระทั่งมีนักบวชคนหนึ่งในตระกูลสามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของเธอได้
ทำให้รู้ว่านอกจากอารักขเทวดาประจำตัวแต่ละคนแล้วยังมีอารักขเทวดาประจำตระกูลอีกด้วย และการที่เธอมาอารักขาตระกูล Odilon ย่อมหมายความว่าตระกูลนี้เป็นตระกูลที่มีความสำคัญขนาดสวรรค์ต้องส่งเทวดามาดูแลเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เองคนในตระกูลจึงสร้างวิหารเล็กๆริมชายหาด ลา เพลกบลู เพื่อเป็นวิหารที่ถวายให้กับเธอและเป็นสถานที่สำหรับคนในตระกูลมาขอสวดพรจากเธอ

[เซนต์ แมกนัส]

เทพธรรมชาติแห่งฟูดินัน

การ์ดนี้มีตำนานฉบับนี้เราจะมาเล่าถึงเทพธรรมชาติของฟูดินันกันครับ

อย่างที่ทราบว่าชาวฟูดินัน ใกล้ชิดธรรมชาติ เชื่อว่าในธรรมชาติ มีจิตวิญญาณ
และนับถือธรรมชาติเป็นเทพด้วยทีนี้เรามาดูกันว่าชาวฟูดินันนับถือเทพจากธรรมชาติอะไรกันบ้าง

Yggdrasil เทพแห่งชีวิต
ต้นอิกดราซิลเป็นต้นไม้ใหญ่เป็นต้นไม้มหัศจรรย์ที่ใหญ่โตสูงเท่าภูเขาคีรีบันดาเลยทีเดียว ลำต้นของมันใครคนจับมือกันยืนล้อมได้100คน
ใบมีสีเงิน ที่อยู่มานาน นานมากจนไม่มีใครรู้ว่านานเท่าใด และอายุเท่าใด มันไม่เคยเหี่ยวเฉา มีแต่การผลัดใบซึ่งเมื่อผลัดใบ
พื้นที่บริเวณนั้นจะเป็นดั่งพื้นพรมสีเงิน ที่ลำต้นยักษ์มีสัญลักษณ์ประหลาดอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าหมายถึงอะไร
แต่ชาวฟูดินันเขียนสัญลักษณ์นี้ลงบนเครื่องมือทางการเกษตรของเขา เชื่อว่าจะทำให้พืชผลอุดมสมบูรณ์
มหาพฤกษานี้ยังมีความประหลาดอยู่อีกตรงที่แง่งรากของมันอันหนึ่งมีลำธารไหลออกมาจนขยายเป็นแม่น้ำ ใหญ่ไหลสู่ทะเลสาปนีรันดา
ชาวฟูดินันมองว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติที่ต้นไม้จะให้น้ำแทนที่จะดูดน้ำ จึงนับถืออิกดราซิลเป็นเทพแห่งชีวิต
แต่เมื่อครั้งที่ทิโมที เดินทางมาวิจัยอารยธรรมโบราณในฟูดินัน เค้าได้บันทึกไว้ว่า ".......ข้าพเจ้าสัษนิฐานว่า อาจมีตาน้ำใต้ดินและเผอิญต้นอิกดราซิลนี้ไปขึ้นอยู่บนนั้น
จึงดูเหมือนมีน้ำไหลออกจากรากของมัน และด้วยความที่มันขึ้นและมีรากติดกับตาน้ำใต้ดิน จึงอาจเป็นเหตุผลที่มำให้อิกดราซิลไม่เคยเหี่ยวเฉา และกลายเป็นต้นไม้ใหญ่โต
แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่เข้าใจในสีประหลาดของใบ ซึ่งจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน และการสำรวจของข้าพเจ้า ไม่มีต้นไม้ใดในป่า
และไม่มีต้นไม้ใดในโลกที่มีลักษณะใบสีเงินเช่นนี้ นอกจากนี้ยังไม่เคยมีใครเห็นผลและเมล็ดของมัน ต้นไม้แบบอิกดราซิลอาจมีต้นเดียวในโลก......."
เมื่อครั้งนอร์ริมอร์เผาป่าฟูดินัน อิกดราซิลได้คายน้ำออกจากใบสีเงินอย่างรวดเร็ว ไอน้ำจากจำนวนใบนับล้านสร้างเมฆก้อนใหญ่ให้ฝนตกดับไฟเป็นที่อัศจรรย์
บางครั้งเปลือกแก่ของอิกดราซิลกระเทาะออกมาชาวฟูดินันจะนำไปสร้างเครื่องรางต่างๆ และนำไปขาย เปลของซาร์ อิสฮานเอง
ก็ทำจากเศษเปลือกของอิกดราซิลที่หมู่บ้านช่างสลักทางใต้ของซาโลม ซื้อจากพ่อค้าเร่ชาวฟูดินัน

Punishula สัตวเทพผู้ปราบมาร
ในตำนานของชาวฟูดีนัน กล่าวกันว่า เมื่อเทพบารามันผู้ปกปักษ์ดูแลชาวโลกทรงเหนื่อยล้ากับภารกิจ อันไม่มีวันจบสิ้นนี้ ทรงอยากพักผ่อนในห้วงสวรรค์ ทรงหาวออกมาเป็นมัฉฉากึ่งวิหกสีขาวราวน้ำนมมีลายสักอักขระอันศักดิ์สิทธิ์ และเขาอันแหลมคม ก่อนจะพักบรรทมทรงสั่งเจ้ามัจฉาประหลาดที่โบยบินอยู่ว่า
"กายเจ้ามาคือลมอุ่นจากโอษฐ์เรา วิญญาณเจ้ามาจากความห่วงใยในมนุษย์ของเรา เราให้พรเจ้าให้ไม่มีภูตผีปีศาจตนใดทำอะไรเจ้าได้ เขาอันบริสุทธิ์ของเจ้าคือดาบที่ใช้ประหารเหล่าปีศาจร้าย ตลอดเวลาที่เราอยู่ในห้วงนิททราเจ้าจงเสาะหาเหล่าปีศาจอันมีอยู่ในโลกเถิด เจ้าจะชนะเหล่ามารด้วยความสนุกสนานเป็นสัญชาติญาณ"
ดังนั้น เมื่อใดที่องค์เทพนิททราPunishulaจะออกมาไล่ล่าเหล่ามารด้วยความสนุกสนาน จนมีคำกล่าวว่า"เมื่อบารามันหลับไหล ผู้ที่ฝันร้ายคือเหล่ามาร" เมื่อบารามันตื่นขึ้น ก็จะทรงสูดลมหายใจนำมัจฉาขาวกลับเข้าพระกายทิพย์

Angorion เทพราชสีห์
แองโกริออน เป็นสัตวเทพ ที่มากับเมฆหมอก อาศัยอยู่บนคีรีบันดา ไม่เคยมีใครเคยสัมผัส มีแต่เพียงเคยเห็นเท่านั้น เพราะแองโกริออน จะปรากฎในม่านหมอกทึบ และหายไปในสายหมอกนั้น
ยากที่ใครจะจับหรือหาเจอได้ เชื่อกันว่าแองโกริออน จะปรากฎกายเมื่อมีภัยอันตราย เหมือนเป็นการเตือนภัย และหากแองโกริออนส่งเสียงร้องออกมา แสดงว่าจะมีภัยธรรมชาติ แต่หากคำราม แสดงว่าจะเกิดเรื่องดีขึ้น
เมื่อครั้งก่อนที่ทัพซาโลมจะโจมตีฟูดีนัน มีข่าวลือหนาหูจากชาวบ้านที่ไปเก็บของป่าบนภูเขาว่า เห็นแองโกริออน ดังนั้นการเห็นโดยปราศจากเสียงใดๆ จึงเป็นการเตือนภัยนั่นเอง

Python มังกรเทพผู้พิทักษ์คีรีบันดา
เทือกเขาคีรีบันดาที่ใหญ่โตและสลับซับซ้อน ยังเป็นที่อยู่ของมังกรสองหัวไพทอน มังกรสองหัวนี้ ตัวใหญ่โตแต่กินพืชหญ้าเป็นอาหาร ไม่เคยออกจากบริเวณหุบเขาเลย ไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิต
แต่มังกรไพทอนนี้ จะมีสัมผัสไวต่อสภาวะจิตของสิ่งมีชีวิต หากมีจิตที่ไร้พิษสงเช่นชาวบ้านที่เก็บฟืนหรือหาของป่า มันจะไม่ทำอะไร แต่หากมีจิตที่หวาดกลัววุ่นวายเช่นเวลามีภัยธรรมชาติ มันก็จะกดดันอึดอัด
ส่งเสียร้องและกระสับกระส่าย เมื่อคราวที่ทัพซาโลมยกมาประชิด ทันใดที่ทหารโห่ร้อง ไพท่อนก็เริ่มหงุดหงิด เมื่อจิตเข่นฆ่านับแสนถูกปลุกเร้าเพื่อการรบ ไพทอนก็คลุ้มคลั่ง
โจมตีใส่ทหารซาโลมจนแตกทัพไม่เป็นขบวน และเมื่อยิ่งทหารมีจิตสู้มันยิ่งโกรธ เมื่อทหารเริ่มหวาดกลัว มันก็ยังกระสับกระส่ายอาละวาด จนทัพซาโลมที่สู้กับมันถึง3วันสามคืนต้องถอยออกไปตั้งหลักไกลจากบริเวณเทือกเขา
เมื่อไร้จิตที่เป็นอกุศล ไพท่อนจึงสงบลงได้

Harvest Spirit ภูตเก็บเกี่ยว
ว่ากันว่าต้นหมากรากไม้ใดที่มนุษย์ไม่ได้เก็บกิน ภูติเก็บเกี่ยวจะเป็นผู้เก็บเกี่ยวและทิ้งมันลงสู่พื้นดิน เพื่อให้เจริญงอกงามต่อไป
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสาวชาวนาที่บิดาล้มป่วย เมื่อข้าวของเธอสุก เธอไม่มีเวลาที่จะเก็บเกี่ยวได้เพราะต้องดูแลพ่อ เธอเสียดายนักที่ปีนั้นผลผลิตดี
แต่ข้าวมากมายกลับต้องปล่อยทิ้ง ให้นกกากิน และตกสู่พื้น เธอจึงขอร้องต่อภูติเก็บเกี่ยวให้รอเวลาที่พ่อเธอจะหายดี อย่าเพิ่งเกี่ยวข้าวของเธอลงพื้น
วันรุ่งขึ้นข้าวทั้งหมดกลับถูกเกี่ยวหมดทั่วท้องนา เธอตกใจร้องไห้ ได้มีชายคนหนุ่มคนหนึ่งถือเคียวรูปร่างประหลาด มาปลอบเธอและบอกว่า
ข้าวทั้งหมดของเธอเขาได้ช่วยเกี่ยวไว้ให้และได้เก็บไว้ในยุ้งฉางของเธอ เธอซาบซึ้งในน้ำใจชายหนุ่มนิรนาม จึงได้ทำอาหารเลี้ยงเขา และเมื่อเขาจากไปเธอได้พยายาม
ไถ่ถามคนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครเคยเห็นหรือเคยรู้จักชายคนนั้นเลย
ชาวฟูดินัน จึงมีประเพณี บูชาภูติเก็บเกี่ยว โดยจะช่วยเก็บเกี่ยวข้าวให้คนในหมู่บ้านที่ไม่มีคนงาน โดยเมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จ บ้านนั้นจะทำอาหารเลี้ยงผู้ที่มาช่วย และร้องเพลงรื่นเริงที่มีเนื้อหาเล่าถึงสาวชาวนาและภูติหนุ่ม

Undine เทพีสายน้ำแห่งทะเลสาปนีรันดา
ทะเลสาปนีรันดา เป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาวฟูดีนัน เชื่อกันว่าในทะเลสาปที่ใสบริสุทธิ์ เป็นที่สถิตย์ของเทพีแห่งสายชล
เมื่อคราวไฟไหม้ป่าฟูดินัน เทพีอันดีน ได้ทำให้น้ำไหลเอ่อล้นขึ้น และยังควบคุมให้กระแสน้ำไหลขึ้นทางเหนือเพื่อช่วยดับไฟด้วย

Megalasta ปลาวาฬกินเมฆ
เมกาลัสทา คือบริวารของเทพีเรนาผู้ควบคุมสายฝน ปลาวาฬยักษ์จะบินไปมาบนฟ้า ร้องคำรามเป็นเสียงครืนครัน เมื่อนั้นเมฆจะกลายเป็นฝน ขนาดของเมกาลัสทาไม่แน่นอน ถ้าตัวใหญ่จะเปลี่ยนเมฆได้ก้อนใหญ่ ถ้าตัวเล็ก จะเปลี่ยนได้แค่เมฆก้อนเล็ก
ชาวฟูดินัน มีพิธีบวงสรวงบูชาข้าวปลาอาหาร เพื่อให้เมกาลัสทาตัวโต จะได้มีฝนมาก
*ท่านจะได้เห็นการ์ดเมกาลัสทาใน Episode9 Ekklesia

ความจริงยังมีเทพธรรมชาติอีกมากในฟูดินัน แต่ตอนนี้เอาเท่าที่เราเคยเห็นในการ์ดหรือกำลังจะได้เห็นกันก่อนครับ

[เซนต์ แมกนัส]

สวัสดีครับเจอกันครั้งแรกนะครับสำหรับคอลัมม์การ์ดนี้มีตำนาน เคยสงสัยบ้างไม๊ครับ ว่าการ์ดแต่ละใบนั้นใครเป็นใครมีความเป็นมาอย่างไร ในภาคนิยายเราจะเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆเป็นหลัก ดังนั้นในส่วนของตัวละครบางตัวเราอาจไม่ได้กล่าวถึงมากนัก คอลัมภ์นี้ จึงได้นำข้อมูลจากทาง Phenomenon Party เจาะลึกรายละเอียดการ์ดบางใบให้ได้ทราบกัน

บุคคลสามคนซึ่งมีนามว่า Gregory, the Bishop of Felasia กับ Black Wiser และ Timothy, the Inventor of Felasiaทราบหรือไม่ว่าทั้งสามคนเคยรู้จักกันมาแต่เด็ก ทั้งสามเป็นชาวฟิเลเซีย ที่อาณาจักรฟิเลเซียมีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ซึ่งทั้ง 3 คนนี้ มีผลการเรียนที่อยู่ในระดับสูงซึ่ง Gregory เป็นเด็ก เรียนเก่งมาตั้งแต่เด็ก Gregory เป็นเด็กที่มีผลการเรียนอยู่ในระดับสูงมากในทุกวิชาและสูงที่สุดของทั้งสามคน ส่วนผลการเรียนของBlack Wiser มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า Gregory แต่ทว่า ไม่เคยมีผลการเรียนที่ดีไปกว่า Gregory เลยแม้ซักครั้งและ Timothy ก็เป็นนักเรียนอีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้ทั้งสองเลยเพียงแต่นิสัยส่วนตัวของ Timothy จะตั้งใจเรียนในวิชาที่ตนเองชอบเท่านั้น และได้คะแนนสูงสุดสูงในเฉพาะบางวิชาสูงกว่า Gregory เสียอีก

Timothy ชอบที่จะค้นคว้าทดลองประดิษฐ์และจะทุ่มเทให้กับสิ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมาก ชนิดลืมเป็นลืมตาย เขาเคยขึ้นไปบนภูเขาวาลฮาลเพื่อเก็บเปลือกไข่ ของกริฟฟินสีน้ำเงินที่ดุร้าย หลังจากที่โดนมันจิกจนบาดเจ็บหนักต้องนอนรักษาตัวถึง2สัปดาห์ เขาก็ยังกลับไปใหม่เพื่อเก็บตัวอย่างขนสีน้ำเงินของมันโดยไม่ใส่ใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งโดนทำร้ายมา คนทั่วไปจึงมองว่าเขาออกจะเพี้ยนๆ Timothy ชอบที่จะถามปัญหาประหลาดๆกับ Gregory จน Gregory คิดว่าเค้าถามกวนประสาท แต่ที่จริงเพราะ Timothy ชอบเพื่อนคนนี้ และชอบที่จะได้ยินคำตอบที่ดูทรงภูมิรู้ของ Gregory มากกว่า

Gregory เป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน สมบูรณ์แบบทั้งความประพฤติ กริยามารยาท และวิชาความรู้ เป็นคนยิ้มง่าย และเป็นที่รักของคนอื่น เค้าจึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนในพิธีการต่างๆของโรงเรียนเสมอ เมื่อว่างจากการอ่านหนังสือในหอสมุด เค้าจะเข้าไปภาวนาสนทนากับพระเจ้าในโบสถ์

Black Wiser สมัยเด็กมีชื่อว่า Kerwin เขาพยายามเสมอที่จะเป็นหนึ่งเหนือ Gregory แต่ด้วยความที่เรียนอย่างคร่ำเคร่งมากเกินไป เขาจึงเป็นคนที่เคร่งเครียดตลอดเวลา พ่อแม่ซึ่งเป็นขุนนางระดับสูงของเขากดดันให้เขาเรียนเก่งที่สุด เพื่อจะได้เป็นหน้าเป็นตาของตระกูล และมักเปรียบเทียบเขากับ Gregory เสมอ Kerwin จึงคิดว่า Gregory คือตัวมารที่เกิดมาเพื่อทำลายความสุขในชีวิตเขา

เมื่อทั้ง3เรียนถึงระดับ7 ก็ถึงเวลาที่จะเรียนวิชาพื้นฐานที่จะ แยกสายที่ผู้เรียนจะสามารถเลือกสายที่ตัวเองต้องการได้ Timothy ได้เลือกสายนักเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งหลังจากเรียนครบ3ปี จะสามารถเลือกเรียนเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักคำนวน นักประดิษฐ์ ฯลฯ ด้วยการไปสมัครเป็นศิษย์ของอาจารย์ในสายอาชีพที่ต้องการต่อไป ที่นี่ Timothy ได้พบเด็กชาว Annedisonge คนหนึ่งซึ่งมาเรียนรู้วิทยาการทางการรบ แต่ท่าทางเค้าไม่ค่อยเป็นมิตรกับ Timothy นัก
Gregory และ Kerwin เลือกเรียนในสายวิชา เวทยาการ ซึ่งเรียนทั้งในเรื่องตามธรรมชาติไปจนถึงในสิ่งเหนือธรรมชาติ เมื่อครบ2ปี จะสามารถเลือกแยกสายศาสนา ปรัชญา หรือเวทย์มนต์ได้ ทั้งสองยังคงแข่งขันด้านการเรียนกันเสมอมา จนเข้าปีที่2 Gregory ผู้ไฝ่ฝันที่จะบวชเป็น ผู้รับใช้พระเจ้า เลือกเรียนสายศาสนา และเข้าศึกษากับโบสถ์แห่งฟีเลเซีย ซึ่งต่อมา Gregory ได้เข้าบวชเป็นพระสงฆ์ และได้ตำแหน่งระดับสังฆราช หรือ Bishop อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากนั้นได้ทำงานช่วยเหลือราชวงค์ Felasia ส่วน Kerwin ซึ่งเรียนมาด้วยกันแต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเรียนได้ดีเกิน Gregory ซึ่งเป็นสิ่งที่ Kerwin เก็บมาคิดโดยตลอด จึงหันเข้าสู่เส้นทางแห่งความมืด ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่มี Gregory เขาเลือกเรียนสายเวทย์มนต์ และแยกออกไปเรียนด้านมนต์ดำ ซึ่งเป็นเส้นที่ตนเองคิดว่าทางนี้แหละจะทำไห้ตัวเองเก่งกว่า Gregory เมื่อเขาทำพิธีเรียก Familiar (สัตว์หรือภูติรับใช้ของนักเวทย์) ความเกลียดชังและความทะเยอทะยานของเขา ได้เรียกนกปีศาจจากนรก คือ Hellish Bird และอยู่กับเค้าเสมอมา จากนั้น Kerwin จึงออกเดินทางไปเพื่อหาบรรดานักเวทย์นอกรีต และพ่อมดหมอผีที่ชั่วร้าย ทางด้านนี้ Kerwin ได้ศึกษาจนกระทั่งตนเองได้รับยกย่องจากบรรดาผู้ที่อยู่ในเส้นทางเดียวกันว่าเป็น Black Wiser ผู้ที่ปราดเปรื่องในด้านนี้ในเวลาต่อมา

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม Timothy ถึงธาตุไฟทั้งที่อยู่ฟีเลเซีย ก็เพราะเขาเป็นนักประดิษฐ์ที่ชอบทดลอง สร้างโน่นสร้างนี่ เกิดระเบิดโครมครามตลอดเวลา ประกอบกับนิสัยที่ออกบ้าบิ่น ธาตุต่างๆไม่ได้ขึ้นกับประเทศเสมอไป ทั้งสามเป็นชาวฟีเลเซีย แต่ไม่มีใครธาตุลมเลย

ฉบับหน้าพบกับ การผจญภัยของ Timothy การค้นพบ Delta-D ซึ่งเป็นหุ่นจากวัฒนธรรมตกค้าง และหุ่นประป๋อง Tinton นะครับ ฉบับนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

[เซนต์ แมกนัส]

โรงเรียนที่เกรกอรี่และทิโมทีเรียนในฟีเลเซียชื่อ ซาโลมอนอคาเดมี่

ตั้งก่อนการเกิดสงคราม121ปี เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุด และสอนแต่เหล่าลูกคนชั้นสูง ขุนนาง และผู้รับราชการเท่านั้น สอนวิชาเกี่ยวกับการปกครอง ศาสนา ศิลปะการใช้ดาบ และวิทยาศาสตร์

ต่อมาหลังสงคราม เมื่อฮารีซันและเรจิน่าแต่งงานกัน พื้นที่ราบบริเวณชายแดนของฟีเลเซียและฟูดินันคือแคว้นวาเนียน ซึ่งแท้จริงมีเต่าอยู่ที่ฐานเมื่อบินขึ้นย้ายไปตั้งเป็นเกาะในทะเล เนื่องจากสงคราม ก็เป็นที่ว่างเปล่า ที่นั่นกลายเป็นที่ตั้งเมืองใหม่ชื่อ มิราบิลิส(Mirabilis) โดยมีเจ้าชายเอลียาห์ บุตรชายคนแรกของฮารีซันกับเรจีน่า เป็นผู้ปกครองคนแรก
เมืองนี้เป็นเมืองบริวารของฟีเลเซียต่อมาจึงแยกตัวเป็นเอกราชในอีก139ปีต่อมา

มิราบิลิส มีบรรดาลูกครึ่งฟีเลเซีย และฟูดินันมากมาย โดยจะมีลักษณะเฉพาะ2แบบ คือ
1. ผมสีน้ำตาล ตาสีเขียว
2. ผมมีสองสีปนกันในศรีษะคือทองและน้ำตาล ตาสีดำ
เมืองนี้มีลักษณะพิเศษคือได้รับความเจริญจากฟีเลเซียและแอนดิซอง และอุปนิสัยสนุกสนานเรียบง่ายแบบฟูดินัน ในทางกลับกัน มีความใจดีมีน้ำใจน้อยกว่าฟูดินัน และมีความมุ่งมั่นจริงจังน้อยกว่าชาวฟีเลเซีย

เมื่อดินแดนนี้ได้รับเอกราชครบ75ปี ได้มีการตั้งโรงเรียนขึ้นโดยนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่ เซคาริยาห์ มาวิน ต้องการตั้งโรงเรียนสำหรับทุกคน ทุกชนชั้นและทุกอาชีพ และทุกชนชาติ

เซนต์ อไควนัส อคาเดมี จึงก่อตั้งขึ้นด้วย3คณะหลักในครั้งแรก ประกอบด้วย
1.เวทยาการ
2.ศิลปะการต่อสู้
3.วิทยาศาสตร์
ทุกสาขาวิชาต้องเรียนศาสนา และจริยธรรม ก่อนจะแยกย่อยออกไปโดยมีอีก7สาขาแยกย่อย และอีก15วิชาเอกและอีกหลายร้อยClass จนกล่าวได้ว่าเป็นโรงเรียนที่สอนอาชีพได้ครอบคลุมที่สุดในโลกภายในเวลา53ปีต่อมา

มาธิอัสไบล์ธ นักมังกรศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงเกิด เมื่อโรงเรียนนี้อายุได้12ปี และต่อมาเมื่อเขาอายุ39ปีได้เป็นอาจารย์สาขามังกรศาสตร์ โดยเป็นหัวหน้าภาควิชาที่ซาโลมอนอาคาเดมี่ และรับเชิญสอนที่ เซนต์อไควนัว อาคาเดมี่ เมื่ออายุ45ปีด้วย

หลังจากมาธิอัสเสียชีวิตได้5ปี ลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายของเขา รีเบคก้า ได้เป็นนักมังกรศาสตร์หญิงที่มีชื่อเสียง จากเซนต์อไควนัสอาคาเดมี่ สามารถเลี้ยงลูกมังกรแสงจนเติบโต(นอกจากในธรรมชาติ และในวิหารเซนต์ลอเรนซ์ ไม่มีใครเลี้ยงลูกมังกรขาวสำเร็จ) และมังกรของเธอเป็นมังกรในตำนานที่มีเพียงตัวเดียวในโลกที่ถูกเลี้ยงดูโดยมนุษย์
และเธอได้ เขียนอธิบายทฤษฎีของมาธิอัสให้ละเอียดยิ่งขึ้น แต่เธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะผสมมังกร6ธาตุ เพราะเธอยกย่องมาธิอัสมาก และไม่คิดว่ามีใครสมควรที่จะทำการทดลองนี้นอกจากตัวของเขาเอง

[เซนต์ แมกนัส]

Woojinแม้จะมีทรัพสมบัติทั้งโลกมาอยู่ในมือเจ้าแต่เมื่อวันตายเจ้าหยิบอะไรได้บ้าง
แม้แต่ร่างเจ้ายังกับกลายเป็นธุลีดินจะมีประโยชน์อะไรหากทั้งโลกอยู่ในมือเจ้าแต่เจ้ากลับต้องเสียวิญญาณไป
Gregoryสิ่งที่ขั้นระหว่างสวรรค์และแผ่นดินคือลมหากฟิเลเซียคือลมฟิเลเซียก็เปรียบดั่งที่รองพระบาทแห่งพระเจ้า
ฺBlazesageเมื่อไฟไห้พลังไห้ประโยชน์ใดใดแก่ท่านมันย่อมต้องเผาผลาญบางสิ่งเพื่อเป็น
เชื้อเพลิงดังนั้นการที่แผ่นดินประเทศผู้คนถูกเผาผลาญเพื่อสร้างยุคใหม่อัน
ยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรืองแห่งซาโลมมันเป็นเรื่องธรรมดา
Charlesหากฟิเลเซียต้องการป้องกันข้าจะคอยเป็นโล่ห์ที่ปกปักรักษา
หากฟิเลเซียต้องการสู้ข้าจะเป็นดาบที่ประหัตศัตรู
Yggdrasill
.....ลูกเอ๋ยจงหลับอย่างสบายในอ้อมแขนแม่อ้อมแขนแม่คือคีรีบันดาที่โอบกอดเจ้าลูกแม่จงหลับอย่างอบอุ่นในอ้อมอกแม่อ้อมอกแม่คือพุ่มไม้สีเงินอ่อนนุ่มของอิกดราซิลลูกรักจงวางใจหลับสบายอย่างกลัวอะไรเพราะแม่อยู่เคียงเจ้าปกป้องเจ้าดั่งดวงใจ.....(ตอนหนึ่งของเพลงกล่อมเด็กของชาวฟูดินัน)
Vioriaภายใต้หน้ากากอันเยือกเย็นของท่านมีเพียงแววตาที่เย็นชาของท่านเท่านั้นที่ข้ามองเห็นแต่ความเย็นชานี้มันช่างสร้างความรุ่มร้อนให้ใจข้าอย่างประหลาด....อองเดร ออเนอร์เร่ ให้ความเร่าร้อนของข้าช่วยละลายความหนาวเย็นของท่านเถิด
์Nazaeหากซซาดินเป็นถึงจักรพรรดิ์บุตรของเขาจะใหญ่ยิ่งกว่าซาดินคือมหาเพลิงที่หน้ากลัวแต่บุตรของเขา........คือ ดวงอาทิตย์



ซาดิน อิบริด ชีวิตของข้าเองก็เหมือนไฟ วันนี้สว่างไสว แต่ไม่รู้วันใดจะดับมอด......หากข้าจะหาความสุขให้มากที่สุดตราบที่มีชีวิต มันก็เป็นเรื่องสมควรแล้วมิใช่หรือ

เนริมอร์ อิบริด ในใจข้าไม่เคยสงบ เหมือนมีเชื้อไฟที่รอคอยการคุกรุ่นอยู่ เมื่อใดมีสิ่งสะกิดเร้าให้มันโหมลุกแรงขึ้น มันจะเผาผลาญทุกสิ่งเป็นเปลวเพลิง ที่แม้ตัวข้าเองก็มิอาจดับได้

ฮารีซัน บันดาร่า ที่เรานิ่งเฉยไม่ใช่เพราะเราโง่งม ที่เราอดกลั้นไม่ใช่เพราะเราขลาดกลัว แต่การที่เราอดทนและปกป้องนั้นต่างหาก คือการเข้มแข็งที่ประเสริฐสุด

วานาอัน บันดาร่า เมื่อสัมผัสผืนดิน ท่านจะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบอุ้มท่านเมื่อกลิ่นหอมของดอกไม้โชยมาท่านจะรู้สึกได้ถึงความปรารถนาดีที่ธรรมชาติมอบแด่ท่าน

ซิกมันด์ ที่ สาม สายลมพัดเหนือผืนดิน เหนือผืนน้ำ เหนือเปลวไฟ ลมยิ่งสูงยิ่งพัดกล้า ศักดิ์ศรีของฟีเลเซีย คือศักดิ์ศรีแห่งสายลม

เรจิน่า อริธ่า สายลมไร้รูปร่าง อิสระ มิอาจกักขัง หากเราไร้อิสระ เราก็ไม่ใช่สายลมหากแต่เป็นเพียงนกที่อยู่ในกรงเท่านั้น

อองเดร โอโนเร่ น้ำเป็นน้ำแข็งด้วยความเยือกเย็น เมื่อความเยือกเย็นทำให้น้ำที่อ่อนเหลวแข็งแกร่งขึ้น มันก็ทำให้คนแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน

อลาน่า มารี ชาริเต้ ธรรมชาติของสายน้ำ ไหลลงจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ แผ่ขยายกว่างใหญ่ และให้ชีวิต แอนดิซองก็ควรเป็นเช้นนั้น

[เซนต์ แมกนัส]

ในชุด Ekklesia คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักลูเซียน่า เงือกน้อยน่ารักผูโดดเด่น ตลอดจน
เงือกอื่นๆ ที่มีชื่อคล้ายๆ กันอีก 2 คนคือ ลินดา และลอร่าพวกเธอเกี่ยวข้องกันอย่างไร และ
ที่สำคัญ ตัวละครที่มีชื่อเช่นนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเป้นแน่

เหล่าชาวเงือกในเมอริเซีย ยึดครองมหาสมุทรกว้างใหญ่เป็นถิ่นอาศัย เรียกได้ว่ามิได้มี
ความจำเป็นต้องเดือดร้อนรำคาญกับปัญหาวุ่นวายบนผืนดินแต่อย่างใด เหล่าเงือกมีอายุ
ยืนยาวและครองเวลาหนุ่มสาวได้ยาวนานกว่ามนุษย์ อาณาจักรใต้ทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล
เชื่อมต่อยาวไปทั่วโลก เรียกว่า เลอมูเรีย แบ่งเป็นชุมชนน้อยใหญ่ กระจายทั่วพื้นสมุทร

ชาวเงือกนั้นมีอุปนิสัยเงียบขรึมและลึกลับต่อมนุษย์ เพราะความไม่ไว้ใจ และรังเกียจ
ในอุปนิสัยบางอย่างของคนบนผืนโลก หากแต่ว่าในหมู่พวกเดียวกันก็เป็นปรกติ มีรักโลภ
โกรธหลงสุขเศร้า หากแต่กิเลสตัณหานั้นเบาบางกว่า ดังนั้นสาวชาวเงือกที่รู้ดีว่าเหล่ามนุษย์
มีความหลงความโลภสูงกว่าพวกตน ก็จึงมักอาศัยความงดงามยั่วยวนกลั่นแกล้ง

และด้วยความที่ชาวเงือกมีอารมณ์ปรารถนาต่างๆ น้อยกว่ามนุษย์ อันส่งผลต่อการจับคู่
และมีความรัก ดังนั้นเหล่าเงือกจึงมีลักษณะพิเศษ คือมีความงดงามเปลี่ยนแปลงตามความ
เก่งกาจสามารถ โดยเฉพาะเงือกหญิงสาวที่ฝึกฝนเวทย์มนต์จนถึงขั้นสูง จะยิ่งมีความงดงาม
ทีสร้างความหลงไหล และลุ่มหลงได้มากขึ้นตามพลัง เพื่อให้ผู้มีความสามารถสูงจะได้สืบดำรง
เผ่าพันธุ์ต่อไป

ดังที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าเหล่าเงือกไม่นิยมสุงสิงกับมนุษย์ หากแต่ว่าเหล่าเงือกหนุ่มสาว
ไม่น้อย ที่มี่ความเห็นต่างออกไป โดยคิดที่จะมอง
หาสิ่งที่แปลกและดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าเงือกที่มีความสามารถ
และรูปงาม ก็จะได้รับความหลงไหลและชื่นชมจากมนุษย์มากเสียจนนึก
รู้สึกและภูมิใจกับสถานะเหล่านั้น เหล่าเงือกหนุ่มสาวไม่น้อยจึงเลือกเข้า
สู่สังคมมนุษย์ในสถานภาพพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะทัพเงือกอันเกรียงไกร
แห่งแอนดิซอง ที่เป็นที่ครั่นครามของเหล่าโจรสลัด และเป้นที่กล่าวขวัญ
ในความสง่างาม

จึงเกิดปรากฎการณ์ในสังคมเงือกที่มีอายุและหนุ่มสาว โดยเงือก
แก่หัวโบราณจะต่อต้านการเข้าเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ในขณะที่เงือกหนุ่มสาว
ที่เก่งกาจหลายคนสนับสนุนการเปิดใจสู่ผู้ต่างเผ่าพันธุ์มากขึ้น

ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ก็มีผลต่อเงือกสาวสามพี่น้อง และเงือกอื่นๆ ด้วย

มารีน่า
เธอปรากฎตัวตั้งแต่ภาคที่แล้ว(Secondary) เธฮโผล่ขึ้นมาจากผิว
น้ำแกล้งคร่ำครวญจนลูกเรือของฮาริซันที่กำลังเดินทาง
ไปแอนดิซองเคลิบเคลิ้มเสียสติ หากแต่ฮาริซันเจรจาใน
ความต้องการของเธอ จึงได้รู้ว่าได้ทอดสมอขวางทางเข้า
ถ้ำของเธอ และเมื่อได้พูดคุยไถ่ถามสาเหตุของการเดินทาง
เธอเองนึกชอบในน้ำใจและความซื่อตรงของเจ้าชาย เธอ
จึงได้แนะนำเส้นทางที่จะหลีกเลี่ยงภัยอันตรายให้

ลูเซีย
เงือกสาวน้อยที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ใช้มนต์เงือกอัฉริยะในรอบหลายร้อยปี ผมสีเงิน และดวงตาสีน้ำทะเลที่งดงามน่าหลงใหล เป็นที่หมายปองของเหล่าเงือกหนุ่ม แต่กับมนุษย์ ความงามของเธอจะกำหัวใจของชายหนุ่มทันทีที่แรกพบ หากแต่เธอรังเกียจสายตาหื่นกระหายของมนุษย์ผู้ชายเสียจริงๆ จึงไม่ชอบปรากฎตัวให้ใครเห็นมากนัก เธอเป็นหนึ่งในทัพเงือกเป็นหน่วยยอดฝีมือพิเศษที่จะถูกเรียกมาในบางภาระกิจเท่านั้น และต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของเธอด้วย

ลินดา
ลินดาเป็นพี่คนโตซึ่งเกลียดและดูถูกมนุษย์ เธอชอบที่จะใช้การยั่วยวนให้ใครต่อใครตายในอ้อมกอดเธอ และมักจะขัดแย้งกับน้องสาวคนเล็กในเรื่องที่ไปร่วมงานกับมนุษย์เสมอ เธอมีพลังเวทย์แก่กล้า โดยเฉพาะการใช้เวทย์ยั่วยวน งานอดิเรกของเธอคือ การกอดชาวประมงหนุ่มๆ และว่ายลงก้นทะเลลึก

ลอร่า เดอะ เมอร์เมจ
พี่สาวคนกลางของเจ๊ลูเซีย เป็นเงือกสาวขี้อาย และเนื่องจากเก่งน้อยกว่าพี่น้อง เธอจึงมักขาดความมั่นใจในตนเอง เมื่อเธอถูกมองด้วยสายตาหลงไหลของหนุ่มหล่อน่าตาดี เธอจะมีท่าทางเขินอายออกมาทันที แม้เธอจจะไม่งดงามเท่าน้องสาวที่เก่งกาจกว่า แต่ท่าทางเขินอายของเธอกลับทำให้เหล่าบุรุษไม่น้อยยิ่งหลงไหล เธอเองนั้นยังกล้าๆกลัวๆ ในเรื่องการเข้าสู่สังคมมนุษย์ และมักไม่กล้าตัดสินใจอะไรอะไรจนกว่าจะได้ความเห็นจากพี่น้องของเธอ

[เซนต์ แมกนัส]

ศาสตร์แห่งพันธุกรรมมังกรอันมหัศจรรย์!! Dragonology
Mathias Blythe (มาธิอัส ไบลธ์) เด็กเลี้ยงมังกรชาว Felasia ที่ชื่นชอบในสัตว์เทพอย่างมังกรเป็นอย่างมากมาตั้งแต่เล็กๆ จากความชื่นชมก็กลายเป็นความรักและหลงใหล Mathias ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับมังกรอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการศึกษามังกรที่ตนเลี้ยงไว้ Mathias เริ่มสังเกตุเห็นว่ามังกรที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์นั้นมีรูปร่างหน้าตาเหมือนๆกันไปหมด แต่ในขณะที่มังกรในธรรมชาติบางตัวกลับมีรูปร่างแปลกประหลาดและแตกต่างกันอย่างโดดเด่นมาก หลังจากใช้เวลาหลายปีจนเกิดแน่ใจในทฤษฎีที่สร้างความตื่นตัวให้กับวงการมังกรศาสตร์ คือ “มังกร เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ และสภาพแวดล้อม ตลอดจนอาหารการกิน มีผลต่อการเจริญเติบโตและแตกต่างของมังกร” Mathias จึงได้เริ่มทดลองเลี้ยงลูกมังกรด้วยอาหารการกิน และสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ในที่สุด Mathias จึงได้ค้นพบว่ามังกรที่ถูกเลี้ยงดูในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกันและมีสิ่งเร้าอื่นๆมาช่วยกระตุ้นในขณะเจริญเติบโตก็จะทำให้มังกรมีพัฒนาการที่แตกต่างกันออกไป โดยได้ทดลองจนเกิดมังกรสายพันธุ์ใหม่ ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกมามากมาย จากนั้นไม่นาน Mathias ก็ยังคงมุ่งหน้าศึกษาค้นคว้าเรื่องของมังกรต่อไปจนกลายเป็นศาตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมังกรศาสตร์ และผลงานชิ้นเอกที่ได้ชื่อเสียงให้กับเขาเป็นอย่างมากจนถูกขนานนามว่า บิดาแห่งมังกรศาสตร์ ก็คือการผสมมังกรข้ามสายพันธุ์กับกริฟฟินขึ้นมาใหม่ถึง 6 ตัว และเขาได้เรียกสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า Dragogriff


Dragogriff
ผลงานที่สร้างชื่อให้กับ Mathias Blythe จนโด่งดังไปทั่วทวีปเมอรีเซียในฐานะบิดาแห่งมังกรศาสตร์ คือการทดลองผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างมังกรกับ griffin จนเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาเรียกว่า Dragogriff ทั้ง 6 ธาตุได้สำเร็จ คือ Baranithil แห่งดิน Mansereg แห่งไฟ Orofacion แห่งน้ำ Lostros แห่งลม Donfalma แห่งมืด และ Imsan แห่งแสง
หลังจากผสม Dragogriff ทั้ง 6 เขาได้เขียน ทฤษฎี ที่สร้างความตกตะลึงให้กับชาวเมอรีเซียอีกครั้ง คือทฤษฎีว่าด้วยการผสมมังกร 6 ธาตุ โดยใช้มังกรธาตุแสงเป็นพื้นฐาน สร้างมังกรยักษ์ชื่อ Amankris ขึ้น แต่ทว่าไม่อาจทำได้สำเร็จ เพราะเขาได้จากไปเสียก่อนด้วยวัย 83 ปีทิ้งทฤษฎีอันมหัศจรรย์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ค้นหาคำตอบ…

[เซนต์ แมกนัส]

5หลักสวรรค์

โดมินิกา แปลว่าอำนาจหรือความเป็นเจ้า จึงมีพ่วงหลังลูกน้ำว่าพลังอำนาจแห่งสวรรค์
ท่าไม้ตายแปลว่าสวรรค์ไม่อาจถูกล่วงละเมิดได้

ส่วนเจนนิเฟอร์ แปลว่าจิตวิญญาณสีขาว จึงพ่วงหลังลูกน้ำว่าความบริสุทธิ์แห่งสวรรค์
ชื่อไม้ตายเป็นภาษาละติน วอซ สเต ลารุม แปลว่า เพลงแห่งจักรวาล หรือ เสียงแห่งดวงดาว

ส่วนเลาดามุส แปลว่า สรรเสริญเทิดเกียรติพระเจ้า พ่วงหลังว่า ความศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์
ชื่อไม้ตายเป็นภาษาละติน et nunc et semper (แอต นุง แอตแซมแปร์) แปลว่า ทั้งบัดนี้และเสมอไป และ Vive ut vivas (วีเว อุ๊ต วีวัส) แปลว่าจงดำเนินชีวิตเพื่อให้มีชีวิตอย่างดี(มีศีลธรรม)

ส่วนธาตุไฟชื่อเป็นภาษาละตินว่า เวอทูเทม=คุณธรรม พ่วงหลังว่า คุณธรรมแห่งสวรรค์
ชื่อไม้ตายเป็นภาษาละติน Domat omnia virtus(โดมัต ออมนีอา วีร์ทุ๊ส) แปลว่า คุณธรรมพิชิตทุกอย่าง

ส่วนธาตุดินชื่อเป็นภาษาละตินว่า เรกุรัม=กฎ พ่วงหลังว่า ความเป็นกฎระเบียบแห่งสวรรค์
ชื่อไม้ตายเป็นภาษาละติน Fiat voluntas tua (ฟีอั๊ต โวลันตั๊ส ตูอา) แปลว่า ขอให้พระประสงค์ของพระองค์(พระเจ้า)จงสำเร็จเป็นจริงเถิด

[เซนต์ แมกนัส]

แวเลี่ยนแวสเล่ย์ เป็น1ในนักเรียนของซาโลมอนอาคาเดมี่ เป็นอีก1ในบุคคลสำคัญของฟีเลเซีย และได้ชื่อว่าเป็นนักเวทย์ผู้น่าอัศจรรย์

แวเลี่ยนอายุ85ปีเมื่อตอนเกิดสงคราม เขาเก็บตัวเงียบไม่เกี่ยวข้อง แต่บันทึกเหตุการณ์ต่างๆของสงครามไว้ คือช่วงEp8-Ep11 โดยเน้นละเอียดในส่วนของฟีเลเซีย และฟูดินัน เพราะเขาเองไปเก็บตัวอาศัยอยู่ในป่าฟูดินัน
เขาเป็นนักเวทย์อัฉริยะที่แหกกฎทุกอย่าง จนทางซาโลมอนอาคาเดมี่ สั่งเก็บประวัติเขาเข้าชั้นพิเศษห้องสมุดกลาง โดยให้ผู้ใหญ่ หรือผู้มีการศึกษาสูงเท่านั้นที่ยืมได้ แต่งานเขียนหลายๆอย่างของเขายังคงใช้สอนทั้งในโซโลมอนอาคาเดมี่ และ เซนต์อไควนัส อาคาเดมี่ แต่เซนต์ อไควนัส อาคาเดมี่ กำหนดหลักสูตร ให้ชีวประวัติของเขาเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของนักเรียนทุกคณะในชั้นปีที่3
แวเลี่ยน ได้ทำนายการเกิดของประเทศมิราบิลิสไว้ ในหนังสือ"หลักการพยากรณ์สำหรับผู้อ่านหนังสือไม่ออก" เล่มที่1โดยเขาไม่มีเล่มที่2 แล้วข้ามไปแต่งเล่มที่3 โดยไม่มีใครรู้เหตุผลว่าทำไม

แวเลี่ยนถูกนักประวัติศาสตร์หลายๆคนวิเคราะห็ว่าเป็นคนบ้า ขวางโลก และชอบทำตัวแปลก แต่คนที่ชื่นชมเขา เรียกเขาว่าวีรบุรุษ แห่งวิถีชีวิตเสรี และชีวิตอันไร้กรอบ

แวเลี่ยนมีชื่อเสียงที่สุดในกรณีที่สามารถจับ ดาร์คเดสทินี่ของตัวเองได้ และนำมาเลี้ยงเป็นคู่หู ซึ่งผู้ที่เป็นนักเวทย์สมบูรณ์นั้นจะมีสัตว์คู่หู เช่นแบล็คไวเซอร์มีเฮลลิสเบริ์ด และนักเวทย์คนใดที่มีสัตว์คู่หูที่เป็นตัวเดียวในโลก จะได้รับการยกย่องมาก แต่สำหรับแวเลี่ยน แมวดารค์เดสทินี่นั้นมีมากมาย แต่มนุษย์ที่เห็นและจับมันได้มีเขาคนเดียวในโลก
ดาร์ดเดสทินี่ของเขาชื่อ ทารอตโต้ ซึ่งเจ้าแมวจากโลกแห่งเงานี้เป็นบริวารของคณะเทพีเนเมซิส ซึ่งแจกจ่ายชะตากรรมให้มนุษย์ ซึ่งเข้าออกผ่านเงา จนมีคำกล่าวว่า "โชคชะตาติดตามเราดังเงาตามตัว" และที่สำคัญไม่เคยมีใครมองเห็นมันได้เพราะความว่องไวรวดเร็ว และทุกวันนี้ยังเป็นความลับอยู่ว่าเขาเห็นและจับมันได้อย่างไร ตั้งแต่วันที่เขาได้ทารอตโตเป็นคู่หู เขาก็เป็นมนุษย์ผู้ที่กำหนดชะตากรรมของตนเองทั้งหมด

เรื่องราวของแวเลี่ยน ถูกบันทึกไว้มากมายหลายแห่งเพราะวีรกรรมประหลาดของเขา แต่เราได้รู้ความคิดและนิสัยจริงๆของเขาจากจดหมาย จำนวน29ฉบับที่เขาเขียนตอบกับ จูดิธ มาเกอรี่ เพื่อนนักเรียนร่วมชั้น และเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวที่เขาคบหายาวนานตลอดชีวิต



โรงเรียนที่เกรกอรี่และทิโมทีเรียนในฟีเลเซียชื่อ ซาโลมอนอคาเดมี่

ตั้งก่อนการเกิดสงคราม121ปี เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุด และสอนแต่เหล่าลูกคนชั้นสูง ขุนนาง และผู้รับราชการเท่านั้น สอนวิชาเกี่ยวกับการปกครอง ศาสนา ศิลปะการใช้ดาบ และวิทยาศาสตร์

ต่อมาหลังสงคราม เมื่อฮารีซันและเรจิน่าแต่งงานกัน พื้นที่ราบบริเวณชายแดนของฟีเลเซียและฟูดินันคือแคว้นวาเนียน ซึ่งแท้จริงมีเต่าอยู่ที่ฐานเมื่อบินขึ้นย้ายไปตั้งเป็นเกาะในทะเล เนื่องจากสงคราม ก็เป็นที่ว่างเปล่า ที่นั่นกลายเป็นที่ตั้งเมืองใหม่ชื่อ มิราบิลิส(Mirabilis) โดยมีเจ้าชายเอลียาห์ บุตรชายคนแรกของฮารีซันกับเรจีน่า เป็นผู้ปกครองคนแรก
เมืองนี้เป็นเมืองบริวารของฟีเลเซียต่อมาจึงแยกตัวเป็นเอกราชในอีก139ปีต่อมา

มิราบิลิส มีบรรดาลูกครึ่งฟีเลเซีย และฟูดินันมากมาย โดยจะมีลักษณะเฉพาะ2แบบ คือ
1. ผมสีน้ำตาล ตาสีเขียว
2. ผมมีสองสีปนกันในศรีษะคือทองและน้ำตาล ตาสีดำ
เมืองนี้มีลักษณะพิเศษคือได้รับความเจริญจากฟีเลเซียและแอนดิซอง และอุปนิสัยสนุกสนานเรียบง่ายแบบฟูดินัน ในทางกลับกัน มีความใจดีมีน้ำใจน้อยกว่าฟูดินัน และมีความมุ่งมั่นจริงจังน้อยกว่าชาวฟีเลเซีย

เมื่อดินแดนนี้ได้รับเอกราชครบ75ปี ได้มีการตั้งโรงเรียนขึ้นโดยนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่ รามอน มาวิน ต้องการตั้งโรงเรียนสำหรับทุกคน ทุกชนชั้นและทุกอาชีพ และทุกชนชาติ

เซนต์ อไควนัส อคาเดมี จึงก่อตั้งขึ้นด้วย3คณะหลักในครั้งแรก ประกอบด้วย
1.เวทยาการ
2.ศิลปะการต่อสู้
3.วิทยาศาสตร์
ทุกสาขาวิชาต้องเรียนศาสนา และจริยธรรม ก่อนจะแยกย่อยออกไปโดยมีอีก7สาขาแยกย่อย และอีก15วิชาเอก

มาธิอัสไบล์ธ นักมังกรศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงเกิด เมื่อโรงเรียนนี้อายุได้12ปี และต่อมาเมื่อเขาอายุ39ปีได้เป็นอาจารย์สาขามังกรศาสตร์ โดยเป็นหัวหน้าภาควิชาที่ซาโลมอนอาคาเดมี่ และรับเชิญสอนที่ เซนต์อไควนัว อาคาเดมี่ เมื่ออายุ45ปีด้วย

หลังจากมาธิอัสเสียชีวิตได้5ปี ลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายของเขา รีเบคก้า แมกดาล่า ได้เป็นนักมังกรศาสตร์หญิงที่มีชื่อเสียง จากเซนต์อไควนัสอาคาเดมี่ สามารถเลี้ยงลูกมังกรแสงจนเติบโต(นอกจากในธรรมชาติ และในวิหารเซนต์ลอเรนซ์ ไม่มีใครเลี้ยงลูกมังกรขาวสำเร็จ) และมังกรของเธอเป็นมังกรในตำนานที่มีเพียงตัวเดียวในโลกที่ถูกเลี้ยงดูโดยมนุษย์
และเธอได้ เขียนอธิบายทฤษฎีของมาธิอัสให้ละเอียดยิ่งขึ้น แต่เธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะผสมมังกร6ธาตุ เพราะเธอยกย่องมาธิอัสมาก และไม่คิดว่ามีใครสมควรที่จะทำการทดลองนี้นอกจากตัวของเขาเอง

[เซนต์ แมกนัส]

Sire Ishan บุตรแห่งซาดินและเนอร์ริเมอร์ จะเป็นตัวละคนที่สำคัญมากในภาคหน้า อิสฮานเป็นเด็กที่จิตใจดีงาม มีความอ่อนโยนและไม่ชอบสงคราม เวลาที่เขาเกิดมานั่น ดวงอาทิตย์แห่งซาโลมไร้ซึ่งเมฆบัง เปล่งประกายเจิดจ้า เป็นสีทองสองครั้ง ในเวลายามเช้าและเย็น จากการทำนายของนาซาอี เทพพยากรณ์สาว ว่าเค้าจะเป็นดั่งดวงอาทิตย์ และคำยุยงของ บลาสเซจ ทำให้ซาดินตีความหมายว่าบุตรของเขาจะครองโลก และกลายเป็นอีกแรงผลักดันให้เขาสงครามกวาดล้างดินแดน เพื่อปูทางไปสู้ความรุ่งเรืองในอนาคต ของบุตรชาย
ในวัยเด็ก อิสฮานอยู่กับนอร์ริเมอร์ ซึ่งเวลา นอริเมอร์อยู่กับบุตรเธอเป็นดั่งไฟที่ให้แต่ความอบอุ่น อ่อนโยนและแสงสว่าง ในขณะที่ซาดินออกไปทำสงคราม มารดาจึงกลายเป็นสิ่งหยึดเหนี่ยวที่สำคัญที่สุดของเจ้าชายน้อย

ซาดินได้ให้ Naris Sulaiman คนเก่าแก่ของตระกูล มหาอำมาตย์ แห่งซาโลมเป็นผู้ปกครองเมืองแทนเวลาออกรบ ดังนั้นนาริสจึงทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล อิสฮาน ด้วย นาริส รัก อิสฮาน ดั่งลูกตัวเอง ในขณะเดียวกันก็เทิดทูลดั่งเจ้าชีวิต เค้าพยายามเลี้ยงดู อิสฮาน อย่างดีเพื่อไม่ให้เด็กน้อย เดินทางโหดร้ายดั่งพ่อเขา เมื่อณาจักร ซาโลม สามารถตีดินแดนลงล่างเรื่อยๆ นอร์ริเมอร์ต้องออกมาช่วยบัญชาการรบด้วย ซาดิน นั้นมิได้กลับไปหาบุตรมีเพียงแต่ นอร์ริเมอร์เท่านั้น ที่กลับไปดูแลอิสฮานในบางเวลา จากการที่อิสฮานต้องห่างเหินจากมารดาที่เขารัก ความรู้สึกต่อต้านสงคราม ได้ก่อเกิดขึ้นในจิตใจของเขาที่ละน้อย

Timothy,the inventor of felasia
1ใน3 อาชีพใหม่ของภาคSecondary Edition ที่มีชื่อว่าScientist ประดิษฐ์อัจฉริยะแห่งเฟลิเซีย เป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้มีความสามารถทางด้านเครื่องยนตร์กลไกเป็นเลิศ เนื่องจากเขามีความสนใจในเครื่องจักรต่างๆ ทำให้เขาสนใจวัฒนธรรมตกค้างจากอดีตและอารยธรรมต่างๆของทวีปเมอร์ริเซีย Delta-Dเป็นหุ่นตรวจการที่เขาซ่อมแซมจากซากอารยธรรมโบราณ เขาชอบประดิษฐ์สิ่งของแปลกๆใหม่ๆ เช่นเครื่องยิงหินระยะไกล เขามีความคิดที่ว่า พระเจ้าให้สองมือมนุษย์มาเพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่างๆเพื่อความเจริญของมนุษย์ชาติ หาใช่เพื่อพนมมือสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้าเพียงอย่างเดียว

Woojin,the Elder of Fudenun
ผู้เฒ่าแห่งฟูดินันที่ดูภายนอกอาจจะดูเงียบขรึม แต่แท้จริงแล้วท่านเป็นเหมือนคุณปู่ใจดีที่ชอบสั่งสอนลูกหลาน และเด็กๆชาวฟูดินันทุกคน อยากให้ลุกหลานได้ดี เป็นหมอยาของเผ่า รักษาได้ด้วยทั้งยาและเวทย์ มีทั้งณาญและตบะแก่กล้า เสมือนเป็นผู้วิเศษก็ว่าได้ เข้าใจในธรรมชาติ ป่าไม้ภูเขา สายลม และ สายน้ำ อย่างลึกซึ้ง คำพูดของท่าน อาจจะเข้าใจยากซักนิด แต่ทุกคำแฝงไปด้วยปรัชญา เป็นคำคมที่ลึกซึ้ง

Etienne&Coralie,king and Queen of Annedesonge
ราชาและราชินีแห่งแอนดิซอง ปกครองผืนแผ่นดินใหญ่ของแอนดิซอง ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองท่าAnnedisonge Portland แม้ไม่มีบทบาทอะไรมากนักในภาคนี้ แต่ท่านเป็นผู้ส่งองค์หญิงอลาน่า และองค์รักษ์ อองเดร มาดูแลที่Portlandซึ่งเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ด้านการค้าและนำเงินตราเข้าประเทศ
Alicia,the queen of Felasia
ราชินีแห่งเฟลิเซีย เป็นพระมารดาขององค์หญิง เรจิน่า เป็นสตรีที่มีสติปัญญา ความสามารถ และสายพระเนตรที่ยาวไกล เป็นผู้เลี้ยงดู เรจิน่าและซิกมันด์ หลังจากที่พระราชาทรงเด็จสวรรคตจากการต่อสู้กับอสูรกายร้าย ซิกมันด์ เป็นองค์รัชทายาทที่ทุกคนฝากความหวังไว้ เป็นผู้สืบสายเลือดอัศวินผู้กล้าแห่งเฟลิเซีย เขาจึงใกล้ชิดพระบิดาเป็นพิเศษ ซิกมันด์นั้นจะทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้อง มากกว่า สิ่งที่ใจอยากจะทำ ผิดกับเรจิน่าที่หันมาใกล้ชิดพระมารดา และได้รัการสั่งสอนจากพระมารดาให้เป็นดังสายลมอิสระ ราชินี อะลิเซีย ทรงสอนให้ เรจิน่าเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด อย่าไปสนใจกรอบที่สร้างเพื่อขังตัวเอง ให้มีความมั่นใจในตัวของตัวเอง และ ทำในสิ่งที่ตัวเองพิจารณาอย่าถี่ถ้วนแล้วว่าถูกต้อง พระนางจึงมีอทธิพลอย่างมากต่อการที่ทำให้เรจิน่ามีความคิดและทัศนะคติที่ต่างจากซิกมันต์

Rufus,Annedisonge Trader
1ใน3อาชีพใหม่ของภาคSecondary Edition
รูฟัสก็เหมือพ่อค้าทั่วๆไปที่หาผลประโยชน์เข้าตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีหัวหน้าสมาคมพ่อค้าแห่ง แอนดิซอง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่เผ่าและเมืองต่างๆ ตลอดจนการซื้อผู้อพยพไฟสงครามมาเป็นทาส ด้วยอำนาจเงินทำให้เขามีอิทธิพลในทางการเมืองด้วย สำหรับเขาสงครามคือจังหวะเวลาที่ต้องแสวงหาประโยชน์

[เซนต์ แมกนัส]

Harvest Spirit ภูตเก็บเกี่ยว

ว่ากันว่าต้นหมากรากไม้ใดที่มนุษย์ไม่ได้เก็บกิน ภูติเก็บเกี่ยวจะเป็นผู้เก็บเกี่ยวและทิ้งมันลงสู่พื้นดิน เพื่อให้เจริญงอกงามต่อไป

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสาวชาวนาที่บิดาล้มป่วย เมื่อข้าวของเธอสุก เธอไม่มีเวลาที่จะเก็บเกี่ยวได้เพราะต้องดูแลพ่อ เธอเสียดายนักที่ปีนั้นผลผลิตดี แต่ข้าวมากมายกลับต้องปล่อยทิ้ง ให้นกกากิน และตกสู่พื้น เธอจึงขอร้องต่อภูติเก็บเกี่ยวให้รอเวลาที่พ่อเธอจะหายดี อย่าเพิ่งเกี่ยวข้าวของเธอลงพื้น

วันรุ่งขึ้นข้าวทั้งหมดกลับถูกเกี่ยวหมดทั่วท้องนา เธอตกใจร้องไห้ ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งถือเคียวรูปร่างประหลาด มาปลอบเธอและบอกว่าข้าวทั้งหมดของเธอเขาได้ช่วยเกี่ยวไว้ให้และได้เก็บไว้ในยุ้งฉางของเธอ เธอซาบซึ้งในน้ำใจชายหนุ่มนิรนาม จึงได้ทำอาหารเลี้ยงเขา และเมื่อเขาจากไปเธอได้พยายามไถ่ถามคนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครเคยเห็นหรือเคยรู้จักชายคนนั้นเลย

ชาวฟูดินัน จึงมีประเพณี บูชาภูติเก็บเกี่ยว โดยจะช่วยเก็บเกี่ยวข้าวให้คนในหมู่บ้านที่ไม่มีคนงาน โดยเมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จ บ้านนั้นจะทำอาหารเลี้ยงผู้ที่มาช่วย และร้องเพลงรื่นเริงที่มีเนื้อหาเล่าถึงสาวชาวนาและภูติหนุ่ม

[เซนต์ แมกนัส]

Lonely Squire : เป็นทหารฝึกหัดตัวละครเอกที่ปรากฏในนิทานของแอนดิซอง
เป็นเด็กคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักรบที่เก่งกล้า จึงมาเป็นทหารฝึกหัด ผู้ติดตามอัศวิน อย่าง Squire
นิทานเรื่องนี้เป็นนิทานสั้นๆที่ผู้คนนิยมเล่าขานถึงในประเทศแอนดิซอง โดยที่บรรดาพ่อแม่ที่มีบุตรธิดาก็มักนำนิทานเรื่องนี้เล่าให้ลูกหลานของตนฟังในโอกาสต่างๆ
แต่คำถามว่าเค้ามาจากไหน ทำไมต้องอยู่ลำพังคนเดียว (Lonely) ก็ต้องรอดูกันต่อไปถึงที่มาของนิทานเรื่องนี้ครับ


Monster ธาตุน้ำ สัตว์ขั้วโลกทั้งหลายเช่น วอลลัส แมวน้ำ นาค และตัวอื่นๆ อาศัยอยู่ในเขตน้ำแข็งของประเทศแอนดิซอง
ในส่วนที่หนาวเย็นจัด ซึ่งหมายความว่าพวกมันหลายๆตัวอยู่ในเมอร์ริเซีย หาอยู่ที่ขั้วโลกแบบที่หลายๆคนเข้าใจไม่


มาวินแสงตัวละครลับ หอ หึๆ



ช้างปริศนาในถ้วย (Mysterious Elephant) เป็นช้างจิ๋วลึกลับที่อาศัยอยู่ในเขตป่าลึกของฟูดินัน ด้วยว่าช้างตัวนี้มีขนาดเล็ก และเป็นสัตว์หายากเอาเสียมากๆ มันจึงมีความสามารถในการทำอันตรายผู้ที่จะมาทำร้ายมันด้วยการพ่นพิษร้ายใส่จากงวงได้
ภายหลังเรื่องของช้างปริศนานี้เลื่องลือไปจนเป็นที่ต้องตาต้องใจของนักสะสมหลายๆคน จึงมีการไปจับมันออกมาจากป่าฟูดินัน และนำไปขายเป็นสินค้าสัตว์หายากที่เลี้ยงไว้ในแก้ว อย่างที่เราเห็นกัน



ส่วนพวกชื่อสัตว์อื่นๆ กริฟฟิน หรืออะไรที่ไม่มีชื่อเฉพาะก็เป็นสัตว์ทั่วๆไปในโลกของเรานั่นเองครับ


Jormungand เป็นมังกรทะเลในแอนดิซองที่ถูกควบคุมบังคับโดยทางตระกูลของวิโอเรีย ในฐานะแม่มดน้ำแข็ง (Frigid Witch)
ที่มีมนต์สะกดสามารถควบคุมมันได้ ซึ่งมนต์สะกดที่ใช้บังคับ Jormungard นี้ สามารถใช้ควบคุมได้ตามต้องการไม่ว่าจะให้ว่ายน้ำหรือไปที่ไหน หรือแม้แต่ใช้เพื่อจุดประสงค์ไหน


Titan หลายๆตัวที่เป็นเครื่องจักรเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากร่องรอยของอารยธรรมโบราณ และ เครื่องจักร และมีมนตรามาผสานด้วยกันขึ้นมาอีกที ทำให้มีความใกล้เคียงกับโกเลมที่เป็นชีวิตที่เกิดจากวัตถุ


Mercenary ทั้งหลายเป็นทหารรับจ้างที่มีอยู่ทั่วไปตามดินแดนต่างๆ
อย่าง Outlaw Mercenary ก็เป็นทหารรับจ้างที่อยู่ในเขตฟีเลเซีย ซึ่งเบแวนก็ได้ออกจากตระกูลไปเป็นทหารรับจ้างอย่างพวก Outlaw Mercenary ด้วย (ลองสังเกตอาวุธจะเห็นว่าเหมือนกันเลย)

Mor Mercenary ก็เป็นทหารรับจ้างจากกลุ่มมอร์ที่ทางซาโลมจ้างมาในศึกสงครามนี้ ขณะที่ Kuno Mercenary เป็นทหารรับจ้างที่ใช้อาวุธและศิลปะการต่อสู้แบบประเทศทางตะวันออก



1.Dark Widow เป็นปีศาจแมงมุมแม่ม่ายดำที่อาศัยอยู่ในป่า คอยล่อลวงผู้ที่เข้าไปด้วยเสน่ห์ และ พิษ

2.Benshee เป็นปีศาจตัวหนึ่งใน Terra ที่มักร้องโหยหวนด้วยเสียงอันน่าขนพองสยองเกล้า ว่ากันว่ามันมักจะปรากฏในสถานที่ซึ่งมีคนกำลังจะตาย หรือ มีสิ่งที่เลวร้ายกำลังจะอุบัติ และร้องโหยหวนราวกับเป็นเสียงร้องหาความตาย หรือ ลางร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ ที่นั้น
ส่วนการที่ขี่ Nightmare ได้ เพราะเป็นการร่วมมือกันระหว่างปีศาจ 2 ตัว ที่เป็นเครื่องหมายแห่งโชคร้าย และ ความตาย
แต่ปกติปีศาจทั้งสองตัวไม่มาร่วมกันง่ายๆ และการที่ปีศาจที่เกี่ยวกับความตายถึง 2 ตัวนี้มาร่วมกันก็ทำให้เกิดความตาย และ ความน่ากลัวอันน่าสยดสยองเหนือกว่าความน่ากลัวใดๆทั้งสิ้น การที่จะเป็นเช่นนี้ได้ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าต้องมี Necromancer ซะคนอยู่เบื้องหลังการปรากฏของ Benshee Nightmare ส่วนจะเป็นอย่างไรต้องติดตามนิยายกันต่อไปครับ


3.Succubus รอติดตามในนิยายเร็วๆนี้น่าจะได้อ่านงับ


4.Adder Lady เป็นสตรีคนหนึ่งที่มีความผูกพันกับงูอย่างมาก อยู่ด้วยกันกับงูจนสนิทชิดเชื้อ และสามารถควบคุมสั่งงูเหล่านั้นได้ราวกับแขนขาของตน

Tartaroo เป็นสัตว์ประหลาดธรรมดาตัวหนึ่งที่คืบคลานไปตามพื้น คอยทำร้ายสูบพลังจากเหยื่อที่เคราะห์ร้าย (ตามภาพ)
แล้วจึงคลานหนีกลับไปยังแหล่งที่อยู่ของมัน

Thaliwilya นี้ลองอ่านตาม counter กับเรื่องก่อนหน้านั้นก็น่าจะ get แล้วนะครับ จากผู้กล้าที่กลายเป็นเทพมังกร

Dread Knight เป็นอัศวินที่เคยร่วมทำศึกสงครามในครั้งอดีตตั้งแต่ยุคโบราณก่อนที่จะเป็นอาณาจักรดังเช่นปัจจุบัน แล้วได้จบชีวิตลงในสนามรบ แต่กลับหารู้ว่าตัวเองตายไปแล้วไม่ ยังคงเฝ้าวนเวียนทำร้ายฆ่าฟันทุกคนที่พบเจอประหนึ่งเป็นอริศัตรูในสนามรบที่ต้องปราบให้สิ้น Dread Knight คนนี้มีชื่อจริงๆสมัยมีชีวิตอยู่ว่า Haemon โดยที่เขาถูกเรียกกลับมายังโลกนี้อีกครั้งด้วยฝีมือของ Black Wiser หลังจากเขากลับมาแล้ว เขาก็เริ่มอาละวาดฆ่าฟันทุกคนที่พบเห็นทันทีโดยไม่แบ่งแยกว่าจะเป็นใคร เป็นฝ่ายศัตรูหรือฝ่ายเดียวกัน (หากสังเกตภาพจะเห็นว่าทั้งทหารฟีเลเซีย และ ซาโลม ต่างต้องพากันหนีหัวซุกหัวซุน เพราะ Dread Knight ฆ่าไม่เลือกหน้านั่นเอง)

[เซนต์ แมกนัส]

Lexkelos, Anemokelos, Sagkelos

ในบรรดาเทพและฑูตสวรรค์ของพระเป็นเจ้านั้น แต่ละองค์จะทำหน้าที่แตกต่างกันออกไปตามคุณลักษณะของเทพองค์นั้นๆ เทพหลายๆองค์เป็นจิตพลังงานในธรรมชาติ ที่คอยรักษาสมดุลของธรรมชาติ เช่น เทพีแห่งสายชล Undine ที่คอยดูแลสายน้ำ เทพี Raina ที่คอยสร้างสายฝน เทวดาประจำสายลมทั้ง 4 จนไปถึงบรรดาแฟรี่ต่างๆในธรรมชาติ เทพยดาอารักขเทวดาของแต่ละคน และ เทพคุ้มครองประเทศ
เทพทั่วไปจะทำงานอยู่ในโลก Terra เพื่อคอยรักษาสมดุลต่างๆในโลก ในขณะที่เทพระดับสูงจะพำนักในสวรรค์ อยู่ในมิติที่สูงกว่ามนุษย์ และเทพใน Terra เทพเหล่านี้จะไม่ติดต่อหรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในโลก Terra หากไม่มีเหตุจำเป็น ซึ่งตัวอย่างเทพในสวรรค์ที่มีความยิ่งใหญ่ เปี่ยมด้วยสิริรุ่งโรจน์ก็คือ หลักสวรรค์ทั้ง 5 นั่นเอง
ในบรรดาเทพที่พิทักษ์สิ่งต่างๆในโลก Terra นั้น มีเทพอยู่ 3 องค์ ที่ทำหน้าที่พิทักษ์คุณลักษณะเทวภาพของเทพใน Terra อันได้แก่ “กฎ” “จิตวิญญาณ” และ “ความศักดิ์สิทธิ์” คือ Lexkelos, Anemokelos และ Sagkelos ตามลำดับ


Lexkelos คือ กฎ ระเบียบ ความถูกต้องเที่ยงธรรม ที่มิอาจถูกละเมิดได้ Anemokelos คือ สายลม จิตวิญญาณ บริสุทธิ์และ Sagkelos คือ ความศักดิ์สิทธิ์ ความดีงาม ที่ปราศจากซึ่งมลทินใดๆ
ทั้งสามเทพสื่อถึงเทวภาพของเทพซึ่งมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า คือ เป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่รักษากฎของ Terra เอาไว้ เทพทั้ง 3 องค์นี้เป็นเทพในโลก Terra ที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเทพในสวรรค์อย่างเช่นบรรดาหลักสวรรค์ แต่ก็เป็นเทพที่จัดว่าอยู่ในระดับแนวหน้าเมื่อเทียบกับเทพองค์อื่นๆในโลก Terra

ปกติเทพทั้งสามองค์นี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของสรรพชีวิตทั้งหลายในโลก แต่หากมีเหตุจำเป็นที่เทวภาพของเทพใน Terra จะถูกลบหลู่ให้ด่างพล้อยเมื่อใด เทพแต่ละองค์ในสามองค์จะปรากฏกายขึ้นในมิติของโลก เพื่อปกป้องคุณลักษณะเทวภาพนั้นๆ ว่ากันว่าหากเทพทั้งสามองค์ปรากฏขึ้นพร้อมกันเมื่อใด เมื่อนั้นจิตวิญญาณแห่งกฎอันศักดิ์สิทธิ์จะแพร่กระจายไปเป็นรัศมีความสว่างที่ยิ่งใหญ่ที่เผาผลาญความชั่วร้ายทั้งหมดจนมลายสิ้น


สภาพของเทพในโลก Terra มี 3 สิ่งประกอบด้วยกันคือ

1.Pneuma จิตวิญญาณ หรือสภาพร่าง Astral Body ที่เป้นร่างวิญญาณพลังงานในมิติที่สูงกว่าของมนุษย์ สื่อแทนด้วย Anemokelos

2.Law หรือ กฎ จิตที่ทำตามใจชอบโดยไร้ซึ่งกฎ หรือ รูปแบบก็ไม่ต่างจากจิตวิญญาณที่ขาดสติ ดังนั้นเทพต่างจากจิตททั่วไปเหล่านั้นคือเป็นจิตที่รักษากฎที่ได้รับมอบหมายไว้ของพระเจ้า หากเทพแหกกฎก็หาใช่เทพต่อหากแต่กลายเป็นมาร หรือ evil ไป สื่อแทนด้วย Lexkelos

3.Sacracity หรือความศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่เทพมี คือเป็นจิตด้านบวก ที่เกิดจากพลังงานด้านบวก ต่างกับผีปีศาจที่เป็นพลังงานด้านลบเป็นต้น สิ่งที่เทพมีคือความศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง สื่อแทนด้วย Sackelos


ดังนั้น 3 เทพ สื่อถึงเทวภาพทั้ง 3 อันเป็นคุณลักษณะของเทพที่ดำรงใน Terra
ในขณะที่เทพในสวรรค์ที่สูงกว่าย่อมมีคุณลักษณะ เทวภาพ สูงกว่านั้นไปอีก อย่างหลักสวรรค์ชื่อจะแทนเทวภาพ หลักคุณงามความดีแต่ละอย่าง เช่น Virtutem (คุณธรรม) Jennifer (ความบริสุทธิ์) เป็นต้น

[เซนต์ แมกนัส]

เมฟิส เป็น1ใน4 เนรโครแมนเซอร์ ที่ถูกล่าวขวัญถึงมากที่สุดในเมอริเซีย และทวีปใกล้เคียง เซอร์เซส ได้ชื่อว่า อหังการแห่งเงา แต่เมฟิสได้ชื่อที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง คือ บุรุษที่ตบหน้าซาตาน

อดีตพระชั้นเดค่อนในมิราบิริส ที่พลิกผลันตัวเองมาเป็นเนรโครแมนเซอร์ หลังจากการเห็นนิมิตของAngel of Pantacle ที่เปิดประตูใต้พิภพให้เขาเห็นนรก

สามเณรที่มีพลังธรรมสูงส่ง แต่กลับไม่สามารถเลื่อนชั้นขึ้นเป็นPriestได้ แต่ทุกอย่างมีเหตุผล ไม่มีอะไรที่ไม่มีสาเหตุ เมื่อเขาเลือกทางที่หลอกลวงแม้แต่พญามาร

แม้จะกลายเป็นบุคคลต้องห้ามในการนำประวัติมาศึกษาเหมือน แวเลี่ยน แวสเลย์ แต่เขาเป็นเนโครแมนเซอร์คนเดียวที่ผู้คนยกให้เป็นวีรบุรุษ

[เซนต์ แมกนัส]

มิราบิลิส

เป็นนครที่ฮารีซันกับเรจิน่าช่วยก่อตั้งขึ้นมา อยู่ระหว่าง ฟีเลเยกับฟูดินันที่พื้นที่เดิมของวาเลียนดิซทริค ที่บินขึ้นฟ้าไปแล้ว (เต่าบิน) คนของฟูดินันกับฟีเลเซียก็มาอยู่ร่วมกันเป็นการประสานระหว่าง 2 อาณาจักรที่กลมกลืนกัน วัฒนธรรม ประเพณีอะไรก็ถุกหล่อหลอมรวมกัน Akamu ก็ได้ติดตาม ฮารีซัน มาที่นี่ด้วย และก่อตั้งตระกูล Inzu ขึ้นที่นั่น

ต่อมากำเนิดบุตรชายของ ฮารีซัน และ เรจิน่า ชื่อ ว่า เอลิยาห์
เอลิยาห์ เป็นกษัตริยืปกครองมิราบิลิสในยุคต่อมา โดยที่ผู้ที่เป็นราชครูของพระองค์ก็ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็น Kimberly Inzu นั่นเอง