Chapter 17 ความเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย
หลายเดือนผ่านไป กองทัพส่วนหนึ่งที่ไปประจำการอยู่ที่ชายแดนฟีเลเซียได้เดินทางกลับฟูดินัน ตามแผนการณ์หมุนเวียนกำลังพล ที่ปฏิบัติกันเป็นประจำทุกหกเดือน โดยบรรดาขุนพลฟูดินันจะพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำทัพกลับมา ซึ่งคราวนี้เป็นคราวของฮารีซันเป็นผู้นำทัพ แน่นอนว่าการกลับมาของเขานำความปลาบปลื้มมาให้ชาวฟูดินันและสมาชิกครอบครัว บันดาราเพียงใด
หลังจากได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มแล้ว ครอบครัวบันดาราก็นั่งร่วมโต๊ะทานอาหารค่ำและพูดคุยเรื่องสาระทุกข์สุกดิบ กันจนแทนจะลืมเวลา ต่างเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นไปที่ตนได้ประสบพบเจอมา ฮารีซันก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องสนามรบ สถานการณ์ชายแดนปัจจุบัน ปัญหาในกองทัพและระหว่างกองทัพผสม ฝ่ายวูจิน วานาอัน และ อิสฮานก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในฟูดินัน ทั้งเรื่องปัญหาชาวบ้าน ปัญหาโจรป่า เรื่องสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่แสนน่ารักอย่างชินชิน และ การก่อตั้งกลุ่มเด็กหนุ่มเพื่อร่วมกันปกป้องฟูดินันของอิสฮาน ซึ่งก็ทำให้ฮารีซันรู้สึกทึ่งและขอบใจอิสฮานที่พยายามปกป้องฟูดินันจากพวก โจรป่า
จนเมื่อเรื่องต่างๆ ที่เป็นการเป็นงานถูกถ่ายทอดให้แก่กันและกันจนหมดแล้ว ครอบครัวบันดาราจึงค่อยคุยเรื่องสัพเพเหระต่าง ๆ เพราะความคิดถึงกันจึงไม่มีใครอยากจะจากวงสนทนานี้ไปแม้เวลาจะล่วงเลยค่อน คืนแล้ว
“จริงสิ พี่ฮารีซันรู้ไหมคะ ว่าเดี๋ยวนี้อิสฮานเป็นที่หมายปองของบรรดาเด็กสาวในฟูดินันแล้วนะ” วานาอันพูดยิ้มกว้าง คล้ายกับจะอวดว่าน้องชายของตนเนื้อหอมและเริ่มมีเสน่ห์
“ฮ้า...จริงน่ะหรือ? พี่ยังรู้สึกว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน เจ้ายังเป็นเด็กชายตัวกระเปี๊ยกอยู่เลย นี่เริ่มโตเป็นหนุ่มเนื้อหอมแล้วรึ?” ฮารีซันเบิกตากว้างพูดยิ้มขำด้วยความประหลาดใจ
“ไม่จริงหรอก” อิสฮานกล่าวอย่างขัดเขินพลางลอบมองวานาอันที่กำลังยิ้มแย้มให้กับตน
“นี่เจ้าอายุเท่าไหร่แล้วนี่?” ฮารีซันถามพลางหัวเราะกลั้ว
“ย่างสิบห้า” อิสอานตอบเสียงอุบอิบ
“อย่างนี้ก็ใกล้จะหาคู่ได้แล้วสิเนี่ย” ฮารีซันพูดแซว อิสฮานจึงยิ่งอายเข้าไปใหญ่จึงเริ่มก้มหน้าลง
ทว่า ยังมีอีกคนหนึ่งที่มีอาการผิดปกติ นั่นคือหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ทันทีที่ได้ยินฮารีซันพูดเช่นนั้นวานาอันกลับรู้สึกแปลกๆ เธอหัวเราะไปกับคำพูดของฮารีซันแต่กลับหัวเราะได้ไม่เต็มเสียงเท่าใดนัก หญิงสาวไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเธอเป็นอะไร ระหว่างนั้นฮารีซันยกแก้วน้ำขึ้นดื่มพอดีจึงไม่ได้สังเกตอะไร ทว่าวูจินนั้นเหลือบมองหลานสาวทีเด็กหนุ่มที พลางคิดอะไรบางอย่างในใจก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ฮารีซัน คราวนี้เจ้าจะอยู่ที่นี่นานสักเท่าไหร่รึ?” วูจินถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ ทำให้ทั้งวานาอันและอิสฮานเงยหน้าขึ้นมองฮารีซันเพื่อฟังคำตอบโดยอัตโนมัติ ทั้งคู่ต่างโล่งใจที่หลุดออกมาจากสถานการณ์น่ากระอักกระอ่วนเมื่อสักครู่ได้
“ข้าคิดว่าคงอยู่นานสักหน่อยครับท่านปู่ คงจะสัก 3-4 เดือน เพราะหลังจากที่เราโดนโจรป่าลอบโจมตีหลายครั้ง ถึงแม้ว่าจะได้บรรดาเด็กหนุ่มช่วยกันขับไล่ไป แต่ก็คงมีหลายอย่างที่เสียหาย ข้าตั้งใจจะตระเวณไปรอบๆ เขตที่อยู่อาศัยในฟูดินัน เกณฑ์ชาวบ้านให้ช่วยกันเร่งซ่อมแซมและปรับปรุงแนวป้องกันให้แน่นหนาขึ้น และคิดว่าจะฝึกและวางกำลังทหารยามให้มากขึ้นด้วย”
“เอาอิสฮานไปฝึก กับเจ้าด้วยสิ” วูจินพูดเสนอน้ำเสียงเรื่อยๆ แต่ก็ทำเอาทั้งสามออกอาการตาโตขึ้นมาทันที ต่างหันไปมองวูจินกันเป็นตาเดียว “ไหน ๆ เจ้าก็กลับมาแล้ว เอาอิสฮานไปฝึกพวกศิลปะการต่อสู้เสียหน่อย เขามีความตั้งใจริเริ่มที่ดี แต่ยังขาดทักษะและประสบการณ์การต่อสู้ ถ้าได้เจ้าที่ชำนาญและมีประสบการณ์การต่อสู้ช่วยฝึกฝนให้ เขาต้องเก่งกาจยิ่งขึ้นแน่นอน ต่อไปเวลาเจ้าไม่อยู่พวกเราจะได้เบาใจยิ่งขึ้นอย่างไรล่ะ”
“เป็นความคิดที่เข้าท่าดีทีเดียวครับท่านปู่” ฮารีซันพยักหน้าเห็นด้วย “จริงอย่างท่านปู่ว่า ข้าคงจะสบายใจยิ่งขึ้นเวลาไปชายแดน”
อิส ฮานเมื่อได้ยินดังนั้นก็เห็นดีด้วย ถ้าได้ฮารีซันฝึกวิชาการต่อสู้ให้ เขาก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและสามารถปกป้องทั้งท่านปู่และวานาอันได้ แม้เขาจะไม่ค่อยอยากจะห่างวานาอันสักเท่าไรนักก็ตามที แต่เคยเวลา 3-4เดือนแล้วทำให้เขาเก่งกาจยิ่งขึ้น มันก็คุ้มค่าที่จะแลก
“เจ้าว่าอย่างไร? อยากจะไปฝึกหมัดมวยกับข้าไหม?” ฮารีซันเอ่ยกับอิสฮาน
“ไปครับ” อิสฮานตอบอย่างกระตือรือร้น ทำให้ฮารีซันหัวเราะชอบใจพลางตบไหล่เหมือนพี่น้อง
“ดี เวลาเรามีไม่มาก ข้าคงต้องเขี่ยวเข็ญเจ้าหนักหน่อย อย่าท้อเสียล่ะ”
“ครับ” อิสฮานรับเสียงแข็งขัน
“ดี ถ้าเช่นนั้นคืนนี้เตรียมสัมภาระให้พร้อม เราจะไปกันแต่เช้า ข้าอยากสำรวจความเสียหายในเขตต่างๆ ให้เร็วที่สุด”
“ตั้งใจฝึกนะจ๊ะ” วานาอันกล่าวเสียงแฝงความเศร้า รู้สึกใจหายเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเธอคงจะเหงาแน่ๆ ช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้
“ขอให้เดินทางปลอดภัยทั้งคู่นะ ตั้งใจฝึกล่ะอิสฮาน” วูจินอวยพร
“ครับท่านปู่” อิสฮานตอบรับ ก่อนที่สายตาจะละห้อยมองหญิงสาวด้วยความเศร้า