หลุยส์ สตีเฟน และฟรานซิส ซึ่งเป็น คาริสมาติกเทมพลาร์ ตกลงใจกันว่าจะแอบเข้าไปสอดแนมในซาโลม เพื่อหาข่าวและหาข้อมูลในความเป็นไปได้ทั้งหมดที่จะบุกยึดซาโลม ทั้งหมดลอบเข้าไปราว1สัปดาห์ เมื่อกลับมา มีเพียงหลุยส์ ฟรานซิสที่บาดเจ็บ และร่างไร้วิญญาณของสตีเฟน ทุกคนเสียใจมากโดยเฉพาะในกลุ่ม คาริสมาติกเทมพลาร์ที่ร่วมรบด้วยกันมาโดยตลอด และข้อมูลที่ได้มานั้น ก็ยิ่งทำให้ความเป็นไปได้ในการบุกยึดซาโลมเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น ซาโลมนั้นใหญ่โตกว่าซานตาน่าหลายเท่า ยิ่งในเวลานี้ พื้นที่ทั้งหมดกลายเป็นจักรกลทั้งเมือเชื่อมต่อและแทบจะกลายเป็นโครงข่ายจักรกล มีจักรกลขวักไขว่ และมีระบบป้องกันภัยที่ซับซ้อน และแม้สตีเฟนที่มีพลังพิเศษก็ยังตกเป็นเหยื่อของการทำลายของจักรกล
เรื่องที่น่ากังวลอีกอย่าง ดูเหมือนว่าจักรกลกำลังพร้อมจะบุกอีกระลอกในเร็วๆนี้
ทุกคนสลดหดหู่ใจ เพราะตอนนี้คงเหลือแต่การตั้งรับไปเรื่อยๆ การเป็นฝ่ายบุกเห็นทีจะยากยิ่ง
ฟาติมาเสียใจมาก ร้องไห้เสมอในเวลาอธิษฐาน ขอทางออกที่ความทุกข์และความทรมานของทุกคนจะจบสิ่้นเสียที ในไม่ช้าเธอได้สติขึ้นมาว่าการฟูมฟายไม่ช่วยอะไร เธอจึงทุ่มเทสมาธิและจิตใจในการอธิษฐานเพื่อขอความช่วยเหลือจากเบื้องบน
The Prayerฟาติมาถือศีล รับประทานเพียงขนมปังกับน้ำเปล่า เธออธิษฐานด้วยความพากเพียรจนถึงวันที่7 เธอเข้าสู่ภวังค์ล้ำลึก ท่านนักบุญอลาน่าปรากฎมาพบเธอ และเธอได้เก็บข้อความในการสนทนาทั้งหมดนี้เป็นความลับ
ฟาติมานั้นตั้งแต่อยู่ในหอคอย ก็เหมือนไม่มีญาติพี่น้อง นอกจากซิสเตอร์ที่ดูแล และรอดริโก้ที่เป็นเหมือนพี่ชาย ฟาติมาเชิญรอดริโก้มาพบ และการสนทนาที่หอคอยทองคำในเวลาเย็นที่มีสายลมอ่อน ภายใต้ท้องฟ้าสีทองก็เริ่มขึ้น ทั้งสองพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบ พูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
"ถ้าสงครามสงบลง พี่รอดริโก้จะได้แต่งงานกับพี่ซิเมนอาซะทีนะ "
"อะไรกันฟาติมาอยู่ๆก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา" รอดริโก้หันหน้ามองทิวทัศน์ด้วยความเขิน
"จริงๆนะ ถ้าพี่สองคนแต่งงานกันหนูจะดีใจมาก"
รอดริโก้มองไปไกลลิบคิดถึงสันติภาพที่ดูจะไกลห่าง
"หนูรู้ดีว่าเพื่อความสงบสุขของทุกคน พี่จะไม่เสียดายชีวิตเลยทีเดียว พี่รู้ไหม หนูก็ยินดีทำเหมือนกัน"
รอดริโก้จับไหล่ฟาติมาเบาๆ
"พี่รู้ดีว่า ฟาติมากล้าหาญ ไม่แพ้ทหารคนไหนในหน่วยของเราเลย แต่ตอนนี้ฟาติมาก็สละชีวิตเพื่อทุกคนอยู่แล้วนี่"
"แต่หนูทำได้มากกว่านั้นนะคะ"
เธอจ้องรอดริโก้ สีหน้าจริงจัง
"ถ้าหนูสละชีวิตเพื่อทุกคนจริงๆ พี่รอดริโก้อย่าเสียใจนะเพราะหนู ภูมิใจและยินดีมาก"
"ถ้าใครมาทำอะไรฟาติมา ต้องข้ามศพพี่ไปก่อน"
ฟาติมากอดรอดริโโก้ พยายามกลั้นน้้ำตา
"หนูรู้ว่าพี่ทำแบบนั้นแน่ๆ"
รอดริโก้ขมวดคิ้วถามขึ้น
"ทำไมอยู่ๆพูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาล่ะ"
ฟาติมาแสร้งเดินไปที่ระเบียง สะกดกลั้นความรู้สึกในชั่วครู่ หันมายิ้มกล่าวว่า
"หนูรู้ทางที่สันติภาพจะเกิดขึ้นได้ แต่หนูยังบอกใครไม่ได้ อีกไม่นานพี่ก็จะรู้"
ฟาติมาชี้ไปที่สารสวรรค์บนโต๊ะของเธอ
"พี่รู้ใช่ไหมว่าม้วนสารนั้นมีความพิเศษ บางคนจะเห็นตัวอักษรในนั้นได้ วันหนึ่งพี่ก็จะเห็นและพี่ก็จะเข้าใจอะไรหลายอย่างเลย"
รอดริโก้ยิ้ม มองเด็กสาวอย่างเอ็นดู
"พี่จะมีบุญได้เห็นกับเขาเมื่อไรก็ไม่รู้ ฟาติมาพร้อมเมื่อไร ค่อยบอกพี่ก็ได้"
"พี่จะได้เห็นจริงๆนะคะ แต่พี่รับปากหนูนะ ว่าเมื่อสันติภาพเกิดขึ้น พี่จะแต่งงานกับพี่ซิเมนอา และใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข"
"จ๊ะๆ แต่งก็แต่ง ว่าแต่ฟาติมาเองก็ต้องมีความสุขด้วยนะ"
ฟาติมายิ้มตาเป็นประกายอิ่มอาบด้วยน้ำตาที่หล่อเลี้ยง
"ถ้าสันติภาพเกิดขึ้น หนูจะมีความสุขกว่าใครทั้งหมดเลย"