1 เดือนต่อมา
“นาดาตอนนี้ขุนนางที่อยู่ฝ่ายเรามีกี่คน?”
“32 คนเพคะ แต่พวกที่อยู่ฝ่ายเนาฟัลมีถึง 45 คน นอกนั้น 23 คนเป็นพวกที่เป็นกลางเพคะ”
ตลอดเดือนซูไลก้ากับคนสนิทวิ่งเต้นเพื่อซื้อคะแนนเสียงขุนนางที่มีสิทธิลงคะแนนให้เห็นด้วยกับการเปลี่ยนเส้นทางการซื้อขาย ขณะที่อิสฮาน แอบลอบพบกับขุนนางผู้ใหญ่หลายคนซึ่งก็เป็นผลสำเร็จ แต่คะแนน 32 เสียงที่ได้มายังน้อยเกินไป โดยเฉพาะขุนนางกลุ่มเป็นกลางที่ยังไงก็ไม่ยอมเปลี่ยนจุดยืนของตนเอง
“ซูไลก้าข้าขอบใจเจ้ามากที่ยอมช่วยเหลือกันขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่นี่ไม่ใช่บ้านเมืองของเจ้า”
“อิสฮานท่านเป็นสามีข้านะ ถ้าท่านรักซาโลมข้าก็จะรักด้วย ถ้าท่านทำเพื่อประชาชนข้าก็จะทำด้วย”
ขณะเดียวกันในคฤหาสน์ของเนาฟัล
“เป็นไปได้ยังไง ตั้ง 29 คนเชียวเรอะที่พวกมันได้ไป” เนาฟัลทุบโต๊ะหน้าแดง
“แค่ตัวเลขประมาณการณ์น่ะขอรับ อาจมากหรือน้อยกว่านี้ซักคนสองคน”
“ปล่อยพวกมันวิ่งหัวหมุนกันไปเถอะ เวลาแค่เดือนเดียวพวกมันไม่มีทางทำได้สำเร็จแน่”
ยิ่งใกล้วันลงคะแนนความกดดันยิ่งแสดงออกผ่านทางสีหน้าของราชาและราชินี ทั้งสองต่างซูบผอมและหน้าซีด บางคราวอิสฮานถึงขนาดให้ซูไลก้าขึ้นว่าราชการขัดตาทัพบ้างทำให้เหล่าขุนนางที่รู้เกมใต้โต๊ะดีต่างพากันเป็นห่วงสุขภาพ แต่ทำได้เพียงปล่อยให้ละครการเมืองดำเนินไปสู่บทสรุปของมันเอง
แล้ววันลงคะแนนก็มาถึง อิสฮานกับซูไลก้านั่งเคียงคู่กันด้วยสีหน้าสดชื่นหน้ากล่องโลหะสีดำสนิท กระดาษลงคะแนนค่อยๆ ถูกนับทีละใบละใบ เมื่อคืนนาวาร่าเพิ่งแจ้งว่าขุนนางที่อยู่ฝ่ายอิสฮานตอนนี้มีถึง 47 คน แม้จะมากกว่าฝ่ายเนาฟัลเพียงแค่ 2 คน แต่ก็น่าเสี่ยง คะแนนทั้งสองฝ่ายไล่เลี่ยกันขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง
“ไม่เห็นด้วย 46 คน”
อิสฮานกับซูไลก้ามองหน้ากันด้วยความตกใจ พอดีกับที่อาซาร่าวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“ฝ่าบาท ต้องใช้อำนาจของพระองค์ยกเลิกการนับคะแนนเดี๋ยวนี้ มีขุนนางแปรพักตร์ประมาณ 10 คน”
“ไม่ทันแล้วล่ะ” อิสฮานพูดเบาคล้ายให้ตัวเองฟังเท่านั้น คะแนนฝ่ายที่เห็นด้วยให้เปลี่ยนเส้นทางมีเพียง 37 คน ส่วนฝ่ายที่ให้เดินทางไปโซปราโนก่อนมีถึง 55 คน แพ้ขาดทีเดียว ส่วนเนาฟัลนั้นได้คิดกับตัวเองในใจ ไอ้โง่อิสฮานเอ๊ย บัตรลงคะแนนที่มีธรรมเนียมต้องลงชื่อด้วยใครจะอยากเสี่ยงกันล่ะ
“ฝ่าบาท ในเมื่อคะแนนเสียงส่วนมากเห็นว่าไม่ควรทำตามความคิดของพระองค์ ถ้าเช่นนั้น..”
“ขออนุญาต ตอนนี้ขบวนเรือของท่านจีนกับท่านฟิเดลม่าเดินทางกลับมาจากสวาเนียแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
เสียงเซ็งแซ่ดังทั่วท้องพระโรง เนาฟัลที่พูดไม่ทันจบดีงงเป็นไก่ตาแตก ไม่นานจีน (Gene, the Prophet’s follower) กับ ฟิเดลม่า (Fidelma, the Prophet’s follower) สองสาวแกร่งแห่งคณะประกาศกในครั้งอดีตก็เดินอย่างผ่าเผยเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์หน้าตาประหลาด พร้อมช่างเทคนิคจากสาธารณรัฐสวาเนีย
ge2 copy.jpg
“ทูลฝ่าบาท ตอนนี้พวกหม่อมฉันได้ซื้อเครื่องค้นหาแหล่งน้ำใต้ดินจากสาธารณรัฐสวาเนียมาแล้ว โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางคนใด” จีนพูดเสียงดังโดยเน้นคำว่า “ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง” ให้ได้ยินกันทั่ว เนาฟัลโกรธจัดจนควันแทบออกหูแต่ต้องข่มอารมณ์ไว้
“การเดินทางตรงไปสาธารณรัฐสวาเนียผ่านทางทะเลตะวันออกของซาโลมไม่มีอันตรายมากมายอย่างที่กลัวกัน แสดงให้เห็นได้จากเรือที่กลับมาครบทุกลำและสินค้าอื่นๆ ที่เรานำกลับมาด้วย” ฟิเดลม่ารายงาน
“เอาล่ะ” อิสฮานกระแอมเสียงดัง “ตอนนี้เราก็ได้ข้อมูลล่าสุดแล้วว่าการเดินทางไปสวาเนียโดยตรงไม่อันตรายอย่างที่เคยเล่าลือ แต่แค่ครั้งเดียวยังไม่อาจพิสูจน์ได้เราจึงต้องเก็บข้อมูลกันต่อไป
แต่ในเมื่อข้าได้ใช้เงินส่วนตัวซื้ออุปกรณ์หาแหล่งน้ำมาแล้ว ก็คงไม่จำเป็นที่จะใช้เงินแผ่นดินเดินทางอ้อมไปโซปราโนเพื่อไปซื้อให้เสียเวลาอีก พวกท่านจะว่าอย่างไรหากข้าจะขอขายต่อในราคาเท่าทุนให้เป็นสมบัติส่วนรวม ส่วนเรื่องเส้นทางเดินเรือค่อยเอาไว้ว่ากันวันหลัง”
ข้าราชการทั้งหลายเห็นด้วยแทบจะเอกฉันท์เว้นแต่เนาฟัลที่เดินกระแทกเท้าออกไปโดยไม่รักษามารยาท อิสฮานขยิบตาให้เพื่อนสาวประกาศกกับแผนส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิม หลอกล่อผู้เฒ่า
ซูไลก้ามองอิสฮานที่ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ ต่อไปเธอจะเริ่มเกมของเธอเช่นกัน